นัมเมียวโฮเร็งเงเคียว สัทธรรมปุณฑริกสูตร (ธรรมของพุทธ)

นัม เมียวโฮ เร็งเง เคียว หรือ สัทธรรมปุณฑริกสูตร พระสูตรสูงสุดของพระพุทธเจ้า

ใครที่นับถือและสวดมาตลอด เราจะได้ยินคำว่า เป็นการสวดธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าในช่วง
8 ปีสุดท้ายก่อนพระองค์จะเสด็จสู่ปรินิพพาน
แต่ก็ยังมีหลายคนเข้าใจไปต่างๆ นานา ว่า นัมเมียวโฮเร็งเงเคียว นี่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ.....

แต่ความจริงแล้ว...นัมเมียวโฮเร็งเงเคียว คือ ธรรมคำสอนที่สูงที่สุดที่พระพุทธเจ้าทรง
เทศนาธรรมไว้ในช่วง 8 ปีสุดท้าย ก่อนพระองค์จะทรงปรินิพพาน โดยพระองค์ทรงเทศนาแก่ลูกศิษย์ของ
พระองค์ที่ได้บวชเป็นพระสงฆ์ และพระอานนท์ได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับสัทธรรมปุณฑริกสูตรไว้


สัทธรรมปุณฑริกสูตร มีประวัติความเป็นมามากกว่า 3,000 ปี

หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะทรงละทิ้งความสุขสบายต่างๆ เพื่อเสาะหาวิธีที่จะแก้ไขความทุกข์ยาก
ของมนุษย์ และได้ค้นพบคำสอนสูงสุดที่เรียกว่า “สัทธรรมปุณฑริกสูตร” ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า

แต่ประชาชนสมัยนั้นยังไม่สามารถเข้าใจคำสอนที่พระองค์เทศนาได้ พระพุทธองค์จึงต้องเปลี่ยน
แนวทางการสอนเป็นลักษณะของ “ศีล” หรือ "ข้อห้าม" เป็นส่วนมาก ซึ่งเป็น "คำสอนพื้นฐาน"
เรียกว่า พุทธศาสนา ผ่านหินยาน ซึ่งมีความหมายว่า ยานลำ เล็กที่
สามารถช่วยเหลือเพียงชนกลุ่มน้อยเท่านั้น
ก่อนที่จะสอนสัทธรรมปุณฑริกสูตรแก่ลูกศิษย์ดั่ง
ที่ปรากฏในคำแปลของบทสวด นัม เมียวโฮ เร็งเง เคียว (: เฉพาะพระพุทธกับพระพุทธเท่านั้นที่
สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ในลักษณะที่เป็นจริงของปรากฏการณ์ทั้งหลาย )


จวบจน 8 ปีสุดท้ายก่อนที่พระองค์จะเสด็จสู่ปรินิพพาน จึงได้ สอนคำสอน ฝ่ายมหายาน คือ
สัทธรรมปุณฑริกสูตร 28 บท ซึ่งเป็นคำสอนที่พระพุทธองค์ปรารถนาที่จะเทศนาสั่งสอนประชาชน
โดยสอนเรื่องที่สำคัญ 2 เรื่องคือ
1. สอนว่าชีวิตเรานั้นมีอยู่ตลอดเวลา
2. สอนว่ามนุษย์ทุกคน มีสภาวะพุทธะที่สูงส่งอยู่ภายในชีวิตทุกคน



นัม เมียวโฮ เร็งเง เคียว ตู้พระ และ บทสวดภาษาญี่ปุ่น

ดั้งเดิมเป็น ภาษาสันสกฤต โดยในคริสตศวรรษที่ 13 พระเร็นโช หรือ พระนิชิเร็นไดโชนิน ท่านได้
สังคยนาพระสูตร สัทธรรมปุณฑริกสูตร หรือที่เรียกว่า นัม เมียวโฮ เร็งเง เคียว โดยมีความหมาย ดังนี้

นัม (南無 – Nam, Namu) – นะโม คือ การอุทิศ
เมียวโฮ (妙法 – Myōhō) – สัทธรรม คือ ธรรมะอันอัศจรรย์
เร็งเง (蓮華 – Renge) – ปุณฑริก คือ ดอกบัว สื่อถึง เหตุและผลเกิดขึ้นพร้อมกัน
เคียว (経 – Kyō) – พระสูตร สื่อถึง เสียงของสรรพสัตว์ ความเกี่ยวโยงซึ่งกันและกันในทุก ๆ ระดับ

โดยตู้พระ ที่มีการไหว้สวดบูชานั้น คือ พระสูตรที่รวบรวม พระพุทธพจน์ทั้งสิ้น 84,000 พระธรรมขันธ์


และนอกจากนี้ ในหลักธรรมคำสอนของ สัทธรรมปุณฑริกสูตร ยังมีเนื้อหาสาระสำคัญเกี่ยวกับ สภาวะจิต
ของมนุษย์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 10 โลก ซึ่งถ้าศึกษาอย่างลึกซึ้ง จะพบว่า ในคำสอนนั้นได้ระบุไว้ว่า
"มนุษย์ทุกคนสามารถบรรลุไปสู่โลกสุดท้ายคือ โลกพุทธ ได้" โดยการที่จิตของมนุษย์ทุกคน สามารถบรรลุ
ไปสู่สภาวะพุทธะ (เราไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้อง กับ การตื่นรู้ หรือไม่น่ะค่ะ)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


การที่เรานัมเมียวโฮเร็งเงเคียว เราก็ยังสามารถไหว้บูชาพระพุทธรูปได้ทุกองค์ เข้าวัดทำบุญ ตักบาตร
ซึ่งเราก็ปฏิบัติอยู่ และเราเข้าใจว่า ธรรมคำสอนพื้นฐานของเราชาวพุทธ ที่พระพุทธเจ้าทรงเผยแผ่สู่
ประชาชน คือ หลักปฏิบัติของชาวพุทธเราที่สอนกันมาตั้งแต่โบราณกาลแบบเถรวาท การรักษาศีล 5 เป็นหลัก
และหากใครที่ต้องการศึกษาพระสูตรไปถึงระดับสูงสุด ก็คือ สัทธรรมปุณฑริกสูตร หรือ มหายาน

ส่วนมนุษย์เรานั้น มีหลายพันล้านคน ก็ต่างความคิด หลักการปฏิบัติ หลักความเชื่อ ก็แตกต่างกัน ขึ้นอยู่
กับใครจะเลือกปฏิบัติแบบไหน และแม้แต่ตัวเราเองก็ไม่สามารถบอกได้เต็มปากว่า แบบนั้นถูก แบบนั้นผิด
แต่กฏเกณฑ์ของบ้านเมืองหรือในสังคมนั้นๆ เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า คุณถูก หรือ คุณผิด.....

จะนับถือศาสนาใด นับถือ หรือ ปฏิบัติแบบใด ทุกศาสนาก็สอนให้เรา ประพฤติตนเป็นคนดี อยู่ในศีลธรรมอันดี

ขอบคุณค่ะ

( หากใครมีข้อแนะนำเกี่ยวกับข้อมูล สามารถแนะนำชี้แจงได้เลยนะคะ )
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สหไทย  ไชยพันธุ์ ศศ.ม. , หนังสือสร้างคุณค่า , เว็บไซต์ลานธรรมจักร ,
วิกี้พีเดีย, และกระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/30442042)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่