How to train your dragon เป็นหนังไตรภาค ที่ภาคแรกเริ่มฉายในปี2010 และมีภาค2ในปี2014 และในปี2019นี้จะเป็นการจบไตรภาคของหนังเรื่องนี้
Review
หนังจะเล่าเรื่องต่อจากภาคที่2ประมาณ1ปีให้หลัง ตัวหนังปูทางช่วงแรกได้เฉยๆไม่น่าสนใจเท่าที่ควรแต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ ในตัวอย่างนั้นเราอาจจะได้เห็นประเด็นหลักๆของภาคนี้อยู่ประมาณ2เรื่อง คือ 1.การหาพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยใหม่นั่นก็มือเมืองลับแลที่เป็นตำนานว่าอยู่สุดขอบโลก 2.เพลิงนิลสีเผือก
แต่ในตัวหนังเต็มนั้นมันจะเล่าประเด็นเพิ่มขึ้นมาเยอะมากกว่าที่เราได้เห็นในตัวอย่าง และมันสามารถผสมกลมกลืนกับเส้นเรื่องได้ดี โดยที่มันไม่ทับเส้นหลักจนมากเกินไป ในส่วนประเด็นที่เพิ่มเข้ามาในหนังจะไม่ขอพูดถึงอยากให้ไปดูเอาเอง แต่ถ้าใครอยากรู้ก็กดสปอยตรงนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้1.ประเด็นความรักของฮิคคัพกับแอสทริค
2.ความแออัดของเมืองเบิร์ค หลังจากที่มีมังกรมาอยู่ด้วยมีจำนวนเยอะมากจนเกินไป เราจะเห็นได้ชัด ซึ่งนี่เป็นประเด็นที่มันถูกควรนำมาขยายมากที่สุด
3.ประเด็นที่ว่า มังกรยังไม่พร้อมที่จะอยู่กับมนุษย์ในตอนนี้
ในส่วนของตัวละคร แก๊งเพื่อนๆของฮิคคัพในภาคนี้จะได้มีบทที่มากขึ้นกว่าเดิม ต่างจากภาคก่อนๆที่โผล่มาเป็นช่วงๆหรือโผล่มาอีกทีก็ตอนท้ายเรื่องเลย
ตัวละครฮิคคัพหรือพระเอกของเรา จะเห็นถึงการเติบโตได้อย่างชัดเจน นี่ถือเป็นข้อดีของหนังทำให้เรารู้สึกผูกพันธ์ไปกับตัวละครได้ แต่ในเมื่อมีตัวเด่นขึ้นก็ต้องมีตัวที่เด่นน้อยลง ซึ่งนั่นก็แทบจะทำให้ตัวละครนั้นจางไปเลย แทบจะนับฉากที่ออกได้ จนรู้สึกว่ามันสามารถตัดจบบทตัวนี้ออกไปได้เลยไม่น่าจะมีผลอะไรกับหนังนัก แต่หนังก็ยังมีบทให้เป็นช่วงๆเพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกขาดอะไรไป
แต่ประเด็นของตัวร้ายในภาคนี้และจุดประสงค์มันรู้สึกซ้ำจำเจกับภาคที่แล้วไปหน่อย ก็แค่พวกที่อยากจะจับมังกรมาฆ่าหรือมาทำเป็นทาสอะไรก็แค่นั้นไม่ได้มีความรู้สึกใหม่เลย อีกทั้งมิติตัวละครนี้รู้สึกได้เลยว่าแบนมากๆ ทำให้ตัวร้ายภาคนี้ไม่มีความน่าสนใจเท่าที่ควร และเนื้อเรื่องเหมือนกับว่าหมดเรื่องที่จะเล่นแล้วเพราะปล่อยทุกอย่างไปหมดในภาค2 ทำให้เดาทางเนื้อเรื่องได้ง่ายมากๆ จนไม่มีช่วงไหนน่าสนใจเป็นพิเศษ ช่วงที่จะบิ้วให้รู้สึกพีคก็ทำให้เดาออกง่ายจนเกินไป อีกทั้งตัวโปสเตอร์มันสปอยอย่างนึงด้วย ซึ่งมันก็น่าผิดหวังจริงๆเพราะเป็นหนังปิดไตรภาคทั้งทีควรจะเล่นประเด็นที่ใหญ่กว่านี้หรือเล่นใหญ่กว่านี้หน่อย มันรู้สึกพื้นๆเรียบๆจนเกินไปทำให้รู้สึกน่าผิดหวังเพราะ2ภาคที่ผ่านมาทำออกมาได้ดีทีเดียวเลย และมีการจบเรื่องต่างๆอย่างห้วนๆไปหน่อยมันควรจะขยายมากกว่านี้ในบางเรื่อง
อย่างไงซะตอนจบนั้นก็สามารถบิ้วดราม่าให้เราอินได้ดีและกินใจในช่วงสุดท้าย ตอนแรกผมจะให้คะแนนเรื่องนี้6.5 แต่ช่วง10นาทีสุดท้ายอ่ะมันเป็นช่วงที่ดีเลยได้มาเป็น7คะแนน
สุดท้ายเรื่องงานภาพ ผมว่ามันสามารถเก็บรายระเอียดได้ดี ยกตัวอย่างเช่น ดาบไฟของฮิคคัพ หรือกากเพร็ชบนตัวของเพลิงนวล
สรุปที่พิมพ์มาทั้งหมด หนังเหมาะกับแฟนคลับHow to train your dragonถ้าได้เข้าไปดูน่าจะชอบในความน่ารักของเขี้ยวกุดที่ใส่เข้ามาเพื่อเซอร์วิสให้แฟนคลับ แต่ในมุมมองของคนดูหนังมันน่าผิดหวังสำหรับการจบไตรภาคของหนังเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้แย่ถ้าเทียบกับมาตรฐานอนิเมชั่นทั่วไป
คะแนน7/10
[CR] [REVIEW] How to train your dragon 3 หนังจบไตรภาคที่น่าผิดหวังสำหรับหนังเรื่องนี้ 7/10
Review
หนังจะเล่าเรื่องต่อจากภาคที่2ประมาณ1ปีให้หลัง ตัวหนังปูทางช่วงแรกได้เฉยๆไม่น่าสนใจเท่าที่ควรแต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ ในตัวอย่างนั้นเราอาจจะได้เห็นประเด็นหลักๆของภาคนี้อยู่ประมาณ2เรื่อง คือ 1.การหาพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยใหม่นั่นก็มือเมืองลับแลที่เป็นตำนานว่าอยู่สุดขอบโลก 2.เพลิงนิลสีเผือก
แต่ในตัวหนังเต็มนั้นมันจะเล่าประเด็นเพิ่มขึ้นมาเยอะมากกว่าที่เราได้เห็นในตัวอย่าง และมันสามารถผสมกลมกลืนกับเส้นเรื่องได้ดี โดยที่มันไม่ทับเส้นหลักจนมากเกินไป ในส่วนประเด็นที่เพิ่มเข้ามาในหนังจะไม่ขอพูดถึงอยากให้ไปดูเอาเอง แต่ถ้าใครอยากรู้ก็กดสปอยตรงนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในส่วนของตัวละคร แก๊งเพื่อนๆของฮิคคัพในภาคนี้จะได้มีบทที่มากขึ้นกว่าเดิม ต่างจากภาคก่อนๆที่โผล่มาเป็นช่วงๆหรือโผล่มาอีกทีก็ตอนท้ายเรื่องเลย
ตัวละครฮิคคัพหรือพระเอกของเรา จะเห็นถึงการเติบโตได้อย่างชัดเจน นี่ถือเป็นข้อดีของหนังทำให้เรารู้สึกผูกพันธ์ไปกับตัวละครได้ แต่ในเมื่อมีตัวเด่นขึ้นก็ต้องมีตัวที่เด่นน้อยลง ซึ่งนั่นก็แทบจะทำให้ตัวละครนั้นจางไปเลย แทบจะนับฉากที่ออกได้ จนรู้สึกว่ามันสามารถตัดจบบทตัวนี้ออกไปได้เลยไม่น่าจะมีผลอะไรกับหนังนัก แต่หนังก็ยังมีบทให้เป็นช่วงๆเพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกขาดอะไรไป
แต่ประเด็นของตัวร้ายในภาคนี้และจุดประสงค์มันรู้สึกซ้ำจำเจกับภาคที่แล้วไปหน่อย ก็แค่พวกที่อยากจะจับมังกรมาฆ่าหรือมาทำเป็นทาสอะไรก็แค่นั้นไม่ได้มีความรู้สึกใหม่เลย อีกทั้งมิติตัวละครนี้รู้สึกได้เลยว่าแบนมากๆ ทำให้ตัวร้ายภาคนี้ไม่มีความน่าสนใจเท่าที่ควร และเนื้อเรื่องเหมือนกับว่าหมดเรื่องที่จะเล่นแล้วเพราะปล่อยทุกอย่างไปหมดในภาค2 ทำให้เดาทางเนื้อเรื่องได้ง่ายมากๆ จนไม่มีช่วงไหนน่าสนใจเป็นพิเศษ ช่วงที่จะบิ้วให้รู้สึกพีคก็ทำให้เดาออกง่ายจนเกินไป อีกทั้งตัวโปสเตอร์มันสปอยอย่างนึงด้วย ซึ่งมันก็น่าผิดหวังจริงๆเพราะเป็นหนังปิดไตรภาคทั้งทีควรจะเล่นประเด็นที่ใหญ่กว่านี้หรือเล่นใหญ่กว่านี้หน่อย มันรู้สึกพื้นๆเรียบๆจนเกินไปทำให้รู้สึกน่าผิดหวังเพราะ2ภาคที่ผ่านมาทำออกมาได้ดีทีเดียวเลย และมีการจบเรื่องต่างๆอย่างห้วนๆไปหน่อยมันควรจะขยายมากกว่านี้ในบางเรื่อง
อย่างไงซะตอนจบนั้นก็สามารถบิ้วดราม่าให้เราอินได้ดีและกินใจในช่วงสุดท้าย ตอนแรกผมจะให้คะแนนเรื่องนี้6.5 แต่ช่วง10นาทีสุดท้ายอ่ะมันเป็นช่วงที่ดีเลยได้มาเป็น7คะแนน
สุดท้ายเรื่องงานภาพ ผมว่ามันสามารถเก็บรายระเอียดได้ดี ยกตัวอย่างเช่น ดาบไฟของฮิคคัพ หรือกากเพร็ชบนตัวของเพลิงนวล
สรุปที่พิมพ์มาทั้งหมด หนังเหมาะกับแฟนคลับHow to train your dragonถ้าได้เข้าไปดูน่าจะชอบในความน่ารักของเขี้ยวกุดที่ใส่เข้ามาเพื่อเซอร์วิสให้แฟนคลับ แต่ในมุมมองของคนดูหนังมันน่าผิดหวังสำหรับการจบไตรภาคของหนังเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้แย่ถ้าเทียบกับมาตรฐานอนิเมชั่นทั่วไป
คะแนน7/10
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้