[CR] ปารีส อัมสเตอร์ดัม ช่วงสงกรานต์ 5 คืน 6 วัน ในงบ 45,000 บาท!

สวัสดีค่ะทุกคน ^__^
ก่อนอื่น ต้องขอบอกไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ กระทู้นี้ เป็นกระทู้ แรกที่เขียนรีวิวจ้า ตื่นเต้นมากกก ><

ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวปารีส หรือ ยุโรป หลายๆคนคงคิดว่า โห ไปทีต้องใช้งบเยอะมากแน่ๆ อย่างน้อยๆก็เกือบแสน ใช่ค่ะ เมื่อก่อนเราก็เคยคิดแบบนี้นเหมือนกัน แต่! มาค่ะ วันนี้จะมารีวิวจากประสบการณ์ตรงเที่ยว "ปารีส" และ "อัมสเตอร์ดัม" รวมทุกอย่าง ด้วยงบประมาณ  45,000 บาท มาให้ฟังจ้าา

ปารีส คงเป็นเมือง ที่ใครๆหลายๆคนคิดว่า ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต จะไปดูหอไอเฟล 5555 ใช่ค่ะ เราก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่นอกจากปารีสจะมีหอไอเฟลแล้ว ยังมีอย่างอื่นที่น่าในใจอีกเยอะมากเลยนะ ไม่ว่าจะเป็น แฟชั่น แบรนด์เนม น้ำหอม สกินแคร์ที่เริ่ศๆ ตั่งต่าง และ รวมไปถึง สถาปัตยกรรมสวยๆ งามๆ ที่น่าหลงไหลอีกเยอะมากกกก เช่น ตึกเก่าๆ แต่สถาปัตยกรรมของนางไม่ธรรมดา ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกินนน สมกับ City of Art จริงๆค่ะ ชอบมากจริงๆ คือ ศิลปะมีทุกซอก ทุกมุมเลยก็ว่าได้


ก่อนจะไปอ่านรีวิวกัน แอบฝากเพจหน่อยน้าา ใครชอบท่องเที่ยว ไม่ว่าจะใน หรือต่างประเทศ  ติดตามพวกเราได้เลยจ้า https://www.facebook.com/TravelHelper123/?epa=SEARCH_BOX  



ถ้าถามว่า ทำไมถึงเกิดทริปปารีสขึ้นมาได้ มันอย่างงี้ค่ะ คือเกิดจากการ "ส่องตั๋วโปร" ใช่ค่ะ เราก็แค่กะส่องเล่นๆเอ้งงง แต่เห็นราคาดีงามมาก ใครจะไปอดใจไหวอ่ะ 55555 ตอนนั้นจองล่วงหน้าประมาณ 10 เดือนได้ค่ะ ได้ช่วงสงกรานต์ด้วย 12 Apr 2018 - 19 Apr 2018 ดีงามไปอี้กกก และราคาที่ได้มาคื้อออ 22,000 บาท กับสายการบิน สิงคโปร์แอร์ไลน์ เป็นสายการบิน 5 ดาวอันดับ 1 ของโลกในปี 2018 ด้วยนะเท้อ

บินกับสิงคโปร์แอร์ไลน์ได้อะไรบ้าง
✔️ ได้โหลดกระเป๋าฟรี 30 kg เริ่ศ ❣️ หอบพร็อพไปให้เต็ม!
✔️ ได้เลือกที่นั่งฟรี
✔️ ได้เลือกอาหารฟรี, เครื่องดื่มฟรี ตลอดระยะทางการบินจ้าพี่จ๋าา

เบาะใหญ่ นั่งสบาย นี่ว่านั่งตั้งสิบกว่าชั่วโมง ไม่รู้สึกเมื่อยเลยนะคะ ดีงามสมมงค่ะพูดเลย

ตั๋วเครื่องบินไปยุโรป เดี๋ยวนี้เห็นโปรมาเยอะมากจริงๆนะคะ ถ้าไม่เกิน 25k คือถือว่าโอเคมากๆแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าส่องแล้วเห็นตั๋วราคางามโดนใจ ห้ามพลาดค่ะ รูดบัตรวนไป เพราะราคานางจะอัพเร็วมาก แป้บๆขึ้นไป 29k - 35k เราไม่ไหวค่ะราคานี้ 😂

การบินไปปารีสครั้งนี้ เราเลือกต่อเครื่องขาไป 24 ชั่วโมง เพราะสามารถออกไปเที่ยวสิงคโปร์ได้ด้วยหนึ่งวันเต็มๆ คือคุ้มมากค่ะ เสียเงินแล้วต้องเอาให้คุ้มอะเนอะ สายงกก็มา 555555 การต่อเครื่องของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ไม่ต้องโหลดกระเป๋าใหม่นะคะ คือโหลดจากไทย และ แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย ว่าจะไปรับกระเป๋าที่ปลายทาง หลังจากนั้น เราจะได้ตั๋วมา 2 ใบจ้า ใบแรก กรุงเทพ - สิงคโปร์ ใบที่ สอง สิงคโปร์ - ปารีสค่ะ พอตอนไปต่อเครื่องที่สิงคโปร์ มีเวลาออกไปเที่ยว ก็ผ่าน ตม ปกติเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องกระเป๋าเดินทางเลย ออกไปเทียวแต่ตัวกับกระเป๋าตังค์ก็พอค่ะ สบ๊ายยย 💃🏼

ขากลับจะบินต่อไปปารีส ไม่ต้องเช็คอินใหม่แล้วน้าา ถือ Boarding pass ที่ได้มาจากที่ไทย ไปที่เกทรอขึ้นเครื่องต่อได้เลยจ้า สบายไปอี้กก และที่สำคัญ บินกับสิงคโปร์แอร์ไลน์ แล้วแวะต่อเครื่อง เราจะได้ Voucher ไปช็อปปิ้งที่ Duty free ถึง 20 ดอลล่าห์สิงคโปร์เลยทีเดียวค้าา ก็เยอะอยู่น้าา


เอ้ออ จะบออกว่า ก่อนออกไปเที่ยวสิงคโปร์ ด้วยความที่เรานอนสนามบิน ก็เลยหาข้อมูลว่า ที่สนามบิน Changi มีที่อาบน้ำที่ไหนบ้าง
คือเรามีบัตรเครดิต JCB Platinum คือบัตรนี้ สามารถใช้เข้าเล้าจ์ Plaza Premium Lounge ที่สนามบินสิงคโปร์ได้ฟรีค่ะ คือเป็นเล้าจ์ที่ดีมากก มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ มีเครื่องดื่ม อาหารให้กินเพียบบ คือดีย์ย์มากค่ะพูดเลย หลังจากอาบน้ำ กินอิ่มแล้วเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกไปเดินเล่นที่สิงคโปร์จ้าา


แต่แอบเสียดาย ที่เดินเล่นได้ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เพราะฝนตกค่ะ  T^T



เอาล่ะค่ะ หลังจากที่เราออกไปเทียวสิงคโปร์มาหนึ่งวันเต็มๆ ก็ถึงเวลาที่ต้องเดินทางไปปารีสกันแล้ววว จากสิงคโปร์ ไปปารีส ใช้เวลาเดินทางประมาณ 13 ชั่วโมงกว่าๆนะคะ ตอนแรกนึกภาพไม่ออกว่า จะใช้ชีวิตบนเครื่องบินยังไงตั้ง 13 ชั่วโมง! คือไม่เคยนั่งเครื่องนานขนาดนี้มาก่อน แค่คิดก็ท้อแล้ว กลัวนอนบนเครื่องไม่หลับ55555 สรุปแล้วคือหลับค่ะ หลับไป 10 ชั่วโมง หลับลึกด้วย 🙃 ทริกที่ให้หลับลึกบนเครื่องคือ วันก่อนหน้าที่จะบินไม่ค่อยได้นอนค่ะ นอนน้อยย หื้มม ทริกแบบนี้ได้เร้อออออ😆😆😆


หลังจากบินมา 13 ชั่วโมงกว่าๆ พอเครื่องบินแตะพื้นสนามบิน CGD ปุ๊บบบ มองออกนอกหน้าต่างเครื่องบิน เห็นการบินไทย รู้สึกอบอุ่นค่ะ มาไกลขนาดนี้ อย่างน้อยก็มีคนไทยหลายๆคนอยู่ใกล้ๆเรา😆😆 ความรู้สึกต่อมาคือ ขนลุกเลยอะ คื้ออ Paris!!! ปารีสหวะ ถึงแล้วหรอวะ คือมันตื่นเต้นมากจริงๆนะคะ ไม่คิดว่าจะพาตัวเองมาถึงที่นี่ได้5555 พอไปถึง ตม เค้าถามไม่เยอะเลยค่ะ แค่ถามว่าอยู่ปารีสกี่วัน เป็นอันจบบทสนทนา เสร็จแล้วก็ออกไปรอรับกระเป๋าค่ะ รอไม่นานมาก ก็ได้กระเป๋ามาแล้ว หลังจากนั้นก็ไปหารถไฟเข้าเมืองได้เลยจ้าาา พร้อมลุย!!

แต่คือวันที่ไปถึงปารีส มันตรงกับวันที่พนักงานรถไฟ ของ SNCF หยุดประท้วงพอดี๊ พอดี ดวงดีอะไรเบอร์นี้อ่ะ 🙄 ใครจะไปปารีส หรือประเทศอื่นๆในยุโรป แนะนำให้ตามข่าวสารบ้านเมืองเค้าดีๆค่ะ เพราะประท้วงเก่งมากกกกก ประท้วงทีไม่ใช่เล่นๆ เพราะพี่แกเล่นหยุดขนส่งสาธารณะเอย อะไรเอย บางทีสายการบินของยุโรปเอง เกิดอยากหยุดประท้วง ก็หยุด ถึงขั้นต้องรีฟันด์ตั๋วกันเลยทีเดียว คือก่อนจะบินมาปารีส ทำการบ้านหนักมาก ไม่ใช่แค่วางแพลนเที่ยวนะคะ แต่ยังต้องตามข่าวประท้วง อัพเดทสถานการณ์ทุกวัน จะได้เปลี่ยนแพลนมั้ย อะไรมั้ย มีความกังวลหลายๆอย่าง แต่มันดีตรงที่กลุ่มคนประท้วง เค้ามีออกตารางมาให้ ว่าจะประท้วงวันไหนบ้าง รถไฟขบวนไหนจะหยุด หรือต้องรีฟันด์คืนบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรถไฟออกต่างประเทศค่ะ (ใช่ค่ะเรามีการเดินทางด้วยรถไฟ ออกไปอัมสเตอร์ดัมด้วย ถามว่าโดนตารางประท้วงมั้ย โด๊นน แล้วทำยังไงเดี๋ยวเล่าให้ฟังในรีวิวอัมสเตอร์ดัมเด้ออ)

อ่ะต่อๆๆ แล้วคราวนี้เนี้ย รถไฟเข้าเมือง มันจะหยุดด้วยมั้ยไม่รู้เลย ก็เอาเป็นว่ามาเสี่ยงดวงเอาหน้างาน เพราะคิดว่าเค้าคงไม่ใจร้ายกับนักท่องเที่ยวมาก ถึงขั้นหยุดประท้วงจนไม่มีรถไฟเข้าเมืองเลยมั้ง สรุปก็มีรถไฟค่ะ แต่นานๆมาที ถือว่าโชคดีไป ค่าตั๋ว RER เข้าเมือง ประมาณ 10.5 € นะคะ

ถึงจะมีพนักงงานบางกลุ่มหยุดประท้วงไปบ้าง แต่ก็ยังมีพนักงานบางกลุ่ม ที่ยังมาทำงานเช่นกัน เค้าก็คอยช่วยเหลือดีมากค่ะ บอกว่ากดตั๋วยังไง เดินไปลงรถไฟทางไหน คือพาเดินไปเลยค่ะ ใจดีมากกเว้ออ *ไหว้ย่อ* แต่เอาจริงนะ เดินตามพนักงานไป ตอนแรกงงว่า หื้มม ให้ลงไปตรงนี้จริงหรอวะ มองหน้ากันกับเพื่อนแบบงงๆ เพราะสถานีรถไฟอ่ะ คือเงียบมาก มืดด้วย สถานีรถไฟแอบดูเก่าแบบ หื้ม นี่ยังเปิดให้ใช้บริการจริงๆใช่มั้ย ลงไปนี่นึกว่าสถานีที่ไม่ใช้งานแล้วอะ แว๊บแรกในหัวคือ โดนหลอกให้ซื้อตั๋วปะวะ ซื้อตั๋วแล้วไม่มีรถไฟขึ้นนี่เงิบเลยนะวุ้ยย สภาพสถานีรถไฟมันชวนให้คิดแบบนั้นจริงๆค่ะ 55555 คือคิดอยากถ่ายรูปมาให้ดูมาก แต่กลัวพี่โจรปารีสฉกมือถือค่ะ มีทุกหย่อมจริงๆ ต้องระวังหน่อย สรุปรอรถไฟนานหน่อย เพราะเขาหยุดประท้วงบางขบวนค่ะ พอขึ้นรถไฟไปปุ๊บ โอเคได้นั่ง เพราะเป็นต้นสาย พอนั่งเข้าไปในเมืองเรื่อยๆ คือคนเริ่มแน่น แน่นแบบ มากกกกอ่ะ ยิ่งกว่า BTS MRT ตอนเช้า คือเรียกว่าแน่นจนจะขี่คอกันได้อยู่แล้วอะ ถ้ายืนคือไม่สามารถขยับซ้าย ขวาได้เลยมั้ง ไม่รู้ว่าถ้า ไม่มีการประท้วงของรถไฟ จะแน่นแบบนี้มั้ย


จากสนามบิน CDG เข้าไปในตัวเมือง ใช้เวลาประมาณ 30 - 40 นาที ก็เข้ามาถึง Gare du Nord ซึ่งเป็นสถานีปลายทางค่ะ เรากับเพื่อน พักแถวๆนี้พอดีค่ะ ก็เลยไม่ต้องนั่งรถไฟไปต่อ แต่ถ้าใครพักที่อื่น จากสถานีรถไฟ Gare du Nord จะมีรถไฟ RER สาย B, สาย D และ มี Metro สาย 4 และ สาย 5 นั่งต่อได้จ้า



ขอยืมภาพจากที่พักมาให้ดูนะคะ เพราะไม่ได้ถ่ายมาจ้า
ที่ปารีส เราพักที่ st christopher's inn paris ห้องที่พัก เลือกเป็นแบบผู้หญิงล้วน 4 เตียง ห้องน้ำในตัว นอนที่นี่ ทั้งหมด 4 คืน คนละ 141.2 ยูโร เป็นเงินไทยประมาณ 5,600 บาทค่ะ เป็น Hostel ที่ใหญ่ สะอาด คือเราจะออกไปนอนอัมสเตอร์ดัม 1 คืน สามารถงากกระเป๋าไว้ค้างคืนได้ค่ะ มีล็อคเกอร์อย่างดี ราคาฝากกระเป๋าค้างคืน เราจำราคาเป๊ะๆไม่ได้ แต่ไม่เกิน 10 ยูโรแน่นอนค่ะ และ ที่สำคัญ ใกล้สถานีรถไฟมากก เดินจากสถานีรถไฟไม่ถึง 3 นาทีก็ถึงที่พักแล้วค่ะ แถมยังราคาไม่แพงด้วย ดีงามไปอีกก แนะนำต่อเลยค่ะ ดีจริงๆนะ ถ้ามีโอกาสได้ไปอีก ก็จะเลือกพักที่เดิมค่ะ😬


หลายๆคนที่แพลนเที่ยวปารีส คงเคยมีคำถามว่า ไปปารีส พักที่ไหนดี? ก็จะถามพันทิพแบบเราค่ะ 55555 แล้วก็ไปเจอหลายๆเสียงบอกว่า อย่าพักแถว Gare du Nord เด็ดขาด! เพราะพี่มืดเยอะ ใกล้สถานีรถไฟ โจรก็เยอะ แต่ด้วยความที่เราต้องไปอัมสเตอร์ดัมเช้ามากกกก รอบรถไฟประมาณ 6โมงครึ่ง เพราะฉะนั้น เลยจำเป็นต้องพักที่ใกล้ๆกับ Gare du Nord หน่อย ตอนแรกก็แอบหวั่นๆจะเจออะไรมั้ยน้าา จงโจรไรงี้5555 สรุปโดยรวม ย่านนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ ทั้งกลางวัน กลางคืน เราไม่เจอโจร หรืออะไรแปลกๆเลยจ้าา


วันแรกที่ไปถึง หลังจากเช็คอินที่โรงแรมเสร็จ ยังเข้าห้องไม่ได้นะคะ เพราะไปเราถึงกันเช้ามาก เลยฝากกระเป๋าไว้ก่อน ที่พักมีล็อคเกอร์ให้ฝากกระเป๋าอย่างดี ปลอยภัยมากก พอเสร็จธุระจากที่พักแล้ว ที่แรกที่จะไปเที่ยวกัน ก็คือ

"Louvre Museum"

วิธีการเดินทางในปารีส ส่วนใหญ่ จะเดินทางด้วย Metro ค่ะ ถ้าต้องใช้ Metro บ่อยๆ แนะนำให้ซื้อบัตร แบบ Carnet คือจะได้ตั๋ว มา 10 ใบ ในราคา 10.3 ยูโร ซึ่งจะคุ้มกว่าแบบซื้อแยกค่ะ ที่สำคัญ เราต้องเก็บตั๋วไว้ให้ดีนะคะ ห้ามหาย เดี๋ยวได้ซื้อใหม่ 😆

ลูฟวร์ไปยังไง? วิธีเดินทางจากที่พัก st-christophers (Metro Line 4 หรือ 5) นั่งจากสถานี Gare du Nord นั่งไปเปลี่ยนเป็น Metro line 7 ที่ Gare de l'Est station แล้วก็นั่งไปลงสถานี Palais Royal – Musée du Louvre จ้าา ไปไม่ยากๆ

พอออกจากสถานีรถไฟ ไปเจอตึกใหญ่ๆ สถาปัตยกรรมเก่าๆ สวยๆ คือแบบบ โอ้โหหหหห 😲😲 สวยโว๊ยยย นึกว่าฝันอยู่ ยิ่งเดินเข้าไปเจอพีระมิดแก้วของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ยิ่งแบบบบบบ สวยอะ มีแต่คำว่าสวยๆๆๆ ได้เจอของจริงแล้วอ่ะ น้ำตาจิไหล สวย อลังการ กว่าที่เคยคิดไว้เยอะเลย

ถ่ายรูปอยู่หน้าพีระมิดแก้วกันนานมาก เพราะมันสวยย อยู่ตรงนั้นก็จะเห็นหลายๆคน ทำท่ายอดฮิต คืออ่ะ แตะยอดพีรมิดโหน่ยย อยากครีเอทท่าไหนกัน จัดเต็มเล้ยยย ไม่ว่ากัน อิอิ

พอถ่ายรูปกันจนพอใจ แล้วค่อยเดินไปต่อคิวเข้าไปด้านในพิพิธภัณฑ์ โชคดีที่วันนั้น คิวไม่ยาวค่ะ แป๊บเดียวก็ได้เข้าไปแล้ว ค่าตั๋วคนละ 15 ยูโรนะคะ 😻
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่