เครื่องกรองอากาศบนรถจำเป็นไหม

รู้สึกดีมากที่คนส่วนใหญ่เริ่มตระหนักกับคำว่า “คุณภาพอากาศ” “AQI” หรือ “PM 2.5” โพสนี้จะไม่กล่างถึงว่าค่าเหล่านี้มีความสำคัญอย่างไรครับเพราะมีนักวิชาการ แพทย์หลายท่านได้ให้ข้อมูลไว้มากพอสมควร

โพสนี้จะใช้เครื่อง PM2.5 detector ยี่ห้อ SNDWAY ในการทดสอบนะครับโดยจะตั้งทิ้งไว้ 10 นาทีเพื่อได้ค่าที่นิ่งพอ และจะทดสอบแบบเปิดและปิดโหมด Recirculation (โหมดใช้อากาศเฉพาะในรถยนต์)  โดยมีแบรนด์รถที่เทสดังนี้ครับ

HONDA ปี 2010 , Mercedes ปี 2016 , Audi ปี 2018 และ BMW ปี 2019 ครับ ถ้าใครทดสอบแบรนด์อื่นๆแล้วอัพเดทได้เลยนะครับเพื่อเป็นประโยชน์แก่หลายๆท่านครับ

มาเรื่มตัวแรกก่อนคือ

1.Honda ปี 2010 ...ปีนี้ 2019 แล้วอายุรถก็ปาไปจะ 10 ปี วิ่งเกือบ 180,000 กิโลเมตร จะขายก็ขาดทุน เก็บไว้ก็เป็นความทรงจำดีๆ 555 สิ่งที่เราคิดคือไม่น่าจะกรองอากาศที่มีอนุภาคเล็กๆได้ เพราะมีเพื่อนทดสอบยี่ห้อ Nissan march ได้ค่าประมาณ 30-60 น่าเสียดายที่ไม่ได้มีรูป แต่ผลออกมาคือ...






โหมด Recirculation ทำได้ดีมากครับ ค่อนข้างประทับใจที่เดียว แทบจะไม่มีอากาศข้างนอก leak เข้ามา ค่าจะอยู่ไม่เกิน 20 microgram / m3 เทียบ AQI ก็ไม่น่าเกิน 100 US AQI

หากถ้าปิดโหมดผลลัพท์ที่ได้คือ...ฝุ่นเข้ามาหมดจ้า



แต่นางก็พยายาม...






2.Mercedes ปี 2016 ด้วยความเป็นรถยุโรป ที่มีความเด่นเรื่องการใช้ Chacoal เป็นส่วนประกอบของ filter ให้สังเกตที่ 1 ปี แอร์จะเริ่มเหม็นเปรี้ยว (แอร์เน่า) เพราะchacoal เริ่มหมดอายุ

นอกจากที่เป็นขวัญใจประชาชนตั้งแต่สมัยอาม่า อากงยังวัยรุ่น อีกทั้งรุ่นใหม่ๆ ดันชอบปิดโหมด Recirculation ให้เราแบบอัตโนมัติทั้งๆที่เราไม่ต้องการ ก็มีความคาดหวังค่อนข้างสูง สรุปผลคือ




ก่อนสตาร์ทรถ...





โหมด Recirculation ทำได้ดีมาก PM 2.5 อยู่ 1-2microgram / m3  

ลองมาปิดโหมดบ้าง (รถชอบปิดให้เรา) ก็ไม่ผิดหวัง ค่า PM 2.5 ก็พอๆกับ Recirculation เลย




3.Audi ปี 2018 ถ้าถามเพื่อนที่อยู่ที่ยุโรปเค้าจะตอบว่าการขับขี่แบบ quattro นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ Audi ยืนหยัดจนถึงทุกวันนี้ แต่เรื่องสุขภาพล่ะ เป็นยังไงบ้าง

โหมด Recirculation ได้ 0 ฟังไม่ผิด 0 จริงๆ นานๆที 1




โอเคประทับใจต่อไปมาลองแบบปิดโหมดบ้าง...พระเจ้า เท่าข้างนอกเลย





สรุป...ขับแบบใช้อากาศในรถต่อไปนะครับแบรนด์นี้



และมาถึงแบรนด์สุดท้ายของเรา BMW ปี 2019 ขวัญใจวัยรุ่น พร้อมความคุ้มค่าที่แบรนด์อื่นให้ไม่ได้ คือ BSI ( BMW Service Inclusive) ที่ตั้งแต่เราออกรถจากศูนย์ ไม่ต้องกังวลค่าใช้จ่ายอะไรเลย เพราะนาง Service ให้ฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย 3-5 ปี (จริงๆน่าจะบวกไว้แล้วมั้ง 555)

อ่ะมาดูกัน...แบบ Recirculation ได้ 1-5 ไม่มี 0




และมาลองแบบใช้อากาศภายนอกล่ะก็โอเค...ทำได้เท่า Mercedes เลย






สรุป...

เครื่องกรองอากาศในรถสมควรมี หน้ากากก็ควรใส่บนรถ ถ้าคุณขับรถบางแบรนด์ ที่การกรองไม่ดี

ประทับใจมากๆคือ HONDA 2010 ที่ไม่ได้คาดหวังนางมากแต่ผลลัพท์ดีกว่ารุ่นใหม่ๆบางแบรนด์

รถฝั่งยุโรปทำได้ดีมาก เรื่องการกรอง PM2.5(รถตั้งแต่ปี 2016 ขึ้นไป เพราะก่อนปี 2016 ยังไม่เคยเทส)

แต่ควรจะเปิดโหมด Recirculation เพราะบางแบรนด์อย่างเช่น Audi ถ้าปิดโหมด...ขมคอเลย


หวังว่าจะมีประโยชน์แก่ทุกท่าน ใครลองแบรนด์อื่นๆมาอัพเดทให้ฟังกันด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่