ในความสิ้นหวังของ Pm2.5 เรายังมีต้นไม้

นั่งอ่านอะไรไปเรื่อยเปื่อยเจอ เอกสารตัวนี้เลยเอามาแชร์กันครับ
เป็นเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างต้นไม้ ตึก ทิศทางลม และ Pm2.5
พบว่าฝุ่นจะดีขึ้นได้ ถ้าในซอยของเรา ปลูกต้นไม้กันทั้งซอย? เพราะอะไร?


จากที่คุยกันไปก่อนหน้านี้หลายกระทู้ทำให้เราได้ข้อสรุปกันแล้วว่า
วิกฤติของฝุ่น เกิดจาก ฝุ่นในพื้นที่ +ฝุ่นที่ลมพัดมา  กลายเป็นสะสม
ความวิกฤติ จึงสัมพันธ์กับ ทิศทางลมมรสุม(ว่าพัดมาจากไหนและพัดเอาอะไรมา) ซึ่งสัมพันธ์ต่อไปยังฤดูกาลด้วย

เมื่อเราเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฝุ่นกับลมอย่างใกล้ชิดแล้ว
ถ้าเราจัดการลมได้ ก็จะลดปัญหาฝุ่นได้

งานวิจัยชี้ว่า การปลูกต้นไม้ในตัวเมือง(ที่มีตึกหนาแน่น) ซึ่งตึกกลายเป็นช่องลมนั้น
ปริมาณความหนาแน่นของใบไม้ขนาดใหญ่หรือ  large leaf area density (LAD) สามารถชะลอ และเปลี่ยนทิศทางลมได้
และยังสร้างชั้นลมดันกลับขึ้นไปในอากาศด้วย



ทำให้เกิดชั้นกำแพงลมที่จะลดปริมาณฝุ่นที่อยู่ชั้นบนหัวเราทันที
40-80% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสัดส่วน ความสูงของตึกต่อความกว้างระยะห่างระหว่าตึก (ความสูง - ความกว้างของช่องลม)




ยังไม่นับกรณีที่ ต้นไม้สามารถกันฝุ่นจากทิศทางด้านหน้าได้ และ สร้าง o2 ,Vocs และ ใช้ co2
หรือเป็นกำแพงกันทิศทางลมได้อีก




กลางกุมภานี้ฝุ่นจะดีขึ้นตามทิศทางลม ซึ่งทำให้เราพยากรณ์ปัญหาฝุ่นได้คร่าวๆ
และจะเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกครั้งในปลายปีนี้
ดังนั้น ช่วยกันปลูกต้นไม้ในบ้านตัวเองนะครับ ได้ฝนเดี๋ยวก็โตทันฝุ่นพอดี
ถ้าบ้านในซอยของเราปลูกต้นไม้กันเยอะๆ ลมที่เข้ามาในซอยก็จะยิ่งสะอาด
เพราะแนวต้นไม้ในซอยที่มีลักษณะเป็นช่องลมนั้นจะได้ฝุ่นขึ้นไปในที่สูง

ฝุ่นจะดีขึ้นได้ถ้าทุกบ้านร่วมมือกันนั่นเอง

สำหรับต้นไม้บนถนนก็ต้องให้รัฐเป็นคนปลูก
ซึ่งเราคงทำกันเองไม่ได้นั่นเอง ก็ต้องช่วยกันผลักดันให้รัฐเห็นความสำคัญเรื่องนี้
เอามาฝากแค่นี้ครับ
คนปลุกต้นไม้ครับ
คุณคือความหวังของปัญหาฝุ่นบ้านเราที่จับต้องได้ที่สุด สู้ๆครับ



ที่มา https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1352231014007791
https://www.researchgate.net/publication/318567629_Numerical_Investigation_on_the_Effect_of_Avenue_Trees_on_PM25_Dispersion_in_Urban_Street_Canyons
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่