'โอ้-คิม' ชวนขยับกราม 'ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง'

แค่ปล่อยทีเซอร์มาก็ทำแฟนๆ ใจจดจ่ออยากชม สำหรับละครพีเรียดโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง "ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง" บทประพันธ์ของจินโจว สร้างโดย 2 ผู้จัดโซนิกซ์บูม 2013 'ก้อง' ปิยะ เศวตพิกุล กับ 'ชุ' ชุดาภา จันทเขตต์ ที่นั่งเก้าอี้ผู้กำกับฯ เรื่องนี้ด้วย

คว้าหนุ่ม 'โอ้'  มาริโอ้ เมาเร่อ รับบท 'ทองเอก' หมอยาโบราณ คู่ 'คิม' คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ ในบท 'ชบา' หญิงไทยแก่นเซี้ยว

ร่วมด้วย ปั้นจั่น-ปรมะ(กล้า), แพท-ณปภา(ชงโค), อิน-สาริน(เพิ่ม), น้ำหวาน-ภูริตา(ผ่อง), ติตะ-ชญานิศ(กลิ่น), ต๊งเหน่ง-รัดเกล้า(แม่หมอ), ต้น-จักรกฤษณ์(ท่านขุน), ฟรอยด์-ณัฏฐพงษ์(เปียก), จุ๊บจิ๊บ-เชิญยิ้ม(ตุ่น), เบสท์-ด.ญ.ภัทรภร(รำเพย) ฯลฯ



ผู้กำกับฯ 'ชุ-ชุดาภา' เผยเรื่องราวละครว่า "เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มที่มีความชำนาญเรื่องตัวยาและวิธีรักษา มุ่งมั่นเป็นหมอ เก่งอยู่อย่างเดียวจนอย่างอื่นไม่ได้เรื่อง เก่งถึงขนาดแค่หลับตาก็รู้ว่าอันนี้คือตัวยาอะไร และจะมีเรื่องไสยศาสตร์เข้ามาเกี่ยว เพราะเราเล่าวัฒนธรรม ชุมชน สังคม พุทธศาสนา พระเอกผ่านบททดสอบต่างๆ ไม่พอ ยังมีอุปสรรคว่าทำไมปู่ถึงไม่ให้เขาเป็นหมอ และดันไปมีความรักกับนางเอก เหมือนจะไปได้ดี แต่ก็มีอุปสรรคเต็มไปหมด เรื่องนี้จัดอยู่ในโหมดพีเรียดโรแมนติกคอมเมดี้ ที่มีครบรส แต่แก่นของเรื่องคือยาไทย หมอยาไทย"

เล็งเห็นอะไร ถึงเคาะนักแสดงเป็น 'มาริโอ้' คู่กับ 'คิมเบอร์ลี่' เพราะเราเล่าด้วยความสนุกสนาน อยากเห็นอะไรใหม่ๆ โอ้เป็นคนมีคาแรกเตอร์ความน่ารักชัดเจน ตรงตัวละครที่มีลักษณะนิสัยมุ่งมั่น สนุกสนาน จริงๆ โอ้เล่นได้หลากหลายแนวมาก ไม่ได้แค่คอมเมดี้อย่างเดียว และเขาทำได้ดีทุกทาง แต่จังหวะคอมเมดี้เขาคมมาก หายากนะ"

"ส่วนแม่ชบาที่คิมเล่น เรื่องนี้คอมเมดี้เยอะเลย จริงๆ โดยธรรมชาติคิมเป็นคนตลก จังหวะคอมเมดี้มากๆ นิสัยส่วนตัวเฮฮา พอเป็นคอมเมดี้มากๆ นิสัยส่วนตัวเฮฮา พอเป็นคอมเมดี้มันก็ตรงกันข้าม ต้องไม่เรียบร้อย ไม่อ่อนหวาน อาจจะมากกว่าคำว่าม้าดีดกะโหลกก็ได้ และแม่ชบาในเรื่องนี้เป็นหญิงไทยที่ชอบดาบ ชอบต่อสู้ ตรงข้ามกับหมอทองเอก"

นักแสดงแวดล้อมทุกคนดูเด่นหมด
"ถูกต้อง เพราะทุกตัวละครจะมีคาแรกเตอร์เฉพาะ มีบทเด่นทุกคน จัดเป็นสองรุ่น รุ่นใหญ่ อย่าง อารอง เค้ามูลคดี เก่งมาก ดูแล้วจะรักอารองเลย มีความเป็นปู่ มีความเป็นหมอ, ต้น-จักรกฤษณ์ เล่นเป็นพ่อนางเอกจะมีทั้งความน่ารักและดุ, เจนนิเฟอร์ คิ้ม, ต๊งเหน่ง-รัดเกล้า ฯลฯ ส่วนรุ่นเล็กจะมี ปั้นจั่น-ปรมะ, แพท-ณปภา, อิน-สาริน, จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม และอีกหลายๆ คน"

ในพาร์ตความรักเป็นอย่างไรบ้าง
"โรแมนติกเลย เลิฟซีนเยอะอยู่ พยายามทำให้สุดทุกทาง แต่ไม่เกินขอบเขต เรามีลิมิตอยู่"

โลเกชั่นหลักๆ ที่ไหนบ้าง
"พอเป็นพีเรียด ถ่ายกรุงเทพฯ ไม่ได้ก็ไปต่างจังหวัด ที่ใช้เยอะคือป่า เพราะเล่าเรื่องตัวยาไทย สมุนไพร สวนสมุนไพรมีหลายที่ แต่มันไม่ใช่ป่า พอได้ที่ระยองก็ตอบโจทย์"

ทำไมต้องเป็นท่าโฉลง
"เพราะทองเอกเป็นหมอยา ในอดีตจะมีทั้งบางทั้งท่า คนที่ตั้งชื่อท่าโฉลงคือครูที่เป็นนักเขียนบท เขาบอกใช้คำว่าท่าโฉลงนี่แหละ เพราะมีท่าฉลอง แต่ท่าโฉลงไม่มี มันคือเขตสมมติขึ้นมา ซึ่งพีเรียดเรื่องนี้ย้อนยุคไปปลายรัชกาลที่ 5 ช่วงกำลังเริ่มต้นมีโรงพยาบาลศิริราช ก่อนจะมีโรงพยาบาลจะเป็นยุคของหมอไทย หมอหลวง หมอพื้นบ้าน ส่วนเครื่องแต่งกาย เราเป็นยุคปลาย สามารถมีผมยาวได้ พยายามทำให้ถูกต้อง เราต้องให้เกียรติ"


ใครจุดประกายว่าต้องทำละครเกี่ยวกับสมุนไพรไทย
"เราอยากทำ จริงๆ ชอบพล็อตเรื่องเอง เพราะสามารถนำพาเรื่องไปไหนก็ได้ ตอนแรกจะทำเป็นยุคปัจจุบัน พอยื่นเสนอช่อง พี่สมรักษ์(ณรงค์วิชัย) อยู่ๆ ก็พูดว่าอยากเห็นชุทำละครพีเรียด คือเรื่องเกี่ยวกับสมุนไพรไทยถ้าเล่นเป็นปัจจุบันมันยาก เดี๋ยวจะดูว่าแข่งกับบาปัจจุบัน ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แค่อยากให้เห็นคุณค่าที่เป็นมรดก"

ข้อคิดที่ได้นอกจากความสนุก
"ได้แน่ๆ แม้กระทั่งเรื่องความรักของเด็กวัยรุ่นในเรื่องนี้ก็มีข้อคิด ผลของอารมณ์พลุ่งพล่านดูเหมือนเรื่องเล็กๆ แต่ก็ได้แง่คิด"

ติดตามชมละคร "ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง" ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3


แหล่งที่มา : บทสัมภาษณ์โดยคุณณัฐพร อินถา จากหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่