ตอนที่ 2... “เล่าเรื่องภูกระดึงด้วยภาพ”

ความเดิมตอนท้าย จากกระทู้ก่อนหน้า
https://ppantip.com/topic/38503603/comment12

“เล่าเรื่องภูกระดึงด้วยภาพ”

=====


ก็เสียดาย ว่า ตั้งแต่หนุ่ม ยันแก่
ไม่เคยขึ้นภูกระดึงเลย
มีอันต้องแคล้วคลาดกันไปทุกที

เหมือนกับ ทุ่งบัวตองดอยแม่อูคอ
ไปมาเมื่อนานมาแล้ว หลายครั้ง ตั้งแต่ยังมีแต่ทุ่ง ไม่มีสิ่งก่อสร้าง
พอมาในช่วง 5-6 ปีหลังมานี้ อยากจะไปอีก
ตั้งโปรแกรมเอาไว้ตั้งแต่ต้นปี ของทุกปี แล้วก็ฟาล์วทุกปีสิน่ะ !
ปี 2561 ก็เอาอีก ตั้งใจจะไปทุ่งบัวตองแบบว่าไงก็ต้องไปให้ได้
แล้วก็...แห้วตามเคย

ส่วนภูกระดึง จ้องเงื้อง่า มาแต่ไกลตั้งแต่รุ่นๆ โน่น ..ก็ไม่เคยได้ไป
จนมาก่อนสิ้นธันวา 2561 ไม่กี่เดือน ลูกสาวเขาโทรมาหาแม่ ให้พาครอบครัวทางนี้ไประนอง
ไปอาบน้ำร้อน ดูภูเขาหญ้า ไปน้ำตกหงาว โน่น นั่น นี่
เขาจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้
ให้ปิดร้านอาหาร ไปพักผ่อนกัน

พอเราได้ยิน ก็กรึ่มเลย ได้ที...
รีบโทรไปบอกลูกสาวว่าป๋าไม่ไประนองนะ
แต่ทีแรกนั้น ไม่ได้หมายใจจะไปภูกระดึง
ตั้งใจจะไปนอนที่ เกาะสีชัง สักคืนสองคืน
แต่พอฉุกใจคิดขึ้นมาได้ ว่า โอกาสอย่างนี้ หายาก ...
อย่างนี้ ต้องภูกระดึง...

ก็เก็บเงียบ ไม่บอกใคร เพราะรู้ว่าถ้าบอกจะต้องมีอาการห้ามจากทุกคน
เพราะชื่อภูกระดึงมันหนักอยู่แล้ว
และเราก็จะ 70 แล้ว จะขึ้นไปคนเดียวเขาคงไม่ยอม ทักท้วงกันแน่
จึงปิดเงียบ
ตั๋วเเครื่องบินวันที่จะไป เต็ม ก็เอาวะ รถนครชัยแอร์ ไปลงขอนแก่น แล้วต่อไปผานกเค้า
--ที่ผ่านๆ มา  เส้นทางสายนี้ ผ่านไป ผ่านมา ดูก็แล้วก็ เฉียดมันอยู่นั่นแหละ ...ภูกระดึง ...
.
แล้วก็วางแปลนว่า ลงจากภูไปต่อเชียงคานอีกสักคืน ก่อนกลับกรุงเทพฯ
.
จองตั๋วรถไปกลับ จองอุปกรณ์เต็นท์ อุทยานแห่งชาติ จากออนไลน์ เรียบร้อย
ยกเว้นที่พักเชียงคาน ไม่จอง เพราะวันที่ 3-4 มกราคม มีว่างแน่ๆ
.
รองเท้าขึ้นภูพื้นดอกยางลึก มีอยู่แล้ว ซื้อไว้หลายปีแล้ว
เตรียมยาไปเต็มที่ เพราะเผื่อหมดแรงตามอายุ จะได้ไม่ต้องวุ่นวายใคร
สเปรย์ฉีดกล้ามเนื้อ น้ำมันมวย ยาแก้โรคบ้านหมุน
เสบียง
บอดี้ สามตัว เลนส์ สี่ตัว เมมอีกเพียบ
ได้ โมโนพอด Benro  กับ EOS M50 ราคาถูกด้วยความคุ้นเคย จาก พิกซ์วัน ที่ฟอร์จูน
เป้หลัง ใช้ มินิแทรคเกอร์ โลว์โปร ของเก่า ที่สมบุกสมบันมาด้วยกันเกือบ สามสิบปี ...เก่ามาก

โมโนพอด Benro นี่ดีมาก ใช้เป็นทั้งไม้เท้ายันตอนเดิน กับใช้ถ่ายพระอาทิตย์ตก พระอาทิตย์ขึ้น
.
.
ทั้งหมดที่เตรียมตัวอยู่สามสี่วัน ทางบ้าน ไม่มีใครแอะ ไม่มีใครรู้เลย
จนวันที่ลูกเมียขึ้นเครื่องบินไประนองแล้วตอนเช้ามืด
เราจึงเพิ่งจัดกระเป๋าตอนกลางวัน หลังจากเขาไปกันแล้ว
เพราะถ้าจัดกระเป๋าก่อน ... แผนแตก

มาตอนค่ำ บอกลูกชายคนโตที่ยังเปิดร้านกาแฟ ว่าให้ขับรถไปส่ง นครชัยอแร์
เป็นคนแรกที่รู้ว่าเราจะไปไหน มันได้ยินว่าเรา ตาแก่ จะฉายเดี่ยวภูกระดึง ก็ทำหน้าเซ็งเป็นตูดหมึก

นอนไปในรถ จะถึงเวลาเคาท์ดาวน์เมื่อไรไม่รู้ตัว หลับสนิท
มาตื่นตอนตีหนึ่งกว่าๆ จะโทรหาเมียก็ดึกแล้ว ไม่อยากกวน
ก็โทรหาน้องสาว เพราะรายนี้นอนดึกมาก พอน้องสาวรู้ ก็เซ็งเป็ดไปอีกคน


.
.

ตอนขึ้นภู มันไม่ยาก ไม่เหมือนเมื่อสมัยก่อนที่เขาไปกันมาแล้ว
มันแค่ชันๆ เป็นบางจุด ค่อยๆ เดิน
เราเอง อยู่กรุงเทพฯ เดินถ่ายรูปวันละ 3-6 กิโล สบายๆ เดินอยู่ประจำ
ก็เลยไม่รู้สึกอะไร
.
.

ที่ภูกระดึง นี่ สมัยเมื่อสักสามสิบปีก่อน
เพื่อนที่เรียนหนังสือชั้น ม.ต้น ห้องเดียวกัน มาเป็นหัวหน้าอุทยานที่นี่
ก็ตั้งแต่ตอนนั้นแหละ ที่รู้ข่าว ก็จะมาๆ ... จนเพื่อนย้ายไปที่อื่น และเกษียณไปแล้ว
.....

นี่ก็ว่า หน้าฝน จะหนีเมีย ขึ้นภูอีกสักรอบ
เพราะที่ไปคราวนี้ มันแล้ง อยากได้ฝนๆ
กับอยากบริจาคเลือดให้ทากบ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่