[CR] รีวิวสายการบิน Delta Airlines บินในประเทศจาก New York ไป St Louis ด้วย Bombardier CRJ-900

สวัสดีครับ ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวมหานครนิวยอร์คมาครับ ซึ่งก็ได้มีโอกาสไป Countdown 2019 ที่จตุรัส Times Square มาด้วย ผมได้เขียน Blog เล่าประสบการณ์การยืนรอต่อคิวและ Countdown ปีใหม่กว่า 12 ชั่วโมงไว้ ลองย้อนกลับไปอ่านกันได้นะครับ

ผมใช้บริการของสายการบินDelta Airlines บินจากเมือง St Louis รัฐ Missouri มายังมหานคร New York ครับซึ่งในวันนี้ผมจะมารีวิวเที่ยวบินขากลับจาก La Guardia International Airport (LGA) ไปยังสนามบิน St Louis Lambert International Airport (STL) ด้วยเจ้าเครื่องบิน Bombardier CRJ-900 กันครับ

[Disclosure] การเดินทางครั้งนี้ผมออกค่าใช้จ่ายการเดินทางเองทั้งหมด ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือบริษัท Agency จองตั๋วเครื่องบินใดๆ ทั้งสิ้น



รู้จัก Delta Airlines
Delta Airlines คือหนึ่งในสายการบินยักษ์ใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศให้บริการอยู่กว่า 5,400 เที่ยวบินต่อวัน มีฐานการบินอยู่ที่สนามบิน Hartsfield-Jackson Atlanta International Airport (ATL) เมือง Atlanta รัฐ Georgia และ Delta Airlines ยังเป็นหนึ่งในสายการบินผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มสายการบิน Sky Team ซึ่งประกอบไปด้วยสายการบินใหญ่ๆ หลายรายเช่น Korean Air, Air France, KLM เป็นต้น เพราะฉะนั้นใครที่เป็นสมาชิกสะสมไมล์ของสายการบินในเครือนี้ก็สามารถใช้สะสมไมล์กับ Delta Airlines ได้เช่นกันครับ

ซึ่งแต่ก่อน Delta Airlines เคยมีเที่ยวบินจากอเมริกาบินมาลงที่กรุงเทพฯ (แวะพักโตเกียว) ด้วยนะครับ แต่ปัจจุบันได้ยกเลิกเที่ยวบินนั้นไปแล้ว เปลี่ยนไปให้บริการโดยสายการบินพันธมิตรอย่าง Korean Air แทน (แวะพักที่อินชอน) น่าเสียดายมากๆ ครับ

Check-in
ผมได้ทำการเช็คอินผ่าน Application “Fly Delta” ซึ่งตัวแอพก็จะสร้าง Boarding Pass มาให้เราเป็น QR Code สามารถเอาไปใช้ขึ้นเครื่องได้เลย หรือใครอยากจะ Re-print ออกมาเป็นกระดาษก็สามารถทำได้ที่ตู้ Kiosk ของสายการบินที่สนามบินได้เหมือนกันครับ หลังจากเช็คอินแล้วเราควรไปถึงสนามบินก่อนเวลาเดินทางของไฟลท์เราอย่างน้อย 2 ชม.สำหรับเที่ยวบินในประเทศแบบนี้นะครับ

เที่ยวบินภายในประเทศของ Delta นั้นเราสามารถนำกระเป๋า Carry-On ขึ้นเครื่องได้ฟรี 1 ใบไม่จำกัดน้ำหนักแต่จะจำกัดขนาดของกระเป๋าไม่เกิน 22x14x9 นิ้ว (กว้างxยาวxสูง) รวมกับของใช้ส่วนตัวได้อีก 1 ใบครับ แต่ถ้าใครต้องการโหลดกระเป๋าใต้เครื่องต้องเสียเงินเพิ่มนะครับ สามารถดูรายละเอียดน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

เดินทางมาสนามบิน La Guardia Airport
สนามบิน La Guardia Airport คือหนึ่งในสนามบินของมหานครนิวยอร์คเป็นสนามบินรองจากสนามบินหลัก John F. Kennedy International Airport (JFK) และ Newark Liberty International Airport (EWR) ที่เมือง New Jersey สนามบิน La Guardia เป็นสนามบินขนาดเล็ก ตั้งอยู่บริเวณแคว้น Queens ในทางทิศเหนือของนิวยอร์ค รองรับเที่ยวบินในประเทศเป็นส่วนใหญ่ครับ มีทั้งหมด 4 Terminals แบ่งแยกตามสายการบิน ซึ่งสายการบิน Delta จะประจำอยู่ที่ Terminal C, D ครับ

ผมเดินทางมาสนามบินจากกลางเมืองนิวยอร์คในเขตแมนฮัตตัน (Manhattan) โดยใช้บริการ New York Subway สาย N,W (สีเหลือง) มาลงที่สถานี Astoria Blvd แล้วต่อรถบัส M60-SBS เข้าสนามบินได้เลยครับ อย่าลืมเอาบัตร Metro Card Print Receipt ก่อนขึ้นรถบัสด้วยนะครับ สะดวกมากๆ


จุดรอบัส M60-SBS เข้าสนามบิน LGA ตรงบริเวณ Starbucks สาขา Astoria Blvd ครับ


Credit: http://www.bkmag.com บัส M60 SBS ที่วิ่งรับส่งที่สนามบิน LGA


Print receipt ด้วย Metro Card ก่อนขึ้นรถบัสนะครับ

การเดินทาง
Flight: DL5169
Route: New York La Guardia (LGA) — St Louis (STL) Operated by Endeavor Air
Departure Time: 3:58 PM
Arrival Time: 6:12 PM
Duration: 3 hour 14 min
Aircraft: Bombardier CRJ-900
Class: Basic Economy

รู้จัก Bombardier CRJ-900

Bombardier CRJ-900 (Canadair Regional Jet) คือเครื่องบินทางเดินเดี่ยว รุ่นปรับปรุงจาก CRJ-700 ถูกออกแบบมาให้ทำการบินระยะสั้นถึงกลาง บินได้ไกลสุดประมาณ 2,805 km ใช้เครื่องยนต์ 2 ใบพัด General Electric Turbofan CF34-8C5 เป็นเครื่องบินคู่แข่งของ Embraer 175 ที่นิยมใช้บินภายในภูมิภาคของอเมริกามากๆ ครับ
เป็นอีกครั้งที่ผมได้ขึ้นเครื่องบินที่ไม่ใช่ 2 ยี่ห้อเจ้าตลาดอย่าง Boeing และ Airbus แต่เป็นบริษัทผลิตอากาศยานสัญชาติแคนาดาอย่าง Bombardier Aerospace ซึ่งมีระบบความปลอดภัยและมาตรฐานการบินไม่ต่างจากสองบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกเลยครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

การจัดวางที่นั่งเป็นแบบ 2–2 เนื่องจากเป็นเครื่องบินลำตัวแคบ ทั้งลำจุคนได้ 76 ที่นั่งเท่านั้น Seat Width กว้างมาตรฐานประมาณ 17 นิ้วครับ


วันนี้ผู้โดยสารค่อนข้างเต็มลำ แน่นพอสมควรเลย จนสายการบินต้องเอากระเป๋า Carry-on บางส่วนรวมถึงของผมด้วย ไปโหลดลงใต้เครื่องให้ฟรี เนื่องจากพื้นที่บน Cabin Compartment ไม่พอ เพราะช่องมันเล็กและมีจำกัดจริงๆ ซึ่งสายการบินก็แจก Tag กระเป๋าให้เรามารอรับตอนลงจากเครื่องครับ


กัปตัน Taxi ออกจากหลุมจอดและก็ Take Off ตรงตามเวลาครับ หลังจากเครื่องไต่ระดับเพดานบินได้ที่แล้ว ซักพักพนักงานต้อนรับก็ทำการเสิร์ฟ Snack และเครื่องดื่มสำหรับเที่ยวบินในประเทศครับ ผมเลือก Snack เป็น Pretzel กับ Sprite ครับ อร่อยใช้ได้ กินเพลินๆครับ



บนเครื่องมี In Flight Entertainment ให้เราดูด้วยนะครับ แต่ไม่ใช่จอ LED หลังที่นั่ง แต่เป็นการดูผ่าน App Delta Studio ซึ่งสามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรีได้ผ่าน Wifi On Board (ออก Internet ไม่ได้นะครับ ถ้าจะใช้เน็ตต้องจ่ายเงินเพิ่ม)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ตัว Content ก็หลากหลาย หนังก็ค่อนข้างใหม่เลยครับ ผมดู Crazy Rich Asian ไปเกือบจบเลย TV Series ดีๆ ก็มีให้ดูเยอะครับ

ผ่านไปสองชั่วโมงกว่าพระอาทิตย์ก็เริ่มคล้อยตก ฟ้าก็มืดลงครับ ได้ดูพระอาทิตย์ตกบนเครื่องบินพอดีครับ

หลังจากนั้น กัปตันค่อยๆ ลดระดับเพดานบิน และทำการ Landing ที่สนามบิน St Louis Lambert International Airport อย่างปลอดภัย ถึงก่อนเวลานิดนึงด้วยครับ


หลังจากเครื่องจอดที่หลุมจอดที่เกทแล้ว เราก็ออกจากเครื่องมายืนรอรับกระเป๋าที่ตรงทางเดินเข้าเกทได้เลย Unload กระเป๋ากันง่ายๆ ตรงนั้นไม่ต้องไปรอรับที่สายพาน Baggage Claim ครับ

ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีกับการเดินทางภายในประเทศครับ การบริการก็ดีไม่มีอะไรให้ติเลยครับ โดยรวมก็ถือว่าผมประทับใจกับการเดินทางกับ Delta Airlines ซึ่งเป็นการเดินทางครั้งแรกกับสายการบินนี้เลย ไว้มีโอกาสจะมารีวิวเที่ยวบินอื่นๆ ให้อ่านกันอีกนะครับ สวัสดีครับ ☺
ชื่อสินค้า:   Delta Airlines
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่