[SR] รีวิวบุฟเฟ่ต์ Sunday Brunch ห้องอาหาร Amaya โรงแรม Amari WaterGate ราคา1500++ โปรพิเศษมา 4 จ่าย 2 !


บุฟเฟ่ต์ Sunday Brunch คือ มื้อพิเศษจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ที่ห้องอาหาร Amaya โรงแรม Amari Water Gate ประตูน้ำ (ตรงข้ามกับ Platinum Fashion Mall) จัดโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์สุดคุ้มเริ่มต้นราคา 1,500++ (ไม่รวมเครื่องดื่ม) ทานได้ตั้งแต่ 12.00 - 15.30 น. (รวมเวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที) มีจุดขายคือได้ทานล็อปสเตอร์ครึ่งตัว ! ตอนแรกก็ฟังแล้วมันคุ้มตรงไหน ? อาหารจะเยอะหรือเปล่า? คุณภาพอาหารดีไหม ? เพราะว่าจ่ายราคานี้กินบุฟเฟ่ต์ที่อื่นได้ 2-3 มื้อเลยนะ แต่ แต่ ตอนนี้ที่นี่เขามีโปรโมชั่นมา 4 จ่าย 2  เหลือคนละ 750++ เอง (ถึงจะไม่รวมน้ำก็เถอะ) สำหรับบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติในโรงแรมจัดเต็มแบบ Sunday Brunch  ก็ยังน่าสนใจมาก ! อาหารต่างๆที่คุณจะได้ทานมื้อนี้มีอะไรบ้าง และคุณภาพดีขนาดไหน ไปชมพร้อมกันกับผมเลยครับ
เปิดประตูเข้ามาพบกับบรรยากาศห้องอาหารที่ศูนย์กลางเปิดโล่ง มีโคมห้อยระย้าแปลกตา คุณสามารถเห็นโถงใหญ่ทั้ง 4 ชั้นทะลุถึงกันได้หมด โดยห้องอาหารนี้ตั้งอยู่ชั้น 3 ของโรงแรม มีมุมสำหรับนั่งทานอาหารต่างๆที่ใช้เก้าอี้ โต๊ะ และวัสดุในการตกแต่งที่แตกต่างกัน ได้หลายบรรยากาศในที่เดียว สะดวกนั่งแบบตรงก็เลือกนั่งได้ตามใจเลย
เดินเข้ามาเลี้ยวขวาก็จะพบกับไลน์อาหารที่ใกล้ตัวที่สุด เป็นอาหารไทย มีเมนูให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ข้าวผัดกุ้ง / ไก่ทอดพริกเกลือ / เป๋าฮื้อน้ำแดง (อันนี้คุ้มมาก ได้ทานเป๋าฮื้อเกรดเดียวกับร้านอาหารจีนราคาแพงไม่อั้น) / แกงเขียวหวานไก่ / ผัดฉ่าปลาหมึก / ต้มยำทะเลรวม / ต้มยำแบบ D.I.Y. (เลือกวัตถุดดิบให้เชฟทำให้) / ผัดไทยที่ผัดให้ใหม่ทุกจาน / ลาบหมู / ไก่ต้ม /ยำหูหมู / ยำมะระ / ส้มตำ / น้ำพริกพร้อมผักสดเต็มขันโตก
เดินต่อมาอีกนิด ที่ติดกันเป็นไลน์อาหารจีน ใครเป็นหมูแดง หมูกรอบ เป็ดย่าง Lover ต้องร้องกรี๊ด (ส่วนตัวชอบทานมาก) หมูกรอบหนังฟูกรอบ เป็ดย่างหมูแดงหมักมาถึงเครื่อง มีซอสให้ทานแบบครบครัน นอกจากนี้ยังมีขนมจีบ / ฮะเก๋า / ซาลาเปา / และกระเพาะปลาที่อัดมาในหม้อแบบเต็มที่ มันสาแก่ใจยิ่งนัก ตักไปทานเยอะๆเลย
โซนต่อมาเป็นสเต็กและของปรุงสุกพร้อมทานสไตล์ยุโรป มีให้เลือกหลากหลายทั้ง บล๊อกโคลี่ผัด / มันฝรั่งผัด  /กุ้งผัดเนย / สตูว์หมู / มีทบอลสูตรเผ็ด / ซุปมะเขือเทศ / Egg Benedict Smoke Salmon / ปลาหมึกชุบแป้งทอด / เนื้อทอดแบบทงคัตสึ และ ซี่โครงเนื้ออบชิ้นยักษ์แบบ Medium Rare ให้เลือกตักได้ตามใจ
โดยวิธีการสั่งสเต็กที่โซนนี้คุณต้องสั่งกับน้องพนักงานเท่านั้น มีให้เลือกทั้ง เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ ปลาหมึก หอยแมลงภู่ กุ้งแม่น้ำ ปลาแซลมอน กั้ง และพิเศษฟัวกราก็สั่งได้กับน้องพนักงานเช่นเดียวกันครับ โดยรวมแล้ววัตถุดิบค่อนข้างดี เนื้อแกะมีกลิ่นเล็กน้อยพออร่อย กุ้งแม่น้ำตัวขนาดกลางเลือกสั่งได้ว่าจะเผาหรือทอดกระเทียม ไม่ค่อยสดเท่าไหร่ครับเนื้อทรายไปนิดนึง สเต็กแซลมอนปรุงความสุกกำลังดีแต่รสชาติเฉยๆ ก็ใส่แค่เกลือ พริกไทย ไม่ได้พิเศษอะไร สเต็กเนื้อผมสั่งเป็นส่วน Sirloin เพราะชอบทานมันหน่อย สั่งมาแบบ Medium Rare ก็ได้ดั่งใจดี เป็นเนื้อออสที่มีกลิ่นเนื้อหอม ไม่เห็นสาบ ไม่ได้นุ่มเคี้ยวง่ายแบบเนื้อญี่ปุ่น แต่ก็มีรสชาติจากน้ำในเนื้อและไขมันเข้มข้นดี ฟัวกราเสิร์ฟมาพร้อมกับขนมปัง แยมราสเบอรี่ และสตรอเบอรี่ผัดกับน้ำมันฟัวกรา เนื้อของฟัวกราด้านนอกกรอบเกรียมนิดๆ ด้านในเนื้อนวลเค็มเล็กน้อย ตัดกับแยมราสเบอรี่ สตรอเบอรี่รสหวานเปรี้ยว และขนมปังกรอบ ลงตัวมาก แต่ผมทานเยอะไม่ได้ครับเป็นเก๊าท์ นี่ทานไปแค่ชิ้นเดียวเอง เสียใจจัง ������
เดินถัดมาอีกหน่อยเป็นไลน์อาหารอินเดีย ส่วนตัวชอบทานอาหารอินเดียนะ แต่ชื่อเรียกยาก แต่ดูจากเมนูอาหารที่ให้เลือกค่อนข้างจะครบเลย เหมือนยกร้านอาหารอินเดียมาไว้ที่นี่ เพราะเชฟก็เป็นชาวอินเดียแท้ๆวันนี้ผมสั่งเป็นชีสย่าง กุ้งย่าง และเนื้อแกะย่างสไตล์อินเดีย โดยวิธีการสั่งคือเอาป้ายกระดาษบนโต๊ะไปแล้วชี้บอกเชฟพร้อมยื่นเบอร์โต๊ะให้ได้เลย รสชาติอาหารอินเดียที่นี่ไม่ได้จัดจ้านมาก แต่ถึงเครื่อง เนื้อแกะ และกุ้งย่างหอมกลิ่นสมุนไพรรสหวานนิดๆ เผ็ดเล็กน้อย ชีสเป็นนมแพะย่างด้านนอกกรอบหอมยี่หร่าบางๆ ตามด้วย Mango Lassi หรือโยเกิร์ตพร้อมดื่มทำจากนมแพะใส่มะม่วงสไตล์อินเดีย รสชาติแบบทานโยเกิร์ตมะม่วงปกติ ไม่มีกลิ่นคาวนมแพะเลย อร่อยมากครับ เพราะเย็นสดชื่นหวานเล็กหน้อย หอมกลิ่นมะม่วง(น่าจะเป็นมะม่วงไทย) ทานไปหลายแก้วอยู่
มาถึงโซน Hilight กับ Seafood on Ice พระเอกของเราวันนี้คือกุ้งแคนาเดียนล็อปสเตอร์ตัวใหญ่ 1 คนทานได้ครึ่งตัว สามารถเลือกสั่งได้ว่าจะย่าง นึ่ง หรืออบชีส แล้วจะทานกับซอสอะไร เลือกสั่งได้เลยครับ ความสดของล็อปสเตอร์ที่นี่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาแบบดิ้นๆ (เพราะที่นี่น็อคน้ำแข็งมาก่อนแล้ว) เนื้อยังแน่นสู้ฟันดี ผมสั่งมาเป็นแบบอบชีส และย่างเปล่าๆ ซอสเป็น Garlic Butter และ  Hollandaise เนื้อกุ้งล่อนออกจากเปลือก (แสดงว่าสด) ก้ามทุบมาให้เรียบร้อย แกะทานง่ายดี ซอสก็มัน หอมกลิ่นกระเทียมและสมุนไพร อร่อยดีครับ
แค่ล็อปสเตอร์ครึ่งตัวเมื่อกี้ยังไม่สะใจ มาต่อกันด้วยชุดอาหารทะเลแบบจัดเต็ม ! เมนูที่ชอบสุดเป็นหอยนางรม สด ไม่มีกลิ่น ได้เคี้ยวนิดๆ เนื้อไม่ละลายในปาก อร่อยมาก ทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสชาติกลางๆไม่เผ็ดมากก็เด็ดแล้ว หรือจะทานแบบตำรับไทยทั้งพริกเผา หอมเจียว น้ำมะนาว ที่นี่ก็ตอบโจทย์ ปลาหมึกเนื้อแน่นเคี้ยวอร่อย กั้งเนื้อแน่นไม่มีกลิ่นแอมโมเนียแบบร้านราคาถูก อร่อยมาก ปูอลาสก้าเนื้อหลวมๆ ไม่หวานมาก แต่แค่ไม่แช่ในน้ำเกลือจนเค็มปี๋แบบโรงแรมอื่นก็ดีแล้ว นอกนั้นอย่างเช่นกุ้งลายเสือ และหอยแมลงภู่ เราเฉยๆนะ คือหัวกุ้งดำๆหลุดๆ แต่เนื้อยังแน่นดีอยู่ ไม่ใช่กุ้งที่ไม่ดี เพราะเคยเจอกุ้งแบบนี้ที่ตลาดหัวหิน มีแต่ตัวใหญ่ๆ แต่หัวหลุด เพราะเกิดจากการทับกันจำนวนมาก ขายราคาถูกๆ แต่นักท่องเที่ยวไม่กล้าซื้อ แต่ที่จริงเนื้อแน่นอร่อยมาก ขายโลละ 250 -300 เอง มีแต่ตัวใหญ่เป้งสะใจ อร่อยไม่ต่างกับกุ้งลายเสือตัวสวยๆเท่าไหร่นัก ที่นี่ก็เป็นแบบเดียวกัน หัวไม่สวย แต่ตัวอร่อย
ใครเป็นสาวกอาหารญี่ปุ่น น่าจะผิดหวังและร้องไห้กับไลน์อาหารนานาชาติที่นี่ เพราะว่ามีแต่ซูชิโรลสีสันแปลกๆ ไม่มีซาชิมิปลาแซลมอน ปลาทูน่า ซะบะดอง ซูชิ อาหารญี่ปุ่นปรุงพร้อมทาน ให้คุณทานครับ มีแค่นี้แหละเท่าที่เห็น
โซนขนมที่นี่ก็อลังการ มีทั้งผลไม้ไทย น้ำแข็งใส ขนมไทย และเค้กสไตล์ยุโรป ที่จริงมีขนมไทยต้มกะทิ และพายแอปเปิ้ลอบร้อนๆให้ทานด้วยนะ อีกทั้งไอศครีมก็เป็นแบบ Home Made รสชาติเข้มข้นกลางๆ แต่ถึงรสเช่นวนิลาก็ใส่แบบฝักสด (เห็นเป็นเกล็ดดำๆในเนื้อไอศครีม) ซอร์เบตสตรอเบอรี่ก็เข้มข้น Signature เป็นไอศครีมงาดำ แต่วันนี้หมด เสียดายจัง โดยรวมรสชาติขนมที่นี่อย่างขนมไทย รสชาติดี ไม่หวานมาก เค้กสไตล์ยุโรปค่อนข้างหวานไปนิดนึง แต่ใช่วัตถุดิบดี เค้กเนื้อแน่นใช้ช็อกโกแลตเข้มข้น ส่วนตัวไม่ชอบเพราะเข้มข้นเกินไป เหงือกติดฟันไปหมด ทาร์ตชิ้นเล็กๆอย่างหน้ากล้วยคาราเมล และหน้ามาการอง แนะนำมาก แป้งกรอบหวานตัดขมช๊อกโกแลตอร่อยกำลังดี
เดินมาอีกหน่อยก็พบกับบาร์เครื่องดื่ม ถ้าอยากดื่มแบบไม่อั้นทางโรงแรมก็มีแพคเกจให้เลือกเพิ่ม 1,690++ รวมน้ำดื่ม / น้ำอัดลม / น้ำผลไม้ / ชา / กาแฟ ราคา 2,150++ เพิ่มเบียร์ ไวน์และสปารค์กลิ้งไวน์ และราคา 2700++ เพิ่มแชมเปญมาอีกอย่าง สามารถดื่มได้ไม่จำกัด วันนี้ผมสั่งเป็น Mocktail มาแทนครับ เพราะถ้าดื่มนี่เจ็บหลังเท้าขึ้นมาทันที ให้ทางโรงแรมจัดมาให้ครับ เป็นราสเบอรี่ Mocktail และ เมนูพิเศษ ไม่ทราบเรียกว่าอะไร เป็นน้ำมะกรูด ผสมเครื่องสมุนไพรกับน้ำส้ม รสชาติแปลกพิลึก ใครอยากลองความแปลกใหม่ก็ลองสั่งดูครับ

*เกิน 10,000 ตัวอักษรขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ
ชื่อสินค้า:   AMAYA Food Gallery, Amari Watergate Bangkok Sunday Brunch
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ได้ทานอาหารมื้อนี้ฟรี ไม่มีค่ารายรับอย่างอื่นเพิ่มเติม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่