สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ จขกท.เพิ่งได้มีโอกาสรีวิวเป็นครั้งแรก หากผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ[:อมยิ้ม17:]
เราเดินทางจากระยอง ไปเขาค้อก่อนค่ะ แต่ไม่ได้นอนเขาค้อนะคะ โดยเลือกเดินทางพักผ่อนวันธรรมดา และมีสมาชิกเดินทางไปด้วยกัน 4 คน ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 2 และไปสมทบที่เขาค้อ อีก 2 คน ทริปนี้เป็น 6 คน ไปกันเลย

หมอกไม่เจอ เจอแต่เด็กดอย

เที่ยวต่อไม่รอละนะ เที่ยวกันแต่เช้าเลย อยากแวะ อยากพัก ไปเรื่อย ไม่เรื่องมาก กินข้าวง่ายๆ ไปเช้าได้เปรียบหน่อย คนไม่เยอะ ขับรถง่าย จอดรถง่าย (อยู่ในช่วงไฮซีซั่น) แต่ถึงกระนั้น นักท่องเที่ยวก็เยอะอยู่น้า.. ที่นี่กังหันลมค่ะ เราไม่ค่อยได้แวะไร่สตอเบอรี่ หรือสวนข้างทางเท่าไหร่ เพราะวันที่เราไปซ่อมแซมถนนเป็นช่วงๆ จอดรถลำบาก เน้นสถานที่เที่ยวหลักๆ
และแน่นอนต้องมีดอกไม้บ้าง สวยๆ
ต่อที่วัดผาซ่อนแก้ว จัดว่าเป็นแลนด์มาร์คของเขาค้อเลย ตามด้วยร้านกาแฟยอดฮิตของที่นี่ ไม่พลาด แต่ขอบอกก่อนว่าร้านกาแฟเยอะมาก แวะกันไม่หมด กินกันจนจุก ชนิดอิ่มกาแฟเลยทีเดียว เลยไม่ขออธิบายรสชาตินะคะ คอใครก็คอใคร ชอบกันคนละเเบบ อิอิ
เที่ยวหลากหลายที่ กินหลากหลายร้าน ใช้เวลาไม่นาน เราออกจากเขาค้อมุ่งหน้าไปภูทับเบิกกันเลยทีเดียว เพราะว่า...เรามีความเกียจคร้านในการย้ายที่นอนหลายที่เพราะมีเด็ก และเราก็ยังพอมีเวลามาเก็บที่เที่ยวที่เขาค้อในวันที่เดินทางกลับได้ เลยตัดสินใจไปหาที่พักเอาดาบหน้าที่ภูทับเบิก ไปต่อกันเลยจ้า และระหว่างที่ขับรถหาที่พักนั้น เราก็เที่ยวไปด้วยเลยจ้า ตามภาพเลย เราได้ที่พักที่นี่ค่ะ **ไร่สุวิทย์** จะบอกว่าดีเลย ไร่กะหล่ำปลี มีกะหล่ำปลีนะคะได้อยู่ ห้องพักหลักร้อยปลายๆ ส่วนวิวไม่ต้องพูดเลยหลักล้าาาาาานนนนนน แถมอีกนิดอาหารอร่อยนะคะ มีอาหารเช้าด้วย คือดีงาม** เราพักที่นี่สองคืนเลย
ขอพักการรีวิวไว้ก่อนนะคะ จะกลับมาต่อให้วันถัดไป มีภาพสวยๆ และที่สถานที่เที่ยวบนภูทับเบิกอีกเยอะ(บอกเลยว่าฟินจริงๆ) รอดูนะคะ...ภาค 2
ต่อกันเลยจ้า
เป็นภาพรวมของที่พักนะคะ ที่นี้มีบริการหมูกะทะด้วยนะคะ ราคากันเอง และมีร้านอาหารด้วย มื้อเย็นวันแรกหมูกะทะ มื้อสองร้านอาหารของที่ไร่สุวิทย์ อร่อยค่ะ ทีเด็ดที่ไม่คิดว่าจะเจอ ในเช้าวันรุ่งขึ้น ให้ภาพบรรยายนะคะ ....




ไม่คิดเลยว่ามาครั้งแรกจะได้เจอหมอกเต็มๆ รู้สึกว่าคุ้มค่ามากๆ
เรารีบเก็บเกี่ยวบรรยากาศหน้าที่พัก และเดินทางต่อเลยค่ะ วันที่สองแล้ว ต้องเที่ยวที่นี้ให้คุ้ม ไปกันเลยค่ะกับอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
เพื่อนๆ อย่าพึงเบื่อกันน้า

ก่อนเข้าไปในฐานะนักท่องเที่ยวเราต้องเสียค่าบำรุงอุทยานนะคะ ราคาก็สอบถามเจ้าหน้าที่อุทยานได้เลย
พอผ่านทางเข้าไปขับรถไปสักพักจะเจอทางขึ้นจุดชมวิวซ้ายมือเรา(ขาขึ้น) แต่ว่าเป็นจุดชมวิวตอนพระอาทิตย์ตก เลยยังไม่แวะ มุ่งตรงไปลานหินปุ่มก่อนเลยคะ เราแวะที่โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า ก่อนค่ะ ถึงก่อนแวะก่อน เพื่อไม่ให้เสียเวลา

ที่มีของขายนิดหน่อย เป็นขาวบ้านแถวนั้น มีต้นไม้ ดอกไม้ และต้นกาแฟ ที่ทดลองปลูก มีผาเล็กหลายผาค่ะ มีชื่อด้วยนะคะ ต้องลองมาดู

เหมือนอยู่ ตปท.(555 มโนไปเอง)
เรามาถึงลานจอดรถก่อนเดินเท้าไปลานหินปุม ต้องจอดรถไว้แล้วเดินไปนะคะ เรากินข้าวเที่ยงที่นี้ แล้วเดินไปเรื่อย แต่เหนื่อยอาการอยู่ รองเท้าสีดำเป็นสีน้ำตาลเลย ถ้ามีเด็กเล็กๆ ก็ลำบากกันหน่อย เพราะต้องอุ้มบ้าง ระยะทางไม่ไกลมาก แต่มีช่วงที่ต้องปีนป่ายบ้างระหว่างซอกหินเพราะทางเดินที่เจ้าหน้าที่ทำไว้ให้ก็มีชำรุดบ้าง ตามกาลเวลา แต่พอเห็นวิวแล้ว หายเหนื่อยเลยค่ะ





ลานหินแตก , ลานหินปุ่ม และผาชูธง ค่ะ เดินลงมาก็แป็บเดียว เดินกันเหนื่อยแต่ก็ขับรถทางฝั่งนครไท นะคะ แต่ไม่ได้ข้ามไปแวะไปดูลาดเลา กลัวเขาจะบังพระอาทิตย์เสียก่อน มืดเร็วนะคะบนเขา
เราออกจากลานหินปุ่มเกือบบ่ายสามโมงเพื่อมาที่จุดชมวิวที่เราข้ามไปตอนแรก แอบบอกว่าทางขึ้นจุดชมวิวจุดนี้น่ากลัวนะคะ ไม่ใช่ทางนะคะ แต่เป็นสถานที่เงียบ ป่าทึบ มีคนขึ้นไปน้อยมาก ห้องน้ำมีแต่ชำรุดซะหมด แต่ว่าวิวกินขาด แล้วถ่ายรูปสวยมากๆ ฟ้าเป็นใจจริงๆ ไปดูกันค่ะ


หันกล้องด้านซ้าย ตามด้วยหันกล้องด้านขวา ไม่มีที่ติ เมฆหลัวๆ ได้ภาพที่ไม่คิดว่าจะได้โดยไม่ต้องแต่งรูป สวยๆ จริง




ขออนุญาตเพื่อนจบรีวิวนะคะ หากเพื่อนชอบ หรือสงสัยอะไรในการเดินทางครั้งนี้ ลองถามเข้ามาได้นะคะ เพราะ จขกท.ไม่ได้ใส่รายละเอียดในการเดินทางเลย อาจจะเป็นครั้งแรกที่รีวิว ขอเก็บเกี่ยวประสบการณ์สักหน่อย แล้วจะมาลองทำรีวิวอีกทีนะคะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
จบด้วยภาพหนุ่มน้อยของทริปนี้นะคะ ได้เห็นทั้งหมอก และไร่กะหล่ำปลี ไปพร้อมกัน