หลักวิธีการขายของออนไลน์....ขายอย่างไรให้ ปัง!
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่ายังมีข้อเสียส่วนใหญ่ที่ทำให้ลูกค้าไม่อยากซื้อของทางอินเทอร์เน็ต นั่นอาจเป็นเพราะลูกค้าไม่สามารถลองสินค้าอย่างการลองสัมผัส หรือการลองสวมใส่ ทำให้จุดนี้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความกังวลต่อตัวสินค้าอย่างมาก แม้แต่ขนาดของสินค้าที่ยังคอยกังวลว่าจะมีขนาดที่ใหญ่หรือเล็กกว่าในรูปไหม? หรือซื้อมาแล้วจะใส่ได้หรือไม่? แม่ค้าที่ทำการขายของหลายคนอาจกำลังเจอกับปัญหาโลกแตกที่ว่า ทำไมลูกค้าไม่ยอมซื้อของจากเว็บคุณ บางคนก็ตั้งข้อสงสัยกับตัวเองว่า การขายของออนไลน์ของคุณนั้นเกิดข้อผิดพลาดอะไรกันแน่? มาเจาะลึกกันดูว่า ลูกค้ามีความต้องการอะไรจากการขายบ้าง ก่อนที่จะเลือกซื้อสินค้าผ่านทางเว็บของคุณ
สิ่งที่ลูกค้าอยากได้จากการขายเมื่อเข้าเว็บครั้งแรก
การขายของจะไม่มียอดเพิ่มขึ้นแน่ หากเจ้าของร้านออกแบบเว็บที่ห่วยและไม่มีความสวยงาม เพราะลูกค้าทุกคนก็คาดหวังว่าการขายของออนไลน์จากเว็บไซต์จะช่วยให้เลือกสินค้าได้ง่ายขึ้น นอกเหนือจากความสะดวกที่ไม่ต้องเดินทางนั่นเอง ซึ่งการเปิดร้านหรือการขายของออนไลน์นั้น จะต้องทำให้เว็บเข้าใจง่าย ที่สำคัญคือต้องมีความเร็วในการโหลดตัวเว็บ หากคุณกำลังเปิดเว็บหรือเพจเพื่อทำการขายของออนไลน์อยู่ ลองกลับไปเช็คกันดูว่า มีข้อไหนที่เราตกหล่นไปไหม อีกทั้งยังรวมไปถึงการออกแบบตัวเว็บ ให้เข้ากับหน้าจอมือถืออีกด้วย เพราะยุคนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้ smartphone ในการเลือกซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก
การสร้างความประทับใจครั้งแรก
เชื่อว่าลูกค้าหลาย ๆ คน อาจจะต้องเคยเจอเว็บที่เมื่อเปิดเข้าไปครั้งแรกแล้ว ถึงกับปิดแทบไม่ทันเลยทีเดียว! และไม่คิดว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ที่แย่ขนาดนั้น เพราะด้วยความที่มันเห็นแล้วรู้สึกว่าใช้งานยาก ไม่สวยถูกใจ หรือการจัดร้านค้าในเว็บดูไม่ได้เลย รกไปหมดไม่เป็นหมวดหมู่ ซึ่งไม่ว่าใครก็อยากจะเห็นเว็บที่สวยงามถูกใจเช่นกัน! แม้แต่การขายของออนไลน์ ลูกค้าเองก็อาจเกิดความไม่ประทับใจในครั้งแรกที่เข้าเว็บ อาจทำให้ลูกค้าคนนั้น มีโอกาสที่จะกลับมาใช้เว็บอีกครั้งน้อยมาก
การบอกต่อในโลกออนไลน์
แม้ว่าเว็บของคุณจะมีความสวยงามและมีความน่าใช้ขนาดไหน ลูกค้าจะรู้ได้อย่างไรว่าการขายสินค้าของคุณดีจริงหรือไม่ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เลือกที่จะซื้อสินค้าโดยดูจากคนใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือญาติสนิท รวมไปถึงการเลือกที่จะเชื่อการรีวิวบนโลกออนไลน์ จากช่องทางสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Pantip มากกว่าที่จะเชื่อการรีวิวจากเว็บการขายของเจ้าของสินค้าโดยตรง ซึ่งลูกค้ายังใช้การรีวิวเป็นตัวเปรียบเทียบความเหมือนของตัวสินค้า ที่แต่ละเว็บได้นำเสนอไว้อีกด้วย
นอกจากนี้การชำระเงินของลูกค้า ต่อการขายของออนไลน์นั้นจะต้องสามารถติดต่อเจ้าของเว็บได้ง่าย อาจมีการเพิ่มนโยบายรับประกันสินค้าหรือการรับประกัน 15 วัน หากสินค้าชำรุด สามารถเปลี่ยนได้ ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าขึ้นไปอีก
หลักวิธีการขายของออนไลน์....ขายอย่างไรให้ ปัง!
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่ายังมีข้อเสียส่วนใหญ่ที่ทำให้ลูกค้าไม่อยากซื้อของทางอินเทอร์เน็ต นั่นอาจเป็นเพราะลูกค้าไม่สามารถลองสินค้าอย่างการลองสัมผัส หรือการลองสวมใส่ ทำให้จุดนี้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความกังวลต่อตัวสินค้าอย่างมาก แม้แต่ขนาดของสินค้าที่ยังคอยกังวลว่าจะมีขนาดที่ใหญ่หรือเล็กกว่าในรูปไหม? หรือซื้อมาแล้วจะใส่ได้หรือไม่? แม่ค้าที่ทำการขายของหลายคนอาจกำลังเจอกับปัญหาโลกแตกที่ว่า ทำไมลูกค้าไม่ยอมซื้อของจากเว็บคุณ บางคนก็ตั้งข้อสงสัยกับตัวเองว่า การขายของออนไลน์ของคุณนั้นเกิดข้อผิดพลาดอะไรกันแน่? มาเจาะลึกกันดูว่า ลูกค้ามีความต้องการอะไรจากการขายบ้าง ก่อนที่จะเลือกซื้อสินค้าผ่านทางเว็บของคุณ
สิ่งที่ลูกค้าอยากได้จากการขายเมื่อเข้าเว็บครั้งแรก
การขายของจะไม่มียอดเพิ่มขึ้นแน่ หากเจ้าของร้านออกแบบเว็บที่ห่วยและไม่มีความสวยงาม เพราะลูกค้าทุกคนก็คาดหวังว่าการขายของออนไลน์จากเว็บไซต์จะช่วยให้เลือกสินค้าได้ง่ายขึ้น นอกเหนือจากความสะดวกที่ไม่ต้องเดินทางนั่นเอง ซึ่งการเปิดร้านหรือการขายของออนไลน์นั้น จะต้องทำให้เว็บเข้าใจง่าย ที่สำคัญคือต้องมีความเร็วในการโหลดตัวเว็บ หากคุณกำลังเปิดเว็บหรือเพจเพื่อทำการขายของออนไลน์อยู่ ลองกลับไปเช็คกันดูว่า มีข้อไหนที่เราตกหล่นไปไหม อีกทั้งยังรวมไปถึงการออกแบบตัวเว็บ ให้เข้ากับหน้าจอมือถืออีกด้วย เพราะยุคนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้ smartphone ในการเลือกซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก
การสร้างความประทับใจครั้งแรก
เชื่อว่าลูกค้าหลาย ๆ คน อาจจะต้องเคยเจอเว็บที่เมื่อเปิดเข้าไปครั้งแรกแล้ว ถึงกับปิดแทบไม่ทันเลยทีเดียว! และไม่คิดว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ที่แย่ขนาดนั้น เพราะด้วยความที่มันเห็นแล้วรู้สึกว่าใช้งานยาก ไม่สวยถูกใจ หรือการจัดร้านค้าในเว็บดูไม่ได้เลย รกไปหมดไม่เป็นหมวดหมู่ ซึ่งไม่ว่าใครก็อยากจะเห็นเว็บที่สวยงามถูกใจเช่นกัน! แม้แต่การขายของออนไลน์ ลูกค้าเองก็อาจเกิดความไม่ประทับใจในครั้งแรกที่เข้าเว็บ อาจทำให้ลูกค้าคนนั้น มีโอกาสที่จะกลับมาใช้เว็บอีกครั้งน้อยมาก
การบอกต่อในโลกออนไลน์
แม้ว่าเว็บของคุณจะมีความสวยงามและมีความน่าใช้ขนาดไหน ลูกค้าจะรู้ได้อย่างไรว่าการขายสินค้าของคุณดีจริงหรือไม่ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เลือกที่จะซื้อสินค้าโดยดูจากคนใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือญาติสนิท รวมไปถึงการเลือกที่จะเชื่อการรีวิวบนโลกออนไลน์ จากช่องทางสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Pantip มากกว่าที่จะเชื่อการรีวิวจากเว็บการขายของเจ้าของสินค้าโดยตรง ซึ่งลูกค้ายังใช้การรีวิวเป็นตัวเปรียบเทียบความเหมือนของตัวสินค้า ที่แต่ละเว็บได้นำเสนอไว้อีกด้วย
นอกจากนี้การชำระเงินของลูกค้า ต่อการขายของออนไลน์นั้นจะต้องสามารถติดต่อเจ้าของเว็บได้ง่าย อาจมีการเพิ่มนโยบายรับประกันสินค้าหรือการรับประกัน 15 วัน หากสินค้าชำรุด สามารถเปลี่ยนได้ ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าขึ้นไปอีก