ออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่โอตะ เพราะผมเกลียดระบบ 48 ย้ำว่าเกลียดที่ตัวระบบนะครับ ไม่ได้เกลียดที่ตัวบุคคล ส่วนใครจะชอบนั้นก็เรื่องของท่านครับ ผมไม่สามารถไปห้ามหรือบังคับให้ใครคิดเหมือนหรือคิดต่างจากผมหรอก คือผมไม่แน่ใจว่าเวลาคนอื่นไม่ชอบอะไรสักอย่าง เขาทำกันยังไง แต่สำหรับผม ถ้าจะไม่ชอบผมต้องศึกษาให้รู้จริง ๆ ก่อน ต้องตอบให้ได้ว่าไม่ชอบเพราะอะไร
และนั้นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงวนเวียนอยู่แถวนี้ประปราย ผมไม่ชอบระบบ 48 แต่ในแง่มุมของธุรกิจแล้ว มันมีนัยที่น่าสนใจสำหรับทุกยอดเงินที่เคลื่อนไหวทุกอีเว้นท์ที่ผ่านมาครับ ก็คือไม่ชอบแหละ แต่ก็ศึกษาไว้ เผื่อเอาไปปรับใช้กับงานตัวเองได้ และถึงแม้ผมจะไม่ชอบ แต่ผมก็ไม่ได้วิ่งไปด่าทุกอย่างแบบไร้เหตุผล เข้าใจตรงกันตรงนี้ก่อนนะครับ
จบเรื่องของผมแล้ว มาว่ากันต่อด้วยเรื่องการเลือกตั้ง
ยอดเงินปีนี้จบสูงมากครับ เงินสะพัดเกือบสองร้อยล้านบาท ต้อมซังกับกรมสรรพากรคงยิ้มแก้มปริแล้ว แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นที่อยากกล่าวถึง ที่ผมคิดว่ายอดเงินสูงขนาดนี้เพราะเป็นปีแรกที่กระแสวงยังไม่ดรอปมากครับ เพราะหลังจาก KFC ก็ต้องยอมรับว่าถ้าเป็นคนนอกแบบนอกจริง ๆ ก็แทบไม่มีใครรู้อีกแล้วว่าเพลงถัดมาเป็นเพลงอะไร นอกจากโอตะและแอนตี้ที่คอยตามงานว่าควรชมหรือควรด่า (อันไหนทำดีก็ชม อันไหนแย่ก็ตำหนิ ประมาณนั้น)
ตัวแปรยอดเงินในปีถัดไป คือโอกาสที่เด็ก ๆ ปีนี้จะได้รับจาก อฟซ ครับ
ผมยอมรับเลยว่าไม่ชอบมาก ๆ เวลามีใครบอกว่าเลือกตั้งก็แค่ Event ๆ หนึ่ง คือใช่ มันเป็นแค่อีกหนึ่งกิจกรรม แต่มันเป็นกิจกรรมรีดเงินที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ คือบางคนพูดเหมือนดูถูกความพยายามของหลาย ๆ บ้านที่ส่งเมมเบอร์ขึ้นไปยืนบนเวทีได้ อันนี้สำหรับผมไม่น่ารักเลยครับ จะบอกว่าห่างไม่กี่คะแนน แต่แพ้ก็คือแพ้ครับ แค่ยอมรับว่าทำเต็มที่แล้ว มีโอกาสก็สู้กันใหม่ แค่นั้นก็จบแล้ว อยากให้มองย้อนกลับไปถึงความพยายามก่อนประกาศผล ถึงความหมายที่คามิมีแค่เจ็ดคน ถึงการแข่งขันที่ดุเดือดเลือดสาด นั้นแถวบ้านผมไม่เรียกว่าอีเว้นท์ ๆ หนึ่งนะ เหอะ ๆ
สิ่งที่หลาย ๆ บ้านมอบให้เมมเบอร์ไม่ใช่ตำแหน่งแต่เป็นโอกาสครับ
หน้าที่ของด้อมคือการจูงมือเมมเบอร์ขึ้นไปยืนบนเวที ส่วนที่เหลือ อยู่ที่เจ้าตัวแล้วว่าจะผลักดันตัวเองได้มากขนาดไหน และอฟซจะผลักดันมากน้อยขนาดไหนก็เช่นกัน คุณนึกดูนะ ทุ่มเทกันลงไปขนาดนี้ อฟซไม่ดัน ดันแค่ตรงนี้ ดันผ่าน ๆ ดันส่ง ๆ แล้วปีหน้าจะรวมแรงรวมใจกันทำไม ในเมื่อทุกอย่างก็จะกลับไปสู่โหมดปกติ สุดท้ายการลงแรงที่ไม่เกิดประโยชน์ จะไม่มีใครอยากลงแรงครับ สู้เอาเงินไปซื้อบัตรจับมือให้เมมเบอร์ไม่ดีกว่าเหรอ?
เลือกตั้งสำหรับผม ไม่ใช่แค่อีเว้นท์ ๆ เดียว แต่มันคือการป่าวประกาศความรอยัลตี้ของแต่ละด้อม ว่าพร้อมจะจ่ายไหวมากน้อยขนาดไหน เงินอาจจะไม่ได้หมายถึงทุกความรอยัลตี้ที่มอบให้เมมเบอร์ แต่ในแง่ของธุรกิจแล้ว เงินคือตัวตอบทุกอย่าง ตอบมูลค่าของการบริการหรือถ้าว่ากันตามตรงก็คือตัวไอดอลเองนั้นแหละครับว่าคนพร้อมจ่ายให้พวกเธอมากแค่ไหนกัน และนี้คือโจทย์ที่ อฟซ ต้องเอากลับไปคิดแล้วว่าจะแบ่งแอร์ไทม์กันยังไงต่อไป
ให้คนที่จ่ายเงินไปรู้สึกว่าการจ่ายของเขามันคุ้มค่าและพร้อมจะจ่ายให้อีกในปีถัด ๆ ไป
ว่าด้วยเรื่องเมมเบอร์ ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ตามวง ผมตามแค่สามคน จิ๊บ เปี่ยม และแนท จริง ๆ ก่อนหน้านั้นมีสองแคนกับเมษา แต่ทั้งคู่ก็เดินไปสู่เส้นทางที่เหมาะที่ควรแล้ว (เดือนหน้าเจ้าต๋ามีงานเพลงใหม่น่าสนใจออกมา ใครเป็นบ้านพฤษภาก็เตรียมตัวเฮกันให้ดัง ๆ แล้วกันนะครับ) ซึ่งก็ตั้งใจแล้วว่า ถ้าสามคนนี้แกรด ก็คือจบ เลิกตาม เพราะมันจะกลายเป็นน่าสนใจแค่ในมุมธุรกิจ แต่ไม่มีใครที่อยากไปตามเฝ้าดูความสำเร็จ
- แนท
ยินดีด้วยกับสิ่งที่ได้มาด้วยสองมือ ความเจ็บใจจาก 12+ น่าจะเป็นอีกแรงผลักดันฮึดใหญ่ ๆ ให้ด้อมที่ไม่ได้มีคนเยอะมากมาย พาแนทมาได้ไกลถึงขนาดนี้ ส่วนตัวเราเป็นโลนวูฟ เข้าไปสแควท์ก็ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง (เข้าแล้วออก แค่อยากไปดูบรรยากาศ) คนที่ขอบคุณมากที่สุดก็คือตัวหนูเองนั้นแหละ ที่ส่องแสงลงมาได้สว่างมากขนาดนี้ เราไม่รู้ว่าซิงเกิล 6 จะมีพื้นที่ให้แนทได้ออกไปข้างนอกได้มากน้อยขนาดนั้น เพราะว่ากันตามตรงมันก็ลำดับใกล้ท้าย ๆ แต่ถ้านับจากอันเดอร์ที่ไม่ติดอะไรเลย แล้วเด้งมาเซมบัทสึ มันคือก้าวแรกที่ดีและยิ่งใหญ่
มีความเชื่อลึก ๆ ว่าแนทน่าจะได้อ่านกระทู้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง เผลอ ๆ เมมเบอร์หลายคนอาจจะแฝงตัวอยู่ในไลน์สแควท์ของตัวเองด้วยซ้ำ แนทเป็นคนฉลาด อะไรที่หลาย ๆ คนบอกก็เอาไปปรับ ไปแก้ทั้งหมด ตะนี้แล้วสิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงก็คือสุขภาพและ performance ของตัวแนทเอง ซึ่งตรงนี้เรากรองข่าวจากหลาย ๆ ด้านแล้ว หลายคนก็บอกว่าแนทมีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว
ที่เราตามเชียร์ เพราะไอดอลไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต ยังอยากเห็นแนทในอีกหลาย ๆ บทบาท และการได้เป็นที่รู้จักของคนหมู่มากคือต้นทุนที่ดีในการไปต่อ ในการทำอีกหลาย ๆ อย่าง จากนี้ต่อไป ขอให้พัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ ทั้งทักษะการพูดและทักษะในการออกหน้าสื่อ การรู้จักมุมกล้อง การหาจังหวะเรียกซีนที่ดีให้กับตัวเอง เราเปลี่ยนเสียงร้องตัวเองไม่ได้ แต่เราพัฒนาบุคลิกภาพไปในด้านอื่น ๆ ได้ และพร้อมที่จะเป็นคนของสาธารณะ
เรื่องเพื่อนที่หลาย ๆ คนชอบคอมเม้นท์บอกว่าแนทดูเหมือนไม่ค่อยเอาเพื่อน อันนี้มองข้ามได้ก็อยากให้มองข้ามไป ทุกคนมองจากสิ่งที่ไอดอลแสดงให้เห็น แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริง ไม่มีใครรู้ว่าหลังฉากเกิดอะไรขึ้นบ้าง BTW ดีใจด้วยที่หายูนิตหวานเย็นเจอ และหวังว่าทุกอย่างมันจะค่อยเป็นค่อยไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องพยายามจนขาดความเป็นธรรมชาติ เป็นแค่ตัวแนทเองก็พอแล้วจริง ๆ
จากนี้ต่อไปจะต้องเจออีกหลาย ๆ เรื่องแน่ ๆ อดทน และยิ้มให้กับทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามา เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ยินดีด้วยจริง ๆ ที่มาได้ไกลขนาดนี้
- จิ๊บ
สวัสดีนกน้อยหัวร้อน ยินดีด้วยกับความสำเร็จอีกก้าวที่ผ่านมา บนเวทีที่หนูพูดมันตอบหมดทุกอย่างแล้วจริง ๆ ว่าหนูรู้สึกยังไง จิ๊บยังเด็ก ยังโตได้อีกเยอะ ยังไปต่อได้อีกหลายช่วงตัว การต้องมาอยู่ในระบบที่ขายภาพลักษณ์ไม่ใช่ความสามารถเป็นหลัก อาจจะทำให้อึดอัดใจไปบ้าง แต่จิ๊บยังยืนอยู่ตรงนั้น ยังก้าวต่อไปข้างหน้าอีกหลายๆ ก้าว นั้นคือเรื่องที่น่ายินดี ไม่มีอะไรจะน่ายินดีไปมากกว่าการที่เรายังมีความสุขบ้างในแต่ละวันที่ยังได้ดำรงชีวิตก็พอ
ถ้ายังมีความสุขอยู่ตรงนั้น ก็ขอให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทุกอย่าง โลกของการทำงานจริงๆ อยู่ตรงหน้าแล้ว ทั้งการแข่งขัน การหักหลัง เกมการเมืองต่าง ๆ ไปจนกระทั้งสิ่งที่สังคมทรีตกับเรา ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปก็เจอ ผ่านมันไปให้ได้นะ เราเป็นกำลังใจให้จริง ๆ
- เปี่ยม
เหนื่อยเนาะ กับการโดนคาดหวังและกดดันจากสังคม ให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เป็นในสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง ...แต่ไม่ใช่ตัวเราเอง
เปี่ยมเป็นเด็กอีกคนที่หลายๆคนมองว่ายังไม่โต ยังหาคาแรคเตอร์ของตัวเองไม่เจอ แต่สิ่งเหล่านั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร อย่าว่าแต่เด็กอายุเท่าหนูเลย ผู้ใหญ่บางคนก็ยังเรียนรู้และเปลี่ยนไปกันแบบวันต่อวัน แต่ที่พูดถึงวันนี้ คือมาให้กำลังใจ มาบอกว่าการเป็นตัวตนของตัวเองมันไม่ใช่เรื่องแย่ ในแง่ที่ว่า ถ้าหนูพอใจจริงๆกับการที่ต่อให้ไม่มีคนมานิยมเท่าก็ไม่เป็นเรา แค่ได้เป็นตัวเราก็ดีใจแล้ว ถ้ามันเท่านั้นจริง ๆ พี่ก็ขอให้หนูเก็บเกี่ยวทุกอย่าง และมีความสุขกับมันไปเท่าที่หนูจะมีได้ สู้ ๆ นะครับ
- เจน
อย่าหวาดกลัว ที่ ๆ ตรงนั้น เหมาะสมกับหนูแล้วด้วยประการทั้งปวง
หนูไม่ได้โกงใคร หนูไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ทั้งหมดคือสิ่งที่คนที่รักหนูยินดีมอบให้จากหัวใจ ทุกคนแข่งขันกันตามกติกา ไม่ต้องพูดแล้วว่าใครสนับสนุน อะไรยังไง เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนก็ยอมจ่ายเพื่อคนที่เรารักกันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ ในเมื่อศึกนี้วัดกันด้วยพลังแฟนคลับ ไม่มีเหตุผลอะไรที่หนูจะต้องรู้สึกเสียใจที่ได้ขึ้นไปอยู่ตรงนั้นเลย หนูควรคู่กับมันด้วยประการทั้งปวงครับ
อดทน พยายาม และแสดงให้ทุกคนเห็น ว่า "เดียร์เจน" เลือกรักคนไม่ผิดพลาดไปจริง ๆ
เราเชื่อเสมอว่าเจนทำได้ เหมือน ๆ กับที่บ้านเจนทำได้
ทำให้เจนได้ก้าวขึ้นมาถึงตรงนี้
สู้ครับ
- โอตะ
โอตะในความหมายของคนนอก ก็คือทั้งหมด คือทุกคนนั้นแหละครับ อยากให้ใจกว้างๆ ให้ยอมรับว่าสังคมทุกสังคมประกอบไปด้วยทั้งคนที่มีเหตุผลและไม่มีเหตุผล ไม่ว่าจะฝั่งโอตะหรือแอนตี้ ทั้งหมดมันก็คือสังคมๆหนึ่งอ่ะครับ พูดในมุมของคนที่ดำรงตนว่าเป็นแค่คนนอก อยากให้ใจเย็นๆ และรับฟังสิ่งที่คนนอกพูดเข้ามาด้วยเหตุผล ย้ำว่าเหตุผลนะครับ ไม่ใช่คำด่ากราด ทุก ๆ เคสที่เกิดขึ้น หลายครั้งแล้วก็ไฟลามทุ่งเพราะความหัวร้อนของโอตะอ่ะครับ
คือนึกออกไหม มองในมุมคนนอกนะ ถ้าผมไม่ได้สนใจธุรกิจตัวนี้ ถามว่าผมต้องมารับรู้ด้วยเหรอว่าระบบวงเป็นยังไง ผมต้องเข้าใจด้วยเหรอว่าทำไมคนเสียงดีถึงไม่ได้ร้องเพลง คนเสียงไม่ดีเท่าได้ร้องเพลง และถ้าไม่ใช่นักร้องออกเพลง ออกเทป ออกแผ่นมาขายทำไม นึกออกไหมครับ มุมโอตะอาจจะมองว่า เห้ย เป็นไอดอล ไม่ใช่นักร้อง แต่ถามว่าสินค้าหลักที่ขายคือการบริการร้องเพลงไม่ใช่เหรอครับ?
หลายคนรับฟัง นั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดี น้องๆหลายคนในวงก็ต้องปรับตัว ต้องพัฒนากันต่อไป ไม่อยากให้แค่ใช้คำว่าไอดอลเลยไม่จำเป็นต้องร้องเพลงเพราะมากลบสิ่งที่ต้องพัฒนา เพราะนั้นแปลว่าคุณกำลังย้อนแย้งในสิ่งที่เด็ก ๆ ทำอย่างถึงที่สุด ปากบอกว่าขายความพยายาม แต่ไม่พยายามปรับปรุง มันจะขายอะไรได้อีกอ่ะครับ (อ่อ ไม่ต้องพูดถึงรูปลักษณ์นะครับ ก็รู้ ๆ กันอยู่แล้วนิ)
ผมไม่ได้หมายความว่าต้องยอมรับทุกสิ่งที่คนนอกแสดงความคิดเห็น แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดตั้งว่าเอาโลกทั้งใบของตัวเองมาเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจ เวลาภาพที่มันออกไป มันออกมารวมครับ และก็อย่างที่ผมย้ำเสมอ ทุกสังคมมีทั้งคนที่มีเหตุผลและไม่มีเหตุผล ไม่มีสังคมไหนที่ขาวหรอดำ มันก็สีเทา ๆ ปะปนกันไปทุกภาคส่วนนั่นแหละครับ และนั้นคือสาเหตุที่ผมอยากคุยกับโอตะ
ลองใจเย็นและปลดล็อกอคติจากความชอบในตัวน้อง ๆ พิจารณาข้อคิดเห็น เหตุผล และความเป็นจริง เวลาที่มีโอตะจากด้อมไหนสักด้อมทำไม่ดี ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นขาปั่นนะครับ ก็อยากให้ยอมรับบ้างว่าในด้อมก็มีคนแบบนั้นจริง ๆ แค่ยอมรับ และบอกไปตามตรงว่าคนดี ๆ ก็มี คนไม่ดีก็มี มันแค่นั้นเองอ่ะครับ ไม่จำเป็นยึดติดว่าคนไม่ดี = นอกด้อมแน่ ๆ
สถานการณ์อะไรหลายๆอย่างคงจะดีขึ้นมากกว่านี้ถ้ามีสติ ใจเย็น รับฟังกันและกันมากกว่านี้
ก็ไม่มีอะไรจะบ่นแล้วครับ ยาวมาก เอาเป็นว่าผมก็ขอเขียนถึงไว้แต่เพียงเท่านี้ละกัน ผมไม่รู้ว่าเทรนด์ธุรกิจนี้จะไปได้ไกลมากขนาดไหน แต่ในส่วนของปี 2018 ที่ผ่านมา 48 ขับเคลื่อนให้วงการเพลงกลับมาคึกคักในหลายภาคส่วนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ไม่ว่ากระแสจะไปได้ถึงขนาดไหน ครั้งหนึ่งมันก็เคยเป็นธุรกิจที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับผม
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบครับ.
ว่าด้วยการเลือกตั้งที่ผ่านมา ว่าด้วยเจ้าแนท เจ้าจิ๊บ เจ้าเปี่ยม เจ้าเจน และโอตะอีกหลาย ๆ คน
และนั้นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงวนเวียนอยู่แถวนี้ประปราย ผมไม่ชอบระบบ 48 แต่ในแง่มุมของธุรกิจแล้ว มันมีนัยที่น่าสนใจสำหรับทุกยอดเงินที่เคลื่อนไหวทุกอีเว้นท์ที่ผ่านมาครับ ก็คือไม่ชอบแหละ แต่ก็ศึกษาไว้ เผื่อเอาไปปรับใช้กับงานตัวเองได้ และถึงแม้ผมจะไม่ชอบ แต่ผมก็ไม่ได้วิ่งไปด่าทุกอย่างแบบไร้เหตุผล เข้าใจตรงกันตรงนี้ก่อนนะครับ
จบเรื่องของผมแล้ว มาว่ากันต่อด้วยเรื่องการเลือกตั้ง
ยอดเงินปีนี้จบสูงมากครับ เงินสะพัดเกือบสองร้อยล้านบาท ต้อมซังกับกรมสรรพากรคงยิ้มแก้มปริแล้ว แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นที่อยากกล่าวถึง ที่ผมคิดว่ายอดเงินสูงขนาดนี้เพราะเป็นปีแรกที่กระแสวงยังไม่ดรอปมากครับ เพราะหลังจาก KFC ก็ต้องยอมรับว่าถ้าเป็นคนนอกแบบนอกจริง ๆ ก็แทบไม่มีใครรู้อีกแล้วว่าเพลงถัดมาเป็นเพลงอะไร นอกจากโอตะและแอนตี้ที่คอยตามงานว่าควรชมหรือควรด่า (อันไหนทำดีก็ชม อันไหนแย่ก็ตำหนิ ประมาณนั้น)
ตัวแปรยอดเงินในปีถัดไป คือโอกาสที่เด็ก ๆ ปีนี้จะได้รับจาก อฟซ ครับ
ผมยอมรับเลยว่าไม่ชอบมาก ๆ เวลามีใครบอกว่าเลือกตั้งก็แค่ Event ๆ หนึ่ง คือใช่ มันเป็นแค่อีกหนึ่งกิจกรรม แต่มันเป็นกิจกรรมรีดเงินที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ คือบางคนพูดเหมือนดูถูกความพยายามของหลาย ๆ บ้านที่ส่งเมมเบอร์ขึ้นไปยืนบนเวทีได้ อันนี้สำหรับผมไม่น่ารักเลยครับ จะบอกว่าห่างไม่กี่คะแนน แต่แพ้ก็คือแพ้ครับ แค่ยอมรับว่าทำเต็มที่แล้ว มีโอกาสก็สู้กันใหม่ แค่นั้นก็จบแล้ว อยากให้มองย้อนกลับไปถึงความพยายามก่อนประกาศผล ถึงความหมายที่คามิมีแค่เจ็ดคน ถึงการแข่งขันที่ดุเดือดเลือดสาด นั้นแถวบ้านผมไม่เรียกว่าอีเว้นท์ ๆ หนึ่งนะ เหอะ ๆ
สิ่งที่หลาย ๆ บ้านมอบให้เมมเบอร์ไม่ใช่ตำแหน่งแต่เป็นโอกาสครับ
หน้าที่ของด้อมคือการจูงมือเมมเบอร์ขึ้นไปยืนบนเวที ส่วนที่เหลือ อยู่ที่เจ้าตัวแล้วว่าจะผลักดันตัวเองได้มากขนาดไหน และอฟซจะผลักดันมากน้อยขนาดไหนก็เช่นกัน คุณนึกดูนะ ทุ่มเทกันลงไปขนาดนี้ อฟซไม่ดัน ดันแค่ตรงนี้ ดันผ่าน ๆ ดันส่ง ๆ แล้วปีหน้าจะรวมแรงรวมใจกันทำไม ในเมื่อทุกอย่างก็จะกลับไปสู่โหมดปกติ สุดท้ายการลงแรงที่ไม่เกิดประโยชน์ จะไม่มีใครอยากลงแรงครับ สู้เอาเงินไปซื้อบัตรจับมือให้เมมเบอร์ไม่ดีกว่าเหรอ?
เลือกตั้งสำหรับผม ไม่ใช่แค่อีเว้นท์ ๆ เดียว แต่มันคือการป่าวประกาศความรอยัลตี้ของแต่ละด้อม ว่าพร้อมจะจ่ายไหวมากน้อยขนาดไหน เงินอาจจะไม่ได้หมายถึงทุกความรอยัลตี้ที่มอบให้เมมเบอร์ แต่ในแง่ของธุรกิจแล้ว เงินคือตัวตอบทุกอย่าง ตอบมูลค่าของการบริการหรือถ้าว่ากันตามตรงก็คือตัวไอดอลเองนั้นแหละครับว่าคนพร้อมจ่ายให้พวกเธอมากแค่ไหนกัน และนี้คือโจทย์ที่ อฟซ ต้องเอากลับไปคิดแล้วว่าจะแบ่งแอร์ไทม์กันยังไงต่อไป
ให้คนที่จ่ายเงินไปรู้สึกว่าการจ่ายของเขามันคุ้มค่าและพร้อมจะจ่ายให้อีกในปีถัด ๆ ไป
ว่าด้วยเรื่องเมมเบอร์ ผมบอกแล้วว่าผมไม่ได้ตามวง ผมตามแค่สามคน จิ๊บ เปี่ยม และแนท จริง ๆ ก่อนหน้านั้นมีสองแคนกับเมษา แต่ทั้งคู่ก็เดินไปสู่เส้นทางที่เหมาะที่ควรแล้ว (เดือนหน้าเจ้าต๋ามีงานเพลงใหม่น่าสนใจออกมา ใครเป็นบ้านพฤษภาก็เตรียมตัวเฮกันให้ดัง ๆ แล้วกันนะครับ) ซึ่งก็ตั้งใจแล้วว่า ถ้าสามคนนี้แกรด ก็คือจบ เลิกตาม เพราะมันจะกลายเป็นน่าสนใจแค่ในมุมธุรกิจ แต่ไม่มีใครที่อยากไปตามเฝ้าดูความสำเร็จ
- แนท
ยินดีด้วยกับสิ่งที่ได้มาด้วยสองมือ ความเจ็บใจจาก 12+ น่าจะเป็นอีกแรงผลักดันฮึดใหญ่ ๆ ให้ด้อมที่ไม่ได้มีคนเยอะมากมาย พาแนทมาได้ไกลถึงขนาดนี้ ส่วนตัวเราเป็นโลนวูฟ เข้าไปสแควท์ก็ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง (เข้าแล้วออก แค่อยากไปดูบรรยากาศ) คนที่ขอบคุณมากที่สุดก็คือตัวหนูเองนั้นแหละ ที่ส่องแสงลงมาได้สว่างมากขนาดนี้ เราไม่รู้ว่าซิงเกิล 6 จะมีพื้นที่ให้แนทได้ออกไปข้างนอกได้มากน้อยขนาดนั้น เพราะว่ากันตามตรงมันก็ลำดับใกล้ท้าย ๆ แต่ถ้านับจากอันเดอร์ที่ไม่ติดอะไรเลย แล้วเด้งมาเซมบัทสึ มันคือก้าวแรกที่ดีและยิ่งใหญ่
มีความเชื่อลึก ๆ ว่าแนทน่าจะได้อ่านกระทู้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง เผลอ ๆ เมมเบอร์หลายคนอาจจะแฝงตัวอยู่ในไลน์สแควท์ของตัวเองด้วยซ้ำ แนทเป็นคนฉลาด อะไรที่หลาย ๆ คนบอกก็เอาไปปรับ ไปแก้ทั้งหมด ตะนี้แล้วสิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงก็คือสุขภาพและ performance ของตัวแนทเอง ซึ่งตรงนี้เรากรองข่าวจากหลาย ๆ ด้านแล้ว หลายคนก็บอกว่าแนทมีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว
ที่เราตามเชียร์ เพราะไอดอลไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต ยังอยากเห็นแนทในอีกหลาย ๆ บทบาท และการได้เป็นที่รู้จักของคนหมู่มากคือต้นทุนที่ดีในการไปต่อ ในการทำอีกหลาย ๆ อย่าง จากนี้ต่อไป ขอให้พัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ ทั้งทักษะการพูดและทักษะในการออกหน้าสื่อ การรู้จักมุมกล้อง การหาจังหวะเรียกซีนที่ดีให้กับตัวเอง เราเปลี่ยนเสียงร้องตัวเองไม่ได้ แต่เราพัฒนาบุคลิกภาพไปในด้านอื่น ๆ ได้ และพร้อมที่จะเป็นคนของสาธารณะ
เรื่องเพื่อนที่หลาย ๆ คนชอบคอมเม้นท์บอกว่าแนทดูเหมือนไม่ค่อยเอาเพื่อน อันนี้มองข้ามได้ก็อยากให้มองข้ามไป ทุกคนมองจากสิ่งที่ไอดอลแสดงให้เห็น แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจริง ไม่มีใครรู้ว่าหลังฉากเกิดอะไรขึ้นบ้าง BTW ดีใจด้วยที่หายูนิตหวานเย็นเจอ และหวังว่าทุกอย่างมันจะค่อยเป็นค่อยไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องพยายามจนขาดความเป็นธรรมชาติ เป็นแค่ตัวแนทเองก็พอแล้วจริง ๆ
จากนี้ต่อไปจะต้องเจออีกหลาย ๆ เรื่องแน่ ๆ อดทน และยิ้มให้กับทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามา เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ยินดีด้วยจริง ๆ ที่มาได้ไกลขนาดนี้
- จิ๊บ
สวัสดีนกน้อยหัวร้อน ยินดีด้วยกับความสำเร็จอีกก้าวที่ผ่านมา บนเวทีที่หนูพูดมันตอบหมดทุกอย่างแล้วจริง ๆ ว่าหนูรู้สึกยังไง จิ๊บยังเด็ก ยังโตได้อีกเยอะ ยังไปต่อได้อีกหลายช่วงตัว การต้องมาอยู่ในระบบที่ขายภาพลักษณ์ไม่ใช่ความสามารถเป็นหลัก อาจจะทำให้อึดอัดใจไปบ้าง แต่จิ๊บยังยืนอยู่ตรงนั้น ยังก้าวต่อไปข้างหน้าอีกหลายๆ ก้าว นั้นคือเรื่องที่น่ายินดี ไม่มีอะไรจะน่ายินดีไปมากกว่าการที่เรายังมีความสุขบ้างในแต่ละวันที่ยังได้ดำรงชีวิตก็พอ
ถ้ายังมีความสุขอยู่ตรงนั้น ก็ขอให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ทุกอย่าง โลกของการทำงานจริงๆ อยู่ตรงหน้าแล้ว ทั้งการแข่งขัน การหักหลัง เกมการเมืองต่าง ๆ ไปจนกระทั้งสิ่งที่สังคมทรีตกับเรา ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปก็เจอ ผ่านมันไปให้ได้นะ เราเป็นกำลังใจให้จริง ๆ
- เปี่ยม
เหนื่อยเนาะ กับการโดนคาดหวังและกดดันจากสังคม ให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน เป็นในสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง ...แต่ไม่ใช่ตัวเราเอง
เปี่ยมเป็นเด็กอีกคนที่หลายๆคนมองว่ายังไม่โต ยังหาคาแรคเตอร์ของตัวเองไม่เจอ แต่สิ่งเหล่านั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร อย่าว่าแต่เด็กอายุเท่าหนูเลย ผู้ใหญ่บางคนก็ยังเรียนรู้และเปลี่ยนไปกันแบบวันต่อวัน แต่ที่พูดถึงวันนี้ คือมาให้กำลังใจ มาบอกว่าการเป็นตัวตนของตัวเองมันไม่ใช่เรื่องแย่ ในแง่ที่ว่า ถ้าหนูพอใจจริงๆกับการที่ต่อให้ไม่มีคนมานิยมเท่าก็ไม่เป็นเรา แค่ได้เป็นตัวเราก็ดีใจแล้ว ถ้ามันเท่านั้นจริง ๆ พี่ก็ขอให้หนูเก็บเกี่ยวทุกอย่าง และมีความสุขกับมันไปเท่าที่หนูจะมีได้ สู้ ๆ นะครับ
- เจน
อย่าหวาดกลัว ที่ ๆ ตรงนั้น เหมาะสมกับหนูแล้วด้วยประการทั้งปวง
หนูไม่ได้โกงใคร หนูไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ทั้งหมดคือสิ่งที่คนที่รักหนูยินดีมอบให้จากหัวใจ ทุกคนแข่งขันกันตามกติกา ไม่ต้องพูดแล้วว่าใครสนับสนุน อะไรยังไง เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนก็ยอมจ่ายเพื่อคนที่เรารักกันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ ในเมื่อศึกนี้วัดกันด้วยพลังแฟนคลับ ไม่มีเหตุผลอะไรที่หนูจะต้องรู้สึกเสียใจที่ได้ขึ้นไปอยู่ตรงนั้นเลย หนูควรคู่กับมันด้วยประการทั้งปวงครับ
อดทน พยายาม และแสดงให้ทุกคนเห็น ว่า "เดียร์เจน" เลือกรักคนไม่ผิดพลาดไปจริง ๆ
เราเชื่อเสมอว่าเจนทำได้ เหมือน ๆ กับที่บ้านเจนทำได้
ทำให้เจนได้ก้าวขึ้นมาถึงตรงนี้
สู้ครับ
- โอตะ
โอตะในความหมายของคนนอก ก็คือทั้งหมด คือทุกคนนั้นแหละครับ อยากให้ใจกว้างๆ ให้ยอมรับว่าสังคมทุกสังคมประกอบไปด้วยทั้งคนที่มีเหตุผลและไม่มีเหตุผล ไม่ว่าจะฝั่งโอตะหรือแอนตี้ ทั้งหมดมันก็คือสังคมๆหนึ่งอ่ะครับ พูดในมุมของคนที่ดำรงตนว่าเป็นแค่คนนอก อยากให้ใจเย็นๆ และรับฟังสิ่งที่คนนอกพูดเข้ามาด้วยเหตุผล ย้ำว่าเหตุผลนะครับ ไม่ใช่คำด่ากราด ทุก ๆ เคสที่เกิดขึ้น หลายครั้งแล้วก็ไฟลามทุ่งเพราะความหัวร้อนของโอตะอ่ะครับ
คือนึกออกไหม มองในมุมคนนอกนะ ถ้าผมไม่ได้สนใจธุรกิจตัวนี้ ถามว่าผมต้องมารับรู้ด้วยเหรอว่าระบบวงเป็นยังไง ผมต้องเข้าใจด้วยเหรอว่าทำไมคนเสียงดีถึงไม่ได้ร้องเพลง คนเสียงไม่ดีเท่าได้ร้องเพลง และถ้าไม่ใช่นักร้องออกเพลง ออกเทป ออกแผ่นมาขายทำไม นึกออกไหมครับ มุมโอตะอาจจะมองว่า เห้ย เป็นไอดอล ไม่ใช่นักร้อง แต่ถามว่าสินค้าหลักที่ขายคือการบริการร้องเพลงไม่ใช่เหรอครับ?
หลายคนรับฟัง นั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดี น้องๆหลายคนในวงก็ต้องปรับตัว ต้องพัฒนากันต่อไป ไม่อยากให้แค่ใช้คำว่าไอดอลเลยไม่จำเป็นต้องร้องเพลงเพราะมากลบสิ่งที่ต้องพัฒนา เพราะนั้นแปลว่าคุณกำลังย้อนแย้งในสิ่งที่เด็ก ๆ ทำอย่างถึงที่สุด ปากบอกว่าขายความพยายาม แต่ไม่พยายามปรับปรุง มันจะขายอะไรได้อีกอ่ะครับ (อ่อ ไม่ต้องพูดถึงรูปลักษณ์นะครับ ก็รู้ ๆ กันอยู่แล้วนิ)
ผมไม่ได้หมายความว่าต้องยอมรับทุกสิ่งที่คนนอกแสดงความคิดเห็น แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดตั้งว่าเอาโลกทั้งใบของตัวเองมาเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจ เวลาภาพที่มันออกไป มันออกมารวมครับ และก็อย่างที่ผมย้ำเสมอ ทุกสังคมมีทั้งคนที่มีเหตุผลและไม่มีเหตุผล ไม่มีสังคมไหนที่ขาวหรอดำ มันก็สีเทา ๆ ปะปนกันไปทุกภาคส่วนนั่นแหละครับ และนั้นคือสาเหตุที่ผมอยากคุยกับโอตะ
ลองใจเย็นและปลดล็อกอคติจากความชอบในตัวน้อง ๆ พิจารณาข้อคิดเห็น เหตุผล และความเป็นจริง เวลาที่มีโอตะจากด้อมไหนสักด้อมทำไม่ดี ไม่ได้แปลว่าเขาเป็นขาปั่นนะครับ ก็อยากให้ยอมรับบ้างว่าในด้อมก็มีคนแบบนั้นจริง ๆ แค่ยอมรับ และบอกไปตามตรงว่าคนดี ๆ ก็มี คนไม่ดีก็มี มันแค่นั้นเองอ่ะครับ ไม่จำเป็นยึดติดว่าคนไม่ดี = นอกด้อมแน่ ๆ
สถานการณ์อะไรหลายๆอย่างคงจะดีขึ้นมากกว่านี้ถ้ามีสติ ใจเย็น รับฟังกันและกันมากกว่านี้
ก็ไม่มีอะไรจะบ่นแล้วครับ ยาวมาก เอาเป็นว่าผมก็ขอเขียนถึงไว้แต่เพียงเท่านี้ละกัน ผมไม่รู้ว่าเทรนด์ธุรกิจนี้จะไปได้ไกลมากขนาดไหน แต่ในส่วนของปี 2018 ที่ผ่านมา 48 ขับเคลื่อนให้วงการเพลงกลับมาคึกคักในหลายภาคส่วนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ไม่ว่ากระแสจะไปได้ถึงขนาดไหน ครั้งหนึ่งมันก็เคยเป็นธุรกิจที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับผม
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบครับ.