Valerian and the City of a Thousand Planets (2017)..หนังฟอร์มยักษ์ของผู้กำกับมากฝีมือ Luc Besson เฉพาะงบสร้างได้ข่าวว่าระดับ 200 ล้านเหรียญ และเมื่อออกฉายในปี 2017 ก็ถือได้ว่าเป็นหนังคว่ำมโหฬารของปี ในอเมริกาหนังเก็บรายได้ไปเพียงแค่ 40 กว่าล้านเหรียญ รายได้ทั้งโลกเก็บไปเพียงแค่ สองร้อยกว่าล้านเหรียญเท่านั้น
พอดูจากรายได้ก็น่าเป็นกังวลอย่างยิ่งว่าจะลองดูสักครั้งดีรึเปล่า กลัวจะอารมณ์เสียกับเวลา 2 ชั่วโมงของหนัง
จนพอเวลาผ่านไปสักชั่วเวลานึง เสียงตอบรับจากคนที่เคยดูกลับบอกว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นนะ
รอจนแผ่นลดราคาเลยได้ลองมีโอกาสหยิบกลับบ้านมานั่งดู สิ่งที่พบคือ หนังไม่ได้มีตรงไหนแย่ หรือห่วยจนรับไม่ได้ CG นี่เรียกได้ว่าระดับเทพจริงๆ ภายสวยสุดๆ จินตนาการของผู้กำกับระดับ Luc Besson ยังบรรเจิด เผลอๆอาจจะดูมีมิติกว่า The Fifth Element เมื่อปี 1997 ด้วยซ้ำ
ตัวหนัง เหตุและผลในบทก็โอเค กล้อมแกล้มพอรับได้, ดาราที่เลือกมาก็เตรียมไว้เจาะได้ทั้งกลุ่มวัยรุ่น และรุ่นวัยกลางคน
แล้วทำไม ทำไมหนังถึงไม่ได้รับการตอบรับในวงกว้าง อันนี้จากความเห็นส่วนตัวเลย ว่าถ้าหนังออกฉายเร็วกว่านี้สัก 12-13 ปีรับรองว่าฮิตระเบิดระเบ้อ
คิดว่า "รสนิยม" รสนิยมที่เปลี่ยนไปจากเมื่อ 20 ปีที่แล้วสำหรับผู้ชมในกลุ่ม blockbuster popcorn หรือว่ากันง่ายๆคือผู้ชมในกลุม ที่ชื่นชอบ CG อลัง ระเบิดผู้เขาเผากระท่อม เปลี่ยนไปดูง่ายๆก็หนังตระกูล transformer รายได้ในภาคหลังๆก็ต่ำเตี้ยเริ่ยดินไปเรื่อยๆ รวมทั้งรายได้ในตลาดโลกด้วย
ผู้กำกับ อาจจะคนเดิม ฝีมืออาจจะเพิ่มขึ้นตามประสบกราณ์ แต่สิ่งที่ต้องยอมรับว่าผู้บริโภคก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ ทุกอย่างในโลกวิ่งเร็วและเปลี่ยนไวตลอด ผู้อยู่รอดคือคนที่ศึกษามันและเข้าใจอย่างถ่องแท้
https://www.facebook.com/lonelymoviewatcher/?__xts__%5B0%5D=68.ARDk4y2qd9S-DdPy2ct2Tg5Tm34XLz9mqe0DRHVpvapsSZN-qX2XQaRtLC5wObQcx3KFUP_vz_9By9FtBaSPkRDyMNpLatx3wtyiceFWKBqINmnMxBG4CtYXBM-C4EryQ3oUXNedXlYvw8tSiMsHtq0aTUIdQdo-AutJ3Pw2pJH9humeJWX9jAQpTPbecUvW8Te2-npolaLtYdFjSh1kPU1-RiAdCUuI4qOsLZyMcHsOR0z55m-egF1VQ5rJMIdkD9OAbxn9cKI7QjulajSLtdep_XRmXnxHSn6Y1mc_eDt-Ih4K29DloKv1Or3nvmxFRySE9PTvwEhMsu4qtzi2BtYNXdrb&__tn__=k%2AF&tn-str=k%2AF
Valerian..ฉันหรือเธอที่เปลี่ยนไป
Valerian and the City of a Thousand Planets (2017)..หนังฟอร์มยักษ์ของผู้กำกับมากฝีมือ Luc Besson เฉพาะงบสร้างได้ข่าวว่าระดับ 200 ล้านเหรียญ และเมื่อออกฉายในปี 2017 ก็ถือได้ว่าเป็นหนังคว่ำมโหฬารของปี ในอเมริกาหนังเก็บรายได้ไปเพียงแค่ 40 กว่าล้านเหรียญ รายได้ทั้งโลกเก็บไปเพียงแค่ สองร้อยกว่าล้านเหรียญเท่านั้น
พอดูจากรายได้ก็น่าเป็นกังวลอย่างยิ่งว่าจะลองดูสักครั้งดีรึเปล่า กลัวจะอารมณ์เสียกับเวลา 2 ชั่วโมงของหนัง
จนพอเวลาผ่านไปสักชั่วเวลานึง เสียงตอบรับจากคนที่เคยดูกลับบอกว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นนะ
รอจนแผ่นลดราคาเลยได้ลองมีโอกาสหยิบกลับบ้านมานั่งดู สิ่งที่พบคือ หนังไม่ได้มีตรงไหนแย่ หรือห่วยจนรับไม่ได้ CG นี่เรียกได้ว่าระดับเทพจริงๆ ภายสวยสุดๆ จินตนาการของผู้กำกับระดับ Luc Besson ยังบรรเจิด เผลอๆอาจจะดูมีมิติกว่า The Fifth Element เมื่อปี 1997 ด้วยซ้ำ
ตัวหนัง เหตุและผลในบทก็โอเค กล้อมแกล้มพอรับได้, ดาราที่เลือกมาก็เตรียมไว้เจาะได้ทั้งกลุ่มวัยรุ่น และรุ่นวัยกลางคน
แล้วทำไม ทำไมหนังถึงไม่ได้รับการตอบรับในวงกว้าง อันนี้จากความเห็นส่วนตัวเลย ว่าถ้าหนังออกฉายเร็วกว่านี้สัก 12-13 ปีรับรองว่าฮิตระเบิดระเบ้อ
คิดว่า "รสนิยม" รสนิยมที่เปลี่ยนไปจากเมื่อ 20 ปีที่แล้วสำหรับผู้ชมในกลุ่ม blockbuster popcorn หรือว่ากันง่ายๆคือผู้ชมในกลุม ที่ชื่นชอบ CG อลัง ระเบิดผู้เขาเผากระท่อม เปลี่ยนไปดูง่ายๆก็หนังตระกูล transformer รายได้ในภาคหลังๆก็ต่ำเตี้ยเริ่ยดินไปเรื่อยๆ รวมทั้งรายได้ในตลาดโลกด้วย
ผู้กำกับ อาจจะคนเดิม ฝีมืออาจจะเพิ่มขึ้นตามประสบกราณ์ แต่สิ่งที่ต้องยอมรับว่าผู้บริโภคก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ ทุกอย่างในโลกวิ่งเร็วและเปลี่ยนไวตลอด ผู้อยู่รอดคือคนที่ศึกษามันและเข้าใจอย่างถ่องแท้
https://www.facebook.com/lonelymoviewatcher/?__xts__%5B0%5D=68.ARDk4y2qd9S-DdPy2ct2Tg5Tm34XLz9mqe0DRHVpvapsSZN-qX2XQaRtLC5wObQcx3KFUP_vz_9By9FtBaSPkRDyMNpLatx3wtyiceFWKBqINmnMxBG4CtYXBM-C4EryQ3oUXNedXlYvw8tSiMsHtq0aTUIdQdo-AutJ3Pw2pJH9humeJWX9jAQpTPbecUvW8Te2-npolaLtYdFjSh1kPU1-RiAdCUuI4qOsLZyMcHsOR0z55m-egF1VQ5rJMIdkD9OAbxn9cKI7QjulajSLtdep_XRmXnxHSn6Y1mc_eDt-Ih4K29DloKv1Or3nvmxFRySE9PTvwEhMsu4qtzi2BtYNXdrb&__tn__=k%2AF&tn-str=k%2AF