๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ เมื่อเช้าเกือบจะต้องขึ้นโรงพักเพราะความประมาทในการขับขี่

ต้องเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอโดยไม่คาดคิด

บางทีเราก็เป็นคนประมาท   บางทีคนอื่นก็เป็นคนประมาท

ถ้าฝ่ายหนึ่งไม่ประมาท  ถึงอีกฝ่ายประมาท  ก็อาจจะหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุร้ายแรงได้


มั่นใจว่า  เมื่อเช้าตัวเองไม่ได้ประมาท  ทำตามสัญญาณไฟจราจรทุกอย่าง
เพียงแต่ได้เพิ่มความเร็วของรถอีกนิด  
เพื่อให้รถทันไฟเขียว และทันก่อนรถจำนวนมากที่เตรียมจะเลี้ยวขวา
จากถนนลาดหญ้า   ไปทางถนนเจริญนคร ไอคอนสยาม  


ภาพตัดแปะจากกล้องหน้ารถที่ขับ  (ตัดต่อคลิ๊บไม่เป็น และเผลอพูดคำหยาบออกไปเพราะความโมโห)



  

ภาพที่ 1  ไม่ทันสังเกตว่ามีจักรยานขี่มาทางมุมขวา เพราะสายตามัวแต่จ้องที่สัญญาณไฟเขียว




ภาพที่  2   ไม่แน่ใจว่าคนขี่จักรยานมัวแต่มองทางตรงหรือเปล่า ?
เลยขี่จักรยานพรวดออกมา โดยไม่ได้สังเกตุว่ามีรถมาจากทางซ้ายมือกำลังจะวิ่งผ่านสัญญาณไฟเขียว



ภาพที่ 3  ตกใจแต่ยังมีสติ  เหยียบเบรคจนจมมิด  เสียงเบรคดังเอี๊ยดๆๆๆๆๆๆๆๆ  หน้ารถอยู่ห่างจากจักรยานประมาณ 1 ฟุต อมยิ้ม06


ถ้าเหยียบมาเร็วๆกว่านี้  เพราะกลัวรถทางเลี้ยวจำนวนมาก จะชิงเลี้ยวตัดหน้าไปก่อน ซึ่งบางทีต้องรออีกหนึ่งสัญญาณไฟเขียว
ไม่แน่ใจว่า  คนขี่จักรยานจะไปนอนโรงพยาบาลตากสินที่อยู่ด้านหลัง   หรือไปนอนวัด อมยิ้ม06
คนขี่จักรยานขี่ผ่านไปแล้ว  ได้แต่เอียงตัวมายกมือขอโทษ  
ส่วนผมก็ไม่มีเวลาต่อว่าอะไร เพราะมีรถรอเลี้ยวขวากันเยอะมาก



คิดถึงการใช้ชีวิต  
ต่อให้เราไม่ประมาท  เราก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ทำได้ดีที่สุดคือ  

มีสติ และไม่ประมาทเท่าที่จะทำได้  
ต่อจากนั้นก็คงได้แต่บอกตัวเองว่า

อะไรจะเกิด  มันก็ต้องเกิด

ถ้าเราซื้อขายหุ้นแบบมีสติ และเชื่อว่าไม่ได้ประมาทแล้ว
ก็เหมือนกัน   อะไรจะเกิด  มันก็ต้องเกิด  
ทำใจไว้ล่วงหน้าบ้างก็จะดีต่อสุขภาพจิตตัวเองครับ อมยิ้ม01
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่