TJ Journey (EP.1) - ประสบการณ์ 2 วัน 1 คืน ไหว้พระ 9 วัด แบบคนกรุงเทพฯที่ไม่เคยเที่ยวกรุงเทพฯ!!!

อืมมมม ก็ต้องเปิดกระทู้เหมือนทุกๆท่านด้วยการ "สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่าน" แม้ว่าท่านจะหลงเข้ามาอ่านก็ตาม ฮ่าๆๆ กระทู้นี้ก็เป็นการขับกล่อมจากต่อมของคนมีปมไม่ค่อยได้เที่ยวอย่างผม และต่อมความน้อยใจของคุณผู้หญิงที่คิดเสมอว่าแฟน(อย่างผม)ไม่มีวันพาเธอไปเที่ยว กระทู้นี้จึงเริ่มต้นขึ้น ...

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณแรงบันดาลใจดังต่อไปนี้..
ขอบคุณคุณผู้หญิงที่เรียกร้อง ขู่ บังคับ ถามหาสปิริตจากผู้ชายเวลาน้อยอย่างผม ขอบคุณพี่ที่ทำงานท่านหนึ่งที่แชร์เรื่องราวจาก A Day เรื่อง "กาชาปองอับเฉา" ทำให้ผมอยากไปเห็นของจริง ขอบคุณทุกๆการเดินทางของหลายกระทู้ที่ทำให้ผมอยากนำเสนอเรื่องราวของผมบ้าง และขอบคุณตัวเองที่อยากเอาชนะเรื่องเล็กๆน้อยๆในใจบางอย่าง เอาละ เริ่มซะที!

ผมตัดสินใจใช้วันเสาร์-อาทิตย์เป็นนิมิตหมายอันดีในการเที่ยวกรุงเทพแบบงงๆ ความเดิมคือคุณผู้หญิงได้ Tag การไหว้พระ 9 วัดมาใน facebook อีกทั้งนางอยากไปหาอะไรกินตามที่คนเค้าไปกินกันร้านดังร้านเด็ดย่านเยาวราช (หลักๆเลยคือ ปาท่องโก๋ย่างหน้าหูฉลามสกาล่า) เลยเป็นเหตุให้ผมตัดสินใจออกเดินทาง ซึ่งความจริงผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะเล่าเรื่องราวเล็กๆนี้ให้เป็นกระทู้ Pantip จนภาพถ่ายมันเริ่มเยอะขึ้น และผมเห็นบางมุมที่ผมเองก็เพิ่งรู้ว่ามี เลยอยากนำมาแบ่งปันให้คุณผู้อ่านได้รับชม ช่วงแรกภาพอาจจะน้อยไปต้องขออภัยด้วยครับ

ผมได้แบ่งการเดินทางออกเป็น 2 วัน วันแรกจะไปกัน 3 วัดและจบที่ดินเนอร์ในเยาวราช ด้วยรถสาธารณะ และวันที่สองจะไปกัน 6 วัด ด้วยมอเตอร์ไซค์ของผม ขออนุญาตพาคุณผู้อ่านร่วมไหว้พระ 9 วัดไปด้วยกัน ณ บัดนี้ ผ่ามมมมม!


วันแรก
MRT ลาดพร้าว - MRT หัวลำโพง - วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร - วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร - วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร - เยาวราช


เริ่มต้นวันแรกก็บ่ายซะแล้ว ผมพาคุณผู้หญิงไปซื้อหมวกกันน็อคเสียก่อนเพื่อความปลอดภัย ปลอดภัยทั้งตัวเธอเอง และปลอดภัยที่กระเป๋าเงินผมด้วยหากเจอด่าน


เราเดินทางกันจาก MRT ลาดพร้าว มาลงที่ MRT หัวลำโพง ค่าโดยสารคนละ 42 บาท ถึงแล้ว "หัวลำโพง"


ยังไม่ทันได้ไหว้พระก็เล่นการพนันซะแล้ว คุณผู้หญิงคำนวณตัวเลขอย่างไว จัดไป รวย! รวย! รวย!


และแล้วก็มาถึงแล้วนะครับ วัดแรกที่เรามากันคือ "วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร" (1) มาถึงก็ปรี่เข้าไปกราบ "พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร" ทันที ด้านนอกแดดร้อนมาก และตอนที่มาถึงก็มีทัวร์หลายกลุ่มลงด้วย เลยรีบๆจนไม่มีภาพมาประกอบเพิ่มเติมนะครับ ต้องขออภัยคุณผู้อ่าน


มาต่อกันที่ "วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร" (2) เช่นเดิมเราปรี่เข้าไปกราบพระประธาน


เพื่อยืนยันการมาถึงของเรา ด้านหน้าจะเป็นทางเข้าวัด เจอเจ้าถิ่นเรียกร้องความสนใจ ผมเองไม่เคยมาที่นี่ทั้งๆที่เกิดและโตที่กรุงเทพฯ มาครั้งแรกเริ่มประหลาดใจ โอ้โหเค้าสร้างอะไรกันใหญ่โตดูสวยงาม และคิดในใจว่าคงจะพัฒนามาเยอะแล้ว เพราะดูจากวัสดุอุปกรณ์ต่างๆดูมีราคาและผ่านการออกแบบให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม


ทางขึ้นชม "ภูเขาทอง" คนไทยเข้าฟรี ต่างชาติมีค่าผ่านนิดหน่อย แดดก็แรงดีเหลือเกิน แต่โดยรวมๆก็ร่มรื่น ถ้าไม่ออกแดดก็ไม่รู้สึกร้อน ตลอดทางเดินขึ้นจะมีการตกแต่งด้วยรูปปั้น หุ่นอับเฉา น้ำตก บันไดทางขึ้นเป็นบันไดวนไม่ชัน ดูสะอาดตา มีร้านกาแฟด้านบนให้พักดื่มกาแฟได้ ผมคิดว่าไหนๆมากราบพระแล้วก็เดินขึ้นไปดูซักหน่อยว่ามีอะไรด้านบน


เดินขึ้นไปได้ครึ่งทาง อยู่ๆคุณผู้หญิงก็เดินปรี่เข้าไปคว้าไม้กวาดมากวาดพื้น ผมก็งงว่าเกิดจะรักความสะอาดอะไรขึ้น? ผมเหลือบไปเห็นป้ายติดข้างฝา ข้อความประมาณว่า "อยากสวย อยากสง่า ต้องหมั่นกวาดพื้นให้วัด" อาจไม่ถูกต้องตามประโยคที่เขียนไว้ต้องขออภัย นางก็ขมีขมันกวาดจนผมเองต้องเดินเอาที่โกยมารองรับให้ คนเค้าอยากสวยก็สนับสนุนเค้าหน่อยเนอะ


เมื่อเดินขึ้นไปจุดถึงด้านบน (เกือบสุด) ก็จะพบกับวิวประมาณนี้


หลังจากเสพวิวด้านบนภูเขาทอง ผมกำลังจะเดินลง คุณผู้หญิงก็บอกกับผมว่า "เธอ เราเห็นมีทางขึ้นไปสวรรค์" เลยเดินไปดูก็เจอบันไดเล็กๆนี้ ซึ่งหากจะเดินต้องระวังศีรษะนิดนึงนะครับ เพราะแคบและช่องไม่สูง คนตัวสูงต้องก้มกันหน่อย


และก็ขึ้นมาถึงด้านบนสุด จะพบกับ "พระบรมบรรพต" เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งหนึ่ง ด้านบนปูพื้นสีเขียวสบายตา มีนักท่องเที่ยวมากมายเดินชมวิวจากจุดนี้


ขาลงก็ต้องระวังนะครับ ก็ค่อยๆเดินจากด้านบนสุดลงมา เดินบันไดทางลงทอดยาวและโค้งลงไปสู่ด้านล่าง เราก็จะพบกับฆ้องยักษ์ เสียงทุ้มๆ แอบเห็นต่างชาติชอบมาก ยืนต่อคิวตีฆ้องกัน ผมก็ยิ้มให้แล้วก็เดินผ่านออกมา


เราเลือกเดินเท้ามาเรื่อยๆ จนมาถึงเสาชิงช้า แอบแปลกใจตัวเองที่พอเห็นเสาชิงช้ากลับนึกถึง มาร์ค มาเกวซ ที่เพิ่งมาถ่ายวิดิโอโปรโมตการแข่งขัน MOTOGP ซะอย่างนั้น (แค้นใจที่ไม่ได้เจอตัวจริง) แล้วเราก็มาถึง "วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร" (3) แดดเริ่มบางลงนิดหน่อย หายใจกันหอบในผ้าปิดจมูก คุณผู้หญิงก็ไม่รอช้าอุดหนุนพวงมาลัย SME จากคุณยายหน้าวัด เอาละ เข้าไปด้านในกัน!


ด้านในวัดเงียบสงบมาก ตัวพระวิหารอยู่ในระหว่างซ่อมแซมบูรณะ คุณผู้หญิงเล่าว่าปกตินางจะมาสวดมนต์กับคุณแม่ที่นี่บ่อยๆ


ภาพถ่ายจากโดรน สวยมากๆ


เดินเลยออกมาจนมาพบกับพระอุโบสถ เก็บภาพหุ่นอับเฉา และได้เจอพี่หมาดำนั่งอยู่ตรงบันไดพระอุโบสถ ผมก็ได้พูดคุยกับพี่หมาดำนิดหน่อยเนื่องจากที่บ้านมีหมาเด็กน้อยเลยพอคุยกันรู้เรื่อง


ด้านในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของ "พระพุทธตรีโลกเชษฐ์" ซึ่งการมาครั้งนี้น่าเสียดายเพราะอยู่ระหว่างการบูรณะซ่อมแซม แต่ก็ไม่เสียหลาย ก้มกราบองค์พระด้วยความนอบน้อมใจ ผมชอบเสียงสวดมนต์ที่วัดเปิดเบาๆคลอบรรยากาศ เป็นบทสวดไตรสรณคมน์ "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ" (ชาวพุทธที่สวดมนต์แบบแปลความหมายจะทราบ ผมคนนึงที่อิ่มเอมใจกับบทนี้) เปิดวนเป็น loop ในบรรยากาศสงบสบาย ผมกับคุณผู้หญิงจึงมีโอกาสได้นั่งสมาธิกันสักครู่เล็กๆ รู้สึกเบิกบานดีแท้



เดินทางกันต่อ ช่วงเวลาที่คุณผู้หญิงรอคอยมาถึงแล้ว "กิน!" ไปไหนก็ได้ขอให้ได้กินๆๆๆๆ และกิน! เราออกเดินทางไปเยาวราชกันด้วยรถตุ๊กๆ ผมลืมเล่าว่าค่าโดยสารรถตุ๊กๆตลอดทริปนี้ ราคาประมาณ 60-100 บาท ไม่เกินนี้นะครับ (ถ้าเกินกว่านี้คือแพงแล้วครับ) จากเสาชิงช้าไปเยาวราช 60 บาท ในระหว่างที่หิวกันสุดๆก็ดันต้องมาจอดต่อท้ายรถไก่ปิ้ง มันช่างทรมานคนหิวดีแท้ // ผมสะกิดคุณผู้หญิงดูสติ๊กเกอร์ติดรถ นางบอกว่า "กฏนี้ห้ามเราไม่ได้หรอก" โอเคครับรับทราบ Roger that!


ถึงแล้ววววว! เยาวราชชชชช ถนนมังกร รถติดเป็นเกล็ดมังกรกันเลยทีเดียว รออะไรละครับออกตามหาร้านที่ตั้งใจไว้กัน โดยทริปนี้ก็ได้วางแผนเรื่องกินไว้ว่าจะมาเก็บร้านดังร้านไหนบ้าง เป้าหมายของเราเริ่มที่ เยาวราช ซอย 6 แต่...


ผมเองตาไม่ค่อยดี มองไกลๆก็สงสัยว่าลุงแกอุ้มน้องหมาพันธุ์อะไรมาฟะ? พอไหล่จะเฉียดกันเท่าไหร่แหละ แม่เจ้านี่มันเต่าหรือตะพาบครับเนี่ย!! (ขออนุญาตโพสต์ภาพคุณลุงกับน้องสัตว์เลี้ยงด้วยนะครับ) เดินผ่านคุณลุงไปเราก็พบกุ้งน่ากินมาก ผู้คนมากมายทั้งไทยทั้งเทศ แต่ร้านที่เราตั้งใจมากินยังตั้งร้านไม่เสร็จซักที นาทีนี้หิวมากแล้ว เลยจัดข้าวแกงกะหรี่ไปก่อนแล้วกัน!


ฟาดข้าวแกงกะหรี่ซะเรียบ เดินข้ามถนนไปดูร้านที่รอคอย ยัง! ยังตั้งร้านไม่เสร็จ! โอเคไม่รอแล้ว หิวมาก! ข้ามกลับมาจัดเส้นหมี่ผัดกะเฉดกับก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ร้านป้าเตี้ย อิ่มจนตัวจะแตกก็ยังต้องไปแหลกขนมกันต่อ จัดไปที่รัก! คุณผู้หญิงสั่งรังนกมา ราคาหน้าร้าน 100 บาทไทย ส่วนผมสำรองค่ารถไว้ เลยสั่งเฉาก๊วยแคนตาลูปนมสดพอชุ่มคอ ระหว่างนั่งกินกันก็จะเห็นบรรยากาศผู้คนเดินถ่ายรายการของตัวเองกันหลายช่อง บ้างก็มาถ่ายภาพแฟชั่นตรุษจีน หลากหลายอารมณ์ทีเดียว


ความจริงเหตุผลที่มาเยาวราชมันเริ่มจากคุณผู้หญิงอยากกินปาท่องโก๋ย่าง ผมเดินหาร้านปาท่องโก๋ย่างไม่เจอ ผมเห็นร้านปาท่องโก๋ร้านนี้ก็ไม่เห็นมีเตาย่าง แต่ได้ดูภาพหน้าร้านและอ่านประวัติคร่าวๆก็ ว้าว! เจ้าดังเก่าแก่ และคิวต่อก็ยาวมากกกกเลยให้นางไปต่อคิว ลังเลไปมา อ่าว! ถึงคิวละ จัดมาชุดเล็กสังขยา 40 บาท อร่อย! แล้วผมก็เหลือบไปเห็นปาท่องโก๋ย่างที่ตามหา ซึ่งร้านอยู่ติดกันแต่คือมืดเงียบเหงา อ่าว.. ไว้รอบหน้าจะไปอุดหนุนนะครับ

เดี๋ยวผมมาเล่าวันที่สองต่อนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่