คือเมื่อตอนเดือนธันวาคม 2561 ผมได้ทำการจองบ้านที่โครงการนึง โดยได้ทำการคุยกับพนักงานขายและตกลงราคาบ้านเบื้องต้นเพื่อลองยื่นดูผล Pre - Approve ก่อนทำการเซ็นจองบ้านที่ราคา 2.49 ล้านบาท กับธนาคาร ผลที่ได้คือ Pre - Approve ผ่านที่วงเงิน
.
2.49 ล้านบาท
.
และได้เพิ่มอีก 10% จากราคาบ้านสำหรับการตกแต่งเพิ่ม
ผมเองพอเห็นผล Pre-Approve ผ่านจึงได้ทำการเซ็นจองกับ พนง.ขาย โดยได้ตกลงกันว่าผมจะไม่เอาของแถมที่ได้จากทางโครงการเพราะมองว่าไม่จำเป็นคือเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วที่นี้ราคาบ้านจึงลดลงเหลือราคา
.
2.39 ล้านบาท
.
แล้ว พนง.ขาย ก็บอกเพิ่มว่าถ้าราคานี้จะไม่ได้ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ และ คชจ. วันโอนกรรมสิทธิ์ ผมจึงได้คุยกับ พนง.ขาย ว่าผมยังอยากได้ฟรีในส่วนนี้จึงสรุปและตกลงราคากันที่
.
2.415 ล้านบาท
.
ซึ่งหมายความว่าทางโครงการได้ทำการเพิ่ม ส่วนดังกล่าวเข้ามาในราคาบ้านแล้ว คือประมาณ 25,000 บาท
หลังจากนั้นผมได้ทำการเซ็นสัญญากับโครงการเพื่อที่โครงการจะได้ทำการยื่นขอสินเชื่อบ้าน ระยะเวลาผ่านไปได้สักประมาณสองอาทิตย์ผลปรากฏว่า
ธนาคารได้แจ้งว่าได้ประเมินราคาบ้านแล้วนั่นและสามารถปล่อยสินเชื่อบ้านอยู่ที่ราคา
.
2.39 ล้านบาท
.
ซึ่งในสัญญาที่ผมได้เซ็นไปแล้ว...ราคาบ้านจะอยู่ที่ 2.415 ล้านบาท ธนาคารจึงแจ้งว่าให้ผมสำรองจ่าย เงินจำนวน 25,000 บาท ให้กับโครงการไปก่อนเท่ากับหมายความว่าให้ผมดึงเงินส่วนต่างที่ได้จากการกู้เกินอีก 10% มาจ่ายค่าบ้าน...
.
.
.
ผมจึงรบกวนสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้ครับ
1. เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยไหมหรือว่าการพิจารณาสินเชื่อบ้านต้องคิดมากกว่าการ Pre - Approve
2. ถ้าเป็นเช่นนี้ผมควร deal ราคาบ้านที่ 2.39 ล้านบาท ดีกว่าไหม
สอบถามวงเงินสินเชื่อบ้านอนุมัติจริงไม่ได้ราคาตามผล Pre - Approve เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยไหม ?
.
2.49 ล้านบาท
.
และได้เพิ่มอีก 10% จากราคาบ้านสำหรับการตกแต่งเพิ่ม
ผมเองพอเห็นผล Pre-Approve ผ่านจึงได้ทำการเซ็นจองกับ พนง.ขาย โดยได้ตกลงกันว่าผมจะไม่เอาของแถมที่ได้จากทางโครงการเพราะมองว่าไม่จำเป็นคือเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วที่นี้ราคาบ้านจึงลดลงเหลือราคา
.
2.39 ล้านบาท
.
แล้ว พนง.ขาย ก็บอกเพิ่มว่าถ้าราคานี้จะไม่ได้ฟรีค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ และ คชจ. วันโอนกรรมสิทธิ์ ผมจึงได้คุยกับ พนง.ขาย ว่าผมยังอยากได้ฟรีในส่วนนี้จึงสรุปและตกลงราคากันที่
.
2.415 ล้านบาท
.
ซึ่งหมายความว่าทางโครงการได้ทำการเพิ่ม ส่วนดังกล่าวเข้ามาในราคาบ้านแล้ว คือประมาณ 25,000 บาท
หลังจากนั้นผมได้ทำการเซ็นสัญญากับโครงการเพื่อที่โครงการจะได้ทำการยื่นขอสินเชื่อบ้าน ระยะเวลาผ่านไปได้สักประมาณสองอาทิตย์ผลปรากฏว่า
ธนาคารได้แจ้งว่าได้ประเมินราคาบ้านแล้วนั่นและสามารถปล่อยสินเชื่อบ้านอยู่ที่ราคา
.
2.39 ล้านบาท
.
ซึ่งในสัญญาที่ผมได้เซ็นไปแล้ว...ราคาบ้านจะอยู่ที่ 2.415 ล้านบาท ธนาคารจึงแจ้งว่าให้ผมสำรองจ่าย เงินจำนวน 25,000 บาท ให้กับโครงการไปก่อนเท่ากับหมายความว่าให้ผมดึงเงินส่วนต่างที่ได้จากการกู้เกินอีก 10% มาจ่ายค่าบ้าน...
.
.
.
ผมจึงรบกวนสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้ครับ
1. เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยไหมหรือว่าการพิจารณาสินเชื่อบ้านต้องคิดมากกว่าการ Pre - Approve
2. ถ้าเป็นเช่นนี้ผมควร deal ราคาบ้านที่ 2.39 ล้านบาท ดีกว่าไหม