เป็นกระแสที่กำลังพูดถึงกันในขณะนี้สำหรับรายการใหม่ที่จะออกอากาศทางช่อง 3 HD นั่นคือ
"Divided คนไม่ยอมเกม" ที่ได้ให้คุณ "ดู๋ - สัญญา คุณากร" เป็นพิธีกรครั้งแรกกับรายการทีวีของช่องนี้
ที่มา (YouTube User): MEMITI ROOM
รายการนี้เป็นเกมโชว์แนวควิซโชว์ที่มีจุดมุ่งหมายหลักของเกมก็คือ
"แข่งขันตอบคำถามที่จะต้องช่วยกันคิดและค้นหาคำตอบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน เพื่อเก็บสะสมเงินรางวัลให้มากที่สุด" โดยจะต้องอาศัยและวัด "ความรู้, "ความสามัคคี", "ความเท่าเทียม", "ความเห็นต่าง", "การต่อรอง", "การปรองดอง", "การเชื่อใจ & ไว้ใจ", "อารมณ์", "กิเลส", "ผลประโยชน์", "ความเห็นแก่ตัว" และ "ความเป็นมนุษย์" ในการพิชิตเกมให้ลุล่วง
ควิซโชว์นี้จริง ๆ แล้วมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นเวอร์ชันแรก (ออกอากาศเมื่อกลางปี 2008) หลังจากนั้นก็มีความนิยมที่แพร่หลายโดยที่ประเทศต่าง ๆ ได้ซื้อลิขสิทธิ์รูปแบบรายการไปทำในเวอร์ชันของตัวเอง (เจ้าของลิขสิทธิ์รายการนี้ก็คือ
Talpa Media Group ผู้ผลิต
"The Voice" ส่วนในเวอร์ชันไทยได้ให้ทางบริษัท
"มีมิติ" ผู้ผลิต
"ศึกวันดวลเพลง" และ
"Hollywood Game Night Thailand" เป็นผู้ผลิตรายการนี้) จนในปัจจุบัน ทั่วโลกมีประเทศที่ซื้อลิขสิทธิ์รายการนี้ไปทำในเวอร์ชันของตัวเองไปแล้วมากกว่า 10 ประเทศ
คลิปรายการในเวอร์ชันต่างประเทศ (อยู่ใน Spoil)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เนเธอร์แลนด์ ver.
ที่มา (YouTube User): SBS6
UK ver.
ที่มา (YouTube User): UzumakiPlayroom
USA ver.
ที่มา (YouTube User): KFI AM 640
เกาหลีใต้ ver.
ที่มา (YouTube User): worldminju
อาหรับ ver.
ที่มา (YouTube User): fadi al hallak
ยูเครน ver.
ที่มา (YouTube User): SmirnovJakov
อินเดีย ver.
ที่มา (YouTube User): Vijay Television
สโลวีเนีย ver.
ที่มา (YouTube User): ugolub
ซึ่งกระแสความนิยมไปทั่วโลกและกล่าวถึงกันในคนหมู่มากมันเริ่มจากเวอร์ชัน UK กับ USA (ของไทยอิงรูปแบบรายการและงานโปรดักชันเกือบทั้งหมดจาก USA จากที่เห็นในคลิปตัวอย่างรายการเวอร์ชันไทย) ด้วยรูปแบบรายการที่กดดัน บีบคั้นสุด ๆ และมีกระแสไปในทาง Social Experiment เป็นส่วนมาก ซึ่งในรายการจะมีรูปแบบและกติกาหลัก ๆ ที่มีอยู่ในรายการทุก ๆ เวอร์ชันนั่นก็คือ
**ส่วนย่อยอื่น ๆ ของกติกาในรายการนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละเวอร์ชัน**
- แรกเริ่มคนเล่นจะมี 3 คน (บางเวอร์ชันจะเป็น 4 คน)
- แข่งขันตอบคำถามโดยจะต้องปรึกษาและตกลงกันกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ เพื่อให้ทุกคนลงคำตอบเป็นเสียงเดียวกันทุก ๆ คน โดยมีเงินรางวัลที่ตั้งไว้ในแต่ละข้อ ซึ่งเงินรางวัลที่ตั้งไว้จะทำหน้าที่เป็นนาฬิกาจับเวลาด้วย นั่นคือเงินรางวัลจะลดลงไปเรื่อย ๆ ถ้าผู้เข้าแข่งขันทุก ๆ คน ยังไม่ยืนยันคำตอบเป็นเสียงเดียวกัน ถ้าตอบคำถามถูกต้องก็จะเก็บเป็นเงินรางวัลสะสมเข้ากองกลางไป แต่ถ้าตอบผิดจะถูกหักเงินรางวัลสะสม (จุดเด่นคือจะมีปุ่มยืนยันคำตอบตรงกลางโพเดียมเพื่อให้ทุกคนกดยืนยันคำตอบและหยุดเวลารวมทั้งหยุดการลดลงของเงินรางวัลไปด้วย)
- ในช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน จะมีการแบ่งเงินรางวัลสะสมในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน (อย่างรุนแรง เช่น 60:30:10 จากเงินรางวัลในกองกลางที่สะสมอยู่) และจะต้องต่อรองระหว่างผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนว่าเงินรางวัลในแต่ละส่วนนี้ใครจะได้ครอบครองไป ซึ่งในระหว่างที่กำลังต่อรองอยู่นี้จะทำการจับเวลา นั่นคือจะค่อย ๆ ลดจำนวนของเงินรางวัลสะสมที่ได้แบ่งในแต่ละส่วนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะกดปุ่มตรงกลางโพเดียมเพื่อยืนยัน
ควิซโชว์นี้ถือว่าวัดในความเป็นมนุษย์สูงมาก และสามารถก่อความเครียดได้ง่ายมาก ๆ ด้วย อาจเป็นเพราะบางคนที่ได้เข้ามาแข่งขันคิดว่า...
- ตนเองรู้คำตอบที่ถูกต้องหรือตอบถูกหลาย ๆ ข้อ
- ช่วยชีวิตคนอื่น ๆ ไว้ไม่ให้ตกรอบหรือไม่ให้เงินรางวัลสูญเสียไปมากกว่านี้
- ผลประโยชน์ที่ตนเองต้องการจากเงินรางวัลสะสม
- เหตุผลทางจิตวิทยา
- สาเหตุอื่น ๆ
ซึ่งจะขัดแย้งกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ที่มาแข่งด้วย อาจจะสุ่มเสี่ยงที่จะเกิด #ดราม่า ในสังคมปัจจุบันได้ง่ายมาก ๆ ที่ร้ายแรงที่สุดคือมองหน้ากันไม่ติด มีความเกลียดชัง ทัศนคติต่อโลกเปลี่ยนไป หรือมีกระแส (ที่ส่วนใหญ่เป็นแง่ลบ) จากทางโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน แต่ก็สามารถที่จะรู้ได้ว่า
"มนุษย์" ในสังคมปัจจุบันนั้นมีความคิดและพฤติกรรมเป็นอย่างไร
บางครั้งการแข่งขันในเกมสามารถจบลงในแบบที่ดีต่อทุก ๆ ฝ่าย เพียงแค่เราไม่มี
"มิจฉาทิฐิ" ต่อกันกับคนอื่น ๆ และเอาแค่สิ่งดี ๆ ในรายการเพื่อนำไปใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันให้เป็นปกติสุขก็เพียงพอแล้ว
- วิกิพีเดีย (ภาษาอังกฤษ):
https://en.wikipedia.org/wiki/Divided_(UK_game_show)
- Facebook ของรายการ (มีข้อมูลรับสมัครร่วมแข่งขัน):
https://www.facebook.com/Divided-คนไม่ยอมเกม-350476579034014/
@เฮียเกมโชว์
"Divided คนไม่ยอมเกม" เกมโชว์ที่ท้าทายด้านมืดของมนุษย์
ที่มา (YouTube User): MEMITI ROOM
รายการนี้เป็นเกมโชว์แนวควิซโชว์ที่มีจุดมุ่งหมายหลักของเกมก็คือ "แข่งขันตอบคำถามที่จะต้องช่วยกันคิดและค้นหาคำตอบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน เพื่อเก็บสะสมเงินรางวัลให้มากที่สุด" โดยจะต้องอาศัยและวัด "ความรู้, "ความสามัคคี", "ความเท่าเทียม", "ความเห็นต่าง", "การต่อรอง", "การปรองดอง", "การเชื่อใจ & ไว้ใจ", "อารมณ์", "กิเลส", "ผลประโยชน์", "ความเห็นแก่ตัว" และ "ความเป็นมนุษย์" ในการพิชิตเกมให้ลุล่วง
ควิซโชว์นี้จริง ๆ แล้วมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นเวอร์ชันแรก (ออกอากาศเมื่อกลางปี 2008) หลังจากนั้นก็มีความนิยมที่แพร่หลายโดยที่ประเทศต่าง ๆ ได้ซื้อลิขสิทธิ์รูปแบบรายการไปทำในเวอร์ชันของตัวเอง (เจ้าของลิขสิทธิ์รายการนี้ก็คือ Talpa Media Group ผู้ผลิต "The Voice" ส่วนในเวอร์ชันไทยได้ให้ทางบริษัท "มีมิติ" ผู้ผลิต "ศึกวันดวลเพลง" และ "Hollywood Game Night Thailand" เป็นผู้ผลิตรายการนี้) จนในปัจจุบัน ทั่วโลกมีประเทศที่ซื้อลิขสิทธิ์รายการนี้ไปทำในเวอร์ชันของตัวเองไปแล้วมากกว่า 10 ประเทศ
คลิปรายการในเวอร์ชันต่างประเทศ (อยู่ใน Spoil)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งกระแสความนิยมไปทั่วโลกและกล่าวถึงกันในคนหมู่มากมันเริ่มจากเวอร์ชัน UK กับ USA (ของไทยอิงรูปแบบรายการและงานโปรดักชันเกือบทั้งหมดจาก USA จากที่เห็นในคลิปตัวอย่างรายการเวอร์ชันไทย) ด้วยรูปแบบรายการที่กดดัน บีบคั้นสุด ๆ และมีกระแสไปในทาง Social Experiment เป็นส่วนมาก ซึ่งในรายการจะมีรูปแบบและกติกาหลัก ๆ ที่มีอยู่ในรายการทุก ๆ เวอร์ชันนั่นก็คือ
**ส่วนย่อยอื่น ๆ ของกติกาในรายการนี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละเวอร์ชัน**
- แรกเริ่มคนเล่นจะมี 3 คน (บางเวอร์ชันจะเป็น 4 คน)
- แข่งขันตอบคำถามโดยจะต้องปรึกษาและตกลงกันกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ เพื่อให้ทุกคนลงคำตอบเป็นเสียงเดียวกันทุก ๆ คน โดยมีเงินรางวัลที่ตั้งไว้ในแต่ละข้อ ซึ่งเงินรางวัลที่ตั้งไว้จะทำหน้าที่เป็นนาฬิกาจับเวลาด้วย นั่นคือเงินรางวัลจะลดลงไปเรื่อย ๆ ถ้าผู้เข้าแข่งขันทุก ๆ คน ยังไม่ยืนยันคำตอบเป็นเสียงเดียวกัน ถ้าตอบคำถามถูกต้องก็จะเก็บเป็นเงินรางวัลสะสมเข้ากองกลางไป แต่ถ้าตอบผิดจะถูกหักเงินรางวัลสะสม (จุดเด่นคือจะมีปุ่มยืนยันคำตอบตรงกลางโพเดียมเพื่อให้ทุกคนกดยืนยันคำตอบและหยุดเวลารวมทั้งหยุดการลดลงของเงินรางวัลไปด้วย)
- ในช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน จะมีการแบ่งเงินรางวัลสะสมในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน (อย่างรุนแรง เช่น 60:30:10 จากเงินรางวัลในกองกลางที่สะสมอยู่) และจะต้องต่อรองระหว่างผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนว่าเงินรางวัลในแต่ละส่วนนี้ใครจะได้ครอบครองไป ซึ่งในระหว่างที่กำลังต่อรองอยู่นี้จะทำการจับเวลา นั่นคือจะค่อย ๆ ลดจำนวนของเงินรางวัลสะสมที่ได้แบ่งในแต่ละส่วนไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะกดปุ่มตรงกลางโพเดียมเพื่อยืนยัน
ควิซโชว์นี้ถือว่าวัดในความเป็นมนุษย์สูงมาก และสามารถก่อความเครียดได้ง่ายมาก ๆ ด้วย อาจเป็นเพราะบางคนที่ได้เข้ามาแข่งขันคิดว่า...
- ตนเองรู้คำตอบที่ถูกต้องหรือตอบถูกหลาย ๆ ข้อ
- ช่วยชีวิตคนอื่น ๆ ไว้ไม่ให้ตกรอบหรือไม่ให้เงินรางวัลสูญเสียไปมากกว่านี้
- ผลประโยชน์ที่ตนเองต้องการจากเงินรางวัลสะสม
- เหตุผลทางจิตวิทยา
- สาเหตุอื่น ๆ
ซึ่งจะขัดแย้งกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ที่มาแข่งด้วย อาจจะสุ่มเสี่ยงที่จะเกิด #ดราม่า ในสังคมปัจจุบันได้ง่ายมาก ๆ ที่ร้ายแรงที่สุดคือมองหน้ากันไม่ติด มีความเกลียดชัง ทัศนคติต่อโลกเปลี่ยนไป หรือมีกระแส (ที่ส่วนใหญ่เป็นแง่ลบ) จากทางโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน แต่ก็สามารถที่จะรู้ได้ว่า "มนุษย์" ในสังคมปัจจุบันนั้นมีความคิดและพฤติกรรมเป็นอย่างไร
บางครั้งการแข่งขันในเกมสามารถจบลงในแบบที่ดีต่อทุก ๆ ฝ่าย เพียงแค่เราไม่มี "มิจฉาทิฐิ" ต่อกันกับคนอื่น ๆ และเอาแค่สิ่งดี ๆ ในรายการเพื่อนำไปใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันให้เป็นปกติสุขก็เพียงพอแล้ว
- วิกิพีเดีย (ภาษาอังกฤษ): https://en.wikipedia.org/wiki/Divided_(UK_game_show)
- Facebook ของรายการ (มีข้อมูลรับสมัครร่วมแข่งขัน): https://www.facebook.com/Divided-คนไม่ยอมเกม-350476579034014/
@เฮียเกมโชว์