สวัสดีค่ะ เราขอเริ่มเลยนะคะ อายุ 27 ปีค่ะ เป็นลูกสาวคนกลางคนเดียว ของบ้านครอบครัวจีนนะคะ
เรามีพี่ชายที่อายุมากกว่าเรา 7ปี และน้องชายอายุน้อยกว่าเรา 4ปีค่ะ
พ่อแม่เราไม่ทำงานแล้วนะคะ ก็เลิกทำงานตั้งแต่เราเรียนจบแหละค่ะ ตอนนี้ท่านอายุ 65 และ70 ปี แต่แม่เราเป็นกุ๊กเก่า ก็จะทำอาหารเลี้ยงคนในบ้านแทบทุกวัน
เราและพี่ชายทำงาน มีเงินเดือน แต่น้องชายยังไม่มีนะคะ ก็คืออยู่บ้านเล่นเกมส์ไปวันๆมาตลอด [ตั้งแต่เรียนม.ปลายจนจบมหาลัยมาหลายปีก็ยังเหมือนเดิม]
ปัญหาอยู่ตรงที่ พ่อแม่เรารู้ค่ะ ว่าพี่ชายเป็นคนงกมาก เงินเดือนเราไม่แน่ใจนะคะ แต่ได้ยินคร่าวๆก็ประมาณ 30,000฿ และยังมีค่าขายของจากกลุ่มโอตะด้วยกันพอควรทุกเดือน พี่ชายมีเงินเท่าไหร่ก็ใช้เงินตัวเองคุ้ม และให้ที่บ้านเดือนละ 2,000฿
ส่วนเรา เป็นลูกสาวคนเดียวที่โดนกดดันมาตลอดตั้งแต่เด็ก เราต้องให้ที่บ้านเดือนละ 5,000฿ เงินเดือนของเราประมาณ 21,000฿ และยังมีหนี้บัตรเครดิต และผ่อนรถยนต์อีกเดือนละ8,000฿ คือเราผิดเองค่ะ เรามีหนี้เพราะเราไม่พอใช้ เราให้ที่บ้าน ส่วนเราต้องมาใช้บัตรเครดิต เงินออกก็ผ่อนไป หนี้เครดิตก็พอกหางหมูมาทุกปี โบนัสออกก็โป๊ะเต็ม ฮือออๆ
และเป็นแค่เราคนเดียว ที่ต้องช่วยงานที่บ้าน ต้องทำทุกอย่าง เพราะเหล่าลูกชายของที่บ้านเราจะไม่โดนใช้งานเลย แม้กระทั่งงานหนักๆก็จะเป็นเราค่ะ ที่ต้องช่วยยกตู้ยกของย้ายของหนักๆ รวมถึงล้างห้องน้ำให้ทุกคนในบ้าน [ไม่ใช่ว่าลูกชายไม่อยู่บ้านนะคะ ก็อยู่ห้องของตัวเองกันทั้งคู่ค่ะ]
เบื้องลึกของที่บ้าน เป็นครอบครัวที่ใช้เงินเก่งมากค่ะ เพราะเอาจริงๆก็เหมือนไม่เคยหาเงินด้วยตัวเอง [บ้านเราญาติเลี้ยงมาไม่ต่ำกว่า30ปีนะคะ] ก็จะมีญาติพี่น้องให้เงินเดือนบ้านเรา เดือนละ20,000-25,000฿ เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ไฟ ค่ากิน สำหรับบ้านเรา รวมถึงรถบ้านก็เป็นญาติซื้อให้ [ไม่ใช่รถเรานะคะ] บ้านที่เราอาศัยอยู่ก็ได้มาจากญาติซื้อให้ค่ะ มีแอร์ทุกห้อง ค่าไฟเดือนนึง อยู่ที่8,000-11000฿ แล้วแต่ฤดูค่ะ .... เหมือนบ้านเราไม่เคยซื้ออะไรใหญ่ๆได้เองเลยเนอะ เฮ้ออออ.... แม้แต่ค่าเล่าเรียนของเรา3พี่น้องญาติก็เป็นคนจัดการทั้งหมดค่ะ
ที่ญาติต้องมาช่วยเลี้ยงบ้านเราเพราะแม่เราเป็นพี่สาวคนโต สมัยก่อนเค้าถูกห้ามไม่ให้เรียนหนังสือ เพื่อที่จะต้องช่วยอากงอาม่าหาเงินส่งน้องๆอีกหลายคนเรียนหนังสือค่ะ น้องๆก็ได้ดี บางคนก็มีบริษัทของตัวเอง
บ้านเรากินค่อนข้างหรู อยู่สบาย...แต่มาหนักที่เรา แม่ซื้อของต้องเป็นของดีของแพงเท่านั้น พ่อเรายิ่งเป็นมากกว่าแม่ ต้องดีที่สุด อยากได้อะไรต้องได้ เมื่อเดือนก่อนเพิ่งเควี้ยงแทบเล็ดทิ้ง เพราะบอกว่ามันรวน เค้าโมโห อยากได้เครื่องใหม่ที่ราคาเกือบ30,000฿ เราได้แต่บอกเค้าว่ามันเกินเงินเดือนเราอีกนะ
พ่อแม่เรา เวลาอยากได้อะไร หรืออยากระบายอะไร ก็พูดแต่กับเราคนเดียว ไม่เคยบอกพี่ชายเราเลย เราไม่รู้จะพูดยังไง
เราหนักใจมาก เรากดดันมาก เราไม่มีเงินให้เค้ามากพอแบบที่เค้าต้องการ เราพูดไม่ได้ว่าเราไม่มี แค่เราสั่งเครื่องสำอางคะมาใช้ก็ว่าเราฟุ่มเฟือย ใช้เงินเก่ง
แต่เค้าไม่เคยบ่นพี่ชายเราเลย เค้ายอมทุกอย่างสำหรับพี่ชาย ไม่ว่า แม้จะให้เงินเดือนเค้าน้อย พี่ชายมีเงินทำประกัน เค้าก็เห็นดีเห็นชอบ พี่ชายมีคอมพิวเตอร์ประกอบเรือนแสน มีทีวี 70นิ้ว มีเครื่องเพลีย์ ทุกรุ่น แม่เราไม่เคยว่าอะไรเลย
แต่กับเรา...พ่อแม่เค้าอยากได้มากกว่านี้ เค้าแอบเข้าห้องมาค้นห้องเรา ค้นสลิปเงินเดือนเรา แล้วเอามาพูดว่าเราได้เท่านี้ทำไมให้เค้าแค่นี้.. แล้วเราละ เงินทำประกันตัวเองยังไม่มีเลยค่ะ ห้องก็มีแค่ notebook ไม่ได้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรอื่นนอกจากแอร์. เค้าก้เอาแต่ด่าว่าเรา ว่าก็หล่อนใช้เงินเก่ง ดูอย่างพี่ชายหล่อนสิสบายแล้ว พี่หล่อนใช้เงินเป็น
เราไปหาหมอจิตแพทย์เป็นประจำมา 4ปีแล้วปีค่ะ รู้ตัวว่าจิตใจไม่ค่อยดีตั้งแต่ม.3 แต่ตอนนั้นเราก็ไม่รู้จักโรคนี้ด้วยเนอะ
ก็เพิ่งไปหาหมอรักษาจริงจัง ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าค่อนข้างหนัก ทานยาตลอด.... พอแม่รู้ก็ว่าเราอีก ว่าเป็นหาาาาาอะไร ซึมเศร้าอะไร หล่อนเป็นอะไรของหล่อน แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลย พูดเล่นพูดหยอกไม่ได้นี่เป็นอะไรมากมาย.. เค้าไม่เคยเข้าใจเราเลย
เวลาจะทะเลาะกัน เค้าก็จะใช้ไม้ตายตลอดว่าเราเป็นลูก ต้องกตัญญู ต้องเลี้ยงเค้า ทำให้เค้ารู้สึกแย่เท่ากับบาป เท่ากับอักตัญญู... เราถูกฝังหัวด้วยคำนี้มาตลอด
เราอยากออกไปจากที่นี่ เราทนไม่ไหวแล้ว... เราเคยมัดจำหอใกล้ที่ทำงานเพื่อจะย้ายเข้าไปอยู่ สุดท้ายแม่เรารู้ ก็ให้เรายอมเสียมัดจำไป เพราะไม่ให้เราออกจากบ้าน.. เค้าบอกว่าถ้าเราจะออกไป ก็ไม่ต้องมาอีก .. ลูกอกตัญญู!!
เราจะไม่ไหวแล้วจริงๆ เราจะปรับความคิดเรายังไงดี
เราเลวใช่มั้ย ที่ทนไม่ได้
ทำยังไงดีให้เราไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้
ช่วย แนะนำด้วยค่ะ
ทนไม่ไหวแล้วค่ะ กับคำว่ากตัญญู T-T
เรามีพี่ชายที่อายุมากกว่าเรา 7ปี และน้องชายอายุน้อยกว่าเรา 4ปีค่ะ
พ่อแม่เราไม่ทำงานแล้วนะคะ ก็เลิกทำงานตั้งแต่เราเรียนจบแหละค่ะ ตอนนี้ท่านอายุ 65 และ70 ปี แต่แม่เราเป็นกุ๊กเก่า ก็จะทำอาหารเลี้ยงคนในบ้านแทบทุกวัน
เราและพี่ชายทำงาน มีเงินเดือน แต่น้องชายยังไม่มีนะคะ ก็คืออยู่บ้านเล่นเกมส์ไปวันๆมาตลอด [ตั้งแต่เรียนม.ปลายจนจบมหาลัยมาหลายปีก็ยังเหมือนเดิม]
ปัญหาอยู่ตรงที่ พ่อแม่เรารู้ค่ะ ว่าพี่ชายเป็นคนงกมาก เงินเดือนเราไม่แน่ใจนะคะ แต่ได้ยินคร่าวๆก็ประมาณ 30,000฿ และยังมีค่าขายของจากกลุ่มโอตะด้วยกันพอควรทุกเดือน พี่ชายมีเงินเท่าไหร่ก็ใช้เงินตัวเองคุ้ม และให้ที่บ้านเดือนละ 2,000฿
ส่วนเรา เป็นลูกสาวคนเดียวที่โดนกดดันมาตลอดตั้งแต่เด็ก เราต้องให้ที่บ้านเดือนละ 5,000฿ เงินเดือนของเราประมาณ 21,000฿ และยังมีหนี้บัตรเครดิต และผ่อนรถยนต์อีกเดือนละ8,000฿ คือเราผิดเองค่ะ เรามีหนี้เพราะเราไม่พอใช้ เราให้ที่บ้าน ส่วนเราต้องมาใช้บัตรเครดิต เงินออกก็ผ่อนไป หนี้เครดิตก็พอกหางหมูมาทุกปี โบนัสออกก็โป๊ะเต็ม ฮือออๆ
และเป็นแค่เราคนเดียว ที่ต้องช่วยงานที่บ้าน ต้องทำทุกอย่าง เพราะเหล่าลูกชายของที่บ้านเราจะไม่โดนใช้งานเลย แม้กระทั่งงานหนักๆก็จะเป็นเราค่ะ ที่ต้องช่วยยกตู้ยกของย้ายของหนักๆ รวมถึงล้างห้องน้ำให้ทุกคนในบ้าน [ไม่ใช่ว่าลูกชายไม่อยู่บ้านนะคะ ก็อยู่ห้องของตัวเองกันทั้งคู่ค่ะ]
เบื้องลึกของที่บ้าน เป็นครอบครัวที่ใช้เงินเก่งมากค่ะ เพราะเอาจริงๆก็เหมือนไม่เคยหาเงินด้วยตัวเอง [บ้านเราญาติเลี้ยงมาไม่ต่ำกว่า30ปีนะคะ] ก็จะมีญาติพี่น้องให้เงินเดือนบ้านเรา เดือนละ20,000-25,000฿ เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ไฟ ค่ากิน สำหรับบ้านเรา รวมถึงรถบ้านก็เป็นญาติซื้อให้ [ไม่ใช่รถเรานะคะ] บ้านที่เราอาศัยอยู่ก็ได้มาจากญาติซื้อให้ค่ะ มีแอร์ทุกห้อง ค่าไฟเดือนนึง อยู่ที่8,000-11000฿ แล้วแต่ฤดูค่ะ .... เหมือนบ้านเราไม่เคยซื้ออะไรใหญ่ๆได้เองเลยเนอะ เฮ้ออออ.... แม้แต่ค่าเล่าเรียนของเรา3พี่น้องญาติก็เป็นคนจัดการทั้งหมดค่ะ
ที่ญาติต้องมาช่วยเลี้ยงบ้านเราเพราะแม่เราเป็นพี่สาวคนโต สมัยก่อนเค้าถูกห้ามไม่ให้เรียนหนังสือ เพื่อที่จะต้องช่วยอากงอาม่าหาเงินส่งน้องๆอีกหลายคนเรียนหนังสือค่ะ น้องๆก็ได้ดี บางคนก็มีบริษัทของตัวเอง
บ้านเรากินค่อนข้างหรู อยู่สบาย...แต่มาหนักที่เรา แม่ซื้อของต้องเป็นของดีของแพงเท่านั้น พ่อเรายิ่งเป็นมากกว่าแม่ ต้องดีที่สุด อยากได้อะไรต้องได้ เมื่อเดือนก่อนเพิ่งเควี้ยงแทบเล็ดทิ้ง เพราะบอกว่ามันรวน เค้าโมโห อยากได้เครื่องใหม่ที่ราคาเกือบ30,000฿ เราได้แต่บอกเค้าว่ามันเกินเงินเดือนเราอีกนะ
พ่อแม่เรา เวลาอยากได้อะไร หรืออยากระบายอะไร ก็พูดแต่กับเราคนเดียว ไม่เคยบอกพี่ชายเราเลย เราไม่รู้จะพูดยังไง
เราหนักใจมาก เรากดดันมาก เราไม่มีเงินให้เค้ามากพอแบบที่เค้าต้องการ เราพูดไม่ได้ว่าเราไม่มี แค่เราสั่งเครื่องสำอางคะมาใช้ก็ว่าเราฟุ่มเฟือย ใช้เงินเก่ง
แต่เค้าไม่เคยบ่นพี่ชายเราเลย เค้ายอมทุกอย่างสำหรับพี่ชาย ไม่ว่า แม้จะให้เงินเดือนเค้าน้อย พี่ชายมีเงินทำประกัน เค้าก็เห็นดีเห็นชอบ พี่ชายมีคอมพิวเตอร์ประกอบเรือนแสน มีทีวี 70นิ้ว มีเครื่องเพลีย์ ทุกรุ่น แม่เราไม่เคยว่าอะไรเลย
แต่กับเรา...พ่อแม่เค้าอยากได้มากกว่านี้ เค้าแอบเข้าห้องมาค้นห้องเรา ค้นสลิปเงินเดือนเรา แล้วเอามาพูดว่าเราได้เท่านี้ทำไมให้เค้าแค่นี้.. แล้วเราละ เงินทำประกันตัวเองยังไม่มีเลยค่ะ ห้องก็มีแค่ notebook ไม่ได้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรอื่นนอกจากแอร์. เค้าก้เอาแต่ด่าว่าเรา ว่าก็หล่อนใช้เงินเก่ง ดูอย่างพี่ชายหล่อนสิสบายแล้ว พี่หล่อนใช้เงินเป็น
เราไปหาหมอจิตแพทย์เป็นประจำมา 4ปีแล้วปีค่ะ รู้ตัวว่าจิตใจไม่ค่อยดีตั้งแต่ม.3 แต่ตอนนั้นเราก็ไม่รู้จักโรคนี้ด้วยเนอะ
ก็เพิ่งไปหาหมอรักษาจริงจัง ว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าค่อนข้างหนัก ทานยาตลอด.... พอแม่รู้ก็ว่าเราอีก ว่าเป็นหาาาาาอะไร ซึมเศร้าอะไร หล่อนเป็นอะไรของหล่อน แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลย พูดเล่นพูดหยอกไม่ได้นี่เป็นอะไรมากมาย.. เค้าไม่เคยเข้าใจเราเลย
เวลาจะทะเลาะกัน เค้าก็จะใช้ไม้ตายตลอดว่าเราเป็นลูก ต้องกตัญญู ต้องเลี้ยงเค้า ทำให้เค้ารู้สึกแย่เท่ากับบาป เท่ากับอักตัญญู... เราถูกฝังหัวด้วยคำนี้มาตลอด
เราอยากออกไปจากที่นี่ เราทนไม่ไหวแล้ว... เราเคยมัดจำหอใกล้ที่ทำงานเพื่อจะย้ายเข้าไปอยู่ สุดท้ายแม่เรารู้ ก็ให้เรายอมเสียมัดจำไป เพราะไม่ให้เราออกจากบ้าน.. เค้าบอกว่าถ้าเราจะออกไป ก็ไม่ต้องมาอีก .. ลูกอกตัญญู!!
เราจะไม่ไหวแล้วจริงๆ เราจะปรับความคิดเรายังไงดี
เราเลวใช่มั้ย ที่ทนไม่ได้
ทำยังไงดีให้เราไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้
ช่วย แนะนำด้วยค่ะ