ความฝันที่ 2 ขอส่วนบุญ
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเราตั้งแต่ตอนเรายังวัยรุ่น สมัยนั้นเรารู้จักกับคุณลุงท่านหนึ่ง
ท่านบอกกับเราว่าสวดคาถาชินบัญชรก่อนนอนทุกคืนมันดีนะ ถ้าสวดแบบไม่ต้องดูได้นี่เก่งเลย
ด้วยความที่เราเป็นเด็กวัยรุ่นมันก็เหมือนเป็นความท้าทายนิดๆ เราเลยพยายามท่อง ท่องทุกวัน
ท่องจนสามารถท่องได้จนจบโดยไม่ต้องเปิดหนังสือดู ทำให้ตอนนั้นเราจะเป็นคนที่สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน
เราจะสวดคาถาชินบัญชร แล้วตามด้วยสวดอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรและสัมภเวสี
เราทำแบบนี้มาตลอดเป็นเวลานานมาก จนมาช่วงหลังๆที่เราเริ่มจะไม่ค่อยมีเวลา
เพราะบางทีกลับบ้านดึกบ้าง ลืมบ้าง แรกๆก็ยังไม่เท่าไหร่ ลืมสวดวันสองวันก็ไม่มีอะไร
แต่พอช่วงหลังๆเริ่มไม่ค่อยสวด แล้วก็เริ่มห่างหายการสวดไปเป็นเดือน ทีนี้ก็เริ่มมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นค่ะ
มีอยู่คืนนึงตอนกลางดึกประมาณเที่ยงคืนกว่าเห็นจะได้ เราก็เดินออกมาที่โรงจอดรถเพื่อมาเปิดรถหยิบของ
อยู่ๆเราก็ได้ยินเสียงพระสวดลอยมาตามลม แต่ฟังไม่ถนัดว่าสวดบทอะไรรู้แต่ว่าเป็นเสียงพระสวดมนต์
แล้วก็มีหมาหอนลอยมาด้วย แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร พอเดินกลับเข้าบ้านก็นึกแปลกใจ
นี่มันจะตี 1 แล้ว พระวัดไหนนะทำไมถึงมาสวดมนต์เอาเวลาป่านนี้
หลังจากนั้นถัดไปอีกประมาณซัก 1 สัปดาห์ ตกกลางคืนที่เรานอนหลับอยู่ เราฝันค่ะ
ในฝันจำได้แม่นยำเลยว่า เหมือนมีใครซักคนพาเราไปที่ที่นึง ในฝันบอกเราว่านั่นคือ นรก คือที่ของคนตาย
ในฝันเราเจอแต่คนที่เรารู้จักแต่เสียชีวิตไปหมดแล้ว เราเดินดูไปเรื่อยๆมันเหมือนเป็นห้องที่แบ่งๆไปมีผ้าม่านบางๆกั้น
แต่ละห้องคือเหมือนทุกคนกำลังชดใช้กรรมที่ตนเองก่อไว้ตอนมีชีวิตอยู่
ขณะที่เรากำลังเดินดูอยู่นั้น จู่ๆภาพมันก็ตัดมาที่หน้าห้องที่เรากำลังนอนหลับอยู่
แต่สิ่งที่ตามเรามาด้วยคือ คนตายแล้วพวกนั้น พวกเค้าพยายามที่จะไขว่คว้าตัวเรา
แล้วก็ค่อยๆทรุดลงไปนอนกับพื้น มือก็พยายามที่จะจับตัวเราแต่จับไม่ถึง ปากพวกเค้าก็ร้องครวญคราง
ว่า "ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยที มันทรมานเหลือเกิน ช่วยด้วย ช่วยด้วย" พูดอยู่แต่แบบนี้
ในฝันคือเรากลัวมาก มันเหมือนกับเค้าจะมาทึ้งร่างเรา เหมือนนกแร้งที่รุมกินเหยื่อ
แต่ก็ไม่สามารถแตะถึงตัวเราได้ จากนั้นคือเราสะดุ้งตื่น มันเหมือนเราไปวิ่งรอบสนามมาซักสิบรอบ
เราเหนื่อย หอบ เหงื่อเต็มตัว หัวใจเต้นเร็วมาก เหลือบมองนาฬิการคือ ตี 3 กว่า
ตอนนั้นคือกลัวค่ะ กลัวมากจนไม่รู้จะทำยังไง เลยตัดสินใจแบบกลั้นใจวิ่งออกจากห้องนอนตัวเอง
เปิดประตูแล้ววิ่งไปเคาะประตูห้องแม่ ซึ่งอยู่คนละฝั่งกันเลย แม่เราเดินมาเปิดประตูแบบตกใจถามว่าเป็นอะไร
เราตอบแค่ว่าเราฝันร้ายแล้วไม่พูดอะไรอีก แม่ก็ไม่ถามอะไรต่อท่านคงรู้ว่าเรากลัวมาก
พอตอนเช้าของวันนั้นเราตื่นตั้งแต่เช้ามืด ปลุกแม่ชวนแม่ไปวัดหลวงพ่อโสธร บอกว่าไปใส่บาตรทำบุญกัน
แม่ก็เลยปิดร้านอาหารหนึ่งวัน พาเราไปทำบุญ ระหว่างทางเราก็เล่าให้แม่ฟังเรื่องความฝัน
แม่ก็บอกแค่ว่าเค้าคงมาขอส่วนบุญล่ะมั้ง ไปทำบุญก็คงจะไม่มีอะไรแล้ว
พอเรามาถึงที่วัดหลวงพ่อโสธร เราก็เดินไปเตรียมหาของใส่บาตร
ก็ได้เจอกับแม่ชีรูปนึงอยู่ตรงที่ขายดอกไม้ ธูป เทียน อยู่ๆแม่ชีก็ทักเราขึ้นมาว่า
"หนู หนูเป็นคนทำบุญแล้วถึงพวกเค้าได้มากเลยนะ เวลาที่หนูไม่ทำเค้าก็เลยมาขอ"
คือเราฟังแล้วอึ้งค่ะ พูดอะไรไม่ออก ในใจคิดว่า นี่เพราะเราไม่ได้สวดมนต์อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ใช่มั้ย
พวกเค้าเลยต้องพาเราไปเจอกับพวกเค้าแบบนั้น หลังจากทำบุญเสร็จอาทิตย์นั้นทั้งอาทิตย์
เรานอนห้องแม่อย่างเดียวเลยค่ะ ไม่กล้ากลับไปนอนห้องตัวเอง คือกลัวไม่หายค่ะ
แล้วหลังจากเหตุการณ์วันนั้นเราก็เลยตั้งใจว่าจะไม่สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนอีก
แต่จะทำบุญอุทิศให้เป็นครั้งคราวที่เราสะดวก เรากลัวว่าถ้าเราสวดอุทิศให้ทุกคืนแบบเดิม
แล้ววันไหนไม่ทำเราจะเจอดีแบบนี้อีก
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จดจำได้แม่นยำจนถึงทุกวันนี้
ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ
เรื่องเล่า...ฝันผวา ตอนที่ 1 ของรักของหวง
https://ppantip.com/topic/38497064
เรื่องเล่า...ฝันผวา ตอนที่ 3 ญาติที่ถูกลืม
https://ppantip.com/topic/38497080
เรื่องเล่า...ฝันผวา ตอนที่ 4 ผ้าคลุมเตียงมือสอง
https://ppantip.com/topic/38499866
เรื่องเล่า...ชวนผวา "เล่นของต่ำ"
https://ppantip.com/topic/38499889
เรื่องเล่า...ฝันผวา ตอนที่ 2 ขอส่วนบุญ
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเราตั้งแต่ตอนเรายังวัยรุ่น สมัยนั้นเรารู้จักกับคุณลุงท่านหนึ่ง
ท่านบอกกับเราว่าสวดคาถาชินบัญชรก่อนนอนทุกคืนมันดีนะ ถ้าสวดแบบไม่ต้องดูได้นี่เก่งเลย
ด้วยความที่เราเป็นเด็กวัยรุ่นมันก็เหมือนเป็นความท้าทายนิดๆ เราเลยพยายามท่อง ท่องทุกวัน
ท่องจนสามารถท่องได้จนจบโดยไม่ต้องเปิดหนังสือดู ทำให้ตอนนั้นเราจะเป็นคนที่สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน
เราจะสวดคาถาชินบัญชร แล้วตามด้วยสวดอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรและสัมภเวสี
เราทำแบบนี้มาตลอดเป็นเวลานานมาก จนมาช่วงหลังๆที่เราเริ่มจะไม่ค่อยมีเวลา
เพราะบางทีกลับบ้านดึกบ้าง ลืมบ้าง แรกๆก็ยังไม่เท่าไหร่ ลืมสวดวันสองวันก็ไม่มีอะไร
แต่พอช่วงหลังๆเริ่มไม่ค่อยสวด แล้วก็เริ่มห่างหายการสวดไปเป็นเดือน ทีนี้ก็เริ่มมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นค่ะ
มีอยู่คืนนึงตอนกลางดึกประมาณเที่ยงคืนกว่าเห็นจะได้ เราก็เดินออกมาที่โรงจอดรถเพื่อมาเปิดรถหยิบของ
อยู่ๆเราก็ได้ยินเสียงพระสวดลอยมาตามลม แต่ฟังไม่ถนัดว่าสวดบทอะไรรู้แต่ว่าเป็นเสียงพระสวดมนต์
แล้วก็มีหมาหอนลอยมาด้วย แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไร พอเดินกลับเข้าบ้านก็นึกแปลกใจ
นี่มันจะตี 1 แล้ว พระวัดไหนนะทำไมถึงมาสวดมนต์เอาเวลาป่านนี้
หลังจากนั้นถัดไปอีกประมาณซัก 1 สัปดาห์ ตกกลางคืนที่เรานอนหลับอยู่ เราฝันค่ะ
ในฝันจำได้แม่นยำเลยว่า เหมือนมีใครซักคนพาเราไปที่ที่นึง ในฝันบอกเราว่านั่นคือ นรก คือที่ของคนตาย
ในฝันเราเจอแต่คนที่เรารู้จักแต่เสียชีวิตไปหมดแล้ว เราเดินดูไปเรื่อยๆมันเหมือนเป็นห้องที่แบ่งๆไปมีผ้าม่านบางๆกั้น
แต่ละห้องคือเหมือนทุกคนกำลังชดใช้กรรมที่ตนเองก่อไว้ตอนมีชีวิตอยู่
ขณะที่เรากำลังเดินดูอยู่นั้น จู่ๆภาพมันก็ตัดมาที่หน้าห้องที่เรากำลังนอนหลับอยู่
แต่สิ่งที่ตามเรามาด้วยคือ คนตายแล้วพวกนั้น พวกเค้าพยายามที่จะไขว่คว้าตัวเรา
แล้วก็ค่อยๆทรุดลงไปนอนกับพื้น มือก็พยายามที่จะจับตัวเราแต่จับไม่ถึง ปากพวกเค้าก็ร้องครวญคราง
ว่า "ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยที มันทรมานเหลือเกิน ช่วยด้วย ช่วยด้วย" พูดอยู่แต่แบบนี้
ในฝันคือเรากลัวมาก มันเหมือนกับเค้าจะมาทึ้งร่างเรา เหมือนนกแร้งที่รุมกินเหยื่อ
แต่ก็ไม่สามารถแตะถึงตัวเราได้ จากนั้นคือเราสะดุ้งตื่น มันเหมือนเราไปวิ่งรอบสนามมาซักสิบรอบ
เราเหนื่อย หอบ เหงื่อเต็มตัว หัวใจเต้นเร็วมาก เหลือบมองนาฬิการคือ ตี 3 กว่า
ตอนนั้นคือกลัวค่ะ กลัวมากจนไม่รู้จะทำยังไง เลยตัดสินใจแบบกลั้นใจวิ่งออกจากห้องนอนตัวเอง
เปิดประตูแล้ววิ่งไปเคาะประตูห้องแม่ ซึ่งอยู่คนละฝั่งกันเลย แม่เราเดินมาเปิดประตูแบบตกใจถามว่าเป็นอะไร
เราตอบแค่ว่าเราฝันร้ายแล้วไม่พูดอะไรอีก แม่ก็ไม่ถามอะไรต่อท่านคงรู้ว่าเรากลัวมาก
พอตอนเช้าของวันนั้นเราตื่นตั้งแต่เช้ามืด ปลุกแม่ชวนแม่ไปวัดหลวงพ่อโสธร บอกว่าไปใส่บาตรทำบุญกัน
แม่ก็เลยปิดร้านอาหารหนึ่งวัน พาเราไปทำบุญ ระหว่างทางเราก็เล่าให้แม่ฟังเรื่องความฝัน
แม่ก็บอกแค่ว่าเค้าคงมาขอส่วนบุญล่ะมั้ง ไปทำบุญก็คงจะไม่มีอะไรแล้ว
พอเรามาถึงที่วัดหลวงพ่อโสธร เราก็เดินไปเตรียมหาของใส่บาตร
ก็ได้เจอกับแม่ชีรูปนึงอยู่ตรงที่ขายดอกไม้ ธูป เทียน อยู่ๆแม่ชีก็ทักเราขึ้นมาว่า
"หนู หนูเป็นคนทำบุญแล้วถึงพวกเค้าได้มากเลยนะ เวลาที่หนูไม่ทำเค้าก็เลยมาขอ"
คือเราฟังแล้วอึ้งค่ะ พูดอะไรไม่ออก ในใจคิดว่า นี่เพราะเราไม่ได้สวดมนต์อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ใช่มั้ย
พวกเค้าเลยต้องพาเราไปเจอกับพวกเค้าแบบนั้น หลังจากทำบุญเสร็จอาทิตย์นั้นทั้งอาทิตย์
เรานอนห้องแม่อย่างเดียวเลยค่ะ ไม่กล้ากลับไปนอนห้องตัวเอง คือกลัวไม่หายค่ะ
แล้วหลังจากเหตุการณ์วันนั้นเราก็เลยตั้งใจว่าจะไม่สวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนอีก
แต่จะทำบุญอุทิศให้เป็นครั้งคราวที่เราสะดวก เรากลัวว่าถ้าเราสวดอุทิศให้ทุกคืนแบบเดิม
แล้ววันไหนไม่ทำเราจะเจอดีแบบนี้อีก
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จดจำได้แม่นยำจนถึงทุกวันนี้
ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ
เรื่องเล่า...ฝันผวา ตอนที่ 1 ของรักของหวง https://ppantip.com/topic/38497064
เรื่องเล่า...ฝันผวา ตอนที่ 3 ญาติที่ถูกลืม https://ppantip.com/topic/38497080
เรื่องเล่า...ฝันผวา ตอนที่ 4 ผ้าคลุมเตียงมือสอง https://ppantip.com/topic/38499866
เรื่องเล่า...ชวนผวา "เล่นของต่ำ" https://ppantip.com/topic/38499889