[CR] รีวิวสายการบิน Japan Airlines บินไปอเมริกาด้วย Boeing 777–300ER Economy Class

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวสายการบิน Japan Airlines (ต่อจากนี้ผมจะเรียกสั้นๆ ว่า JAL นะครับ) ที่ผมได้ใช้บริการบินไปเที่ยวอเมริกาช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการนั่งเครื่องบินที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของผมเลย ใช้เวลาเดินทางรวมเวลารอเปลี่ยนเครื่องทั้งสิ้น 25 ชม. เรียกได้ว่าใช้ชีวิตอยู่บนเครื่องบินกันข้ามวันข้ามคืนกันเลยทีเดียว

เส้นทางการบินของผมในครั้งนี้ BKK-NRT-ORD-STL

จองตั๋วเครื่องบิน
[Disclosure] การเดินทางครั้งนี้ผมออกค่าใช้จ่ายการเดินทางเองทั้งหมด ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรือบริษัท Agency จองตั๋วเครื่องบินใดๆ ทั้งสิ้น

ผมใช้บริการของ Cheaptickets ซึ่งเป็น Agency จองตั๋วเครื่องบินรายใหญ่ที่ให้ตั๋วราคาถูก ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ผมมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เมือง St Louis (STL) รัฐ Missouri โดยแวะพักสองครั้งที่ Tokyo และเมือง Chicago รัฐ Illinois (อ่านว่า อิลลินอย ไม่ใช่ อิลลินอยส์ นะครับ)

แนะนำทริคสำหรับคนที่จะบินไปเที่ยวอเมริกาครั้งแรก แนะนำให้เลือกไปลงเมืองใหญ่ที่มีสายการบินจากเอเชียบินไปลงโดยตรง เช่น LA, San Francisco, Chicago, New York, Boston, DC ซึ่งสายการบินในเอเชียจะแข่งกันทำโปรโมชันลดราคาอยู่เป็นระยะ ซึ่งบางทีผมเคยเห็นบางสายการบินลดราคาเหลือแค่ 17–18K ก็มีให้เห็นครับ โดยเฉพาะเมืองฝั่ง West Coast เช่น LA, San Francisco เผลอๆ ราคาถูกกว่าบินฟูลเซอร์วิสไปญี่ปุ่นอีกครับ

ปัจจุบันไม่มีสายการบินใดจากไทยบินตรงเข้าสู่อเมริกาแล้ว ซึ่งแต่ก่อนการบินไทยเคยมีเที่ยวบินตรงเข้าอเมริกา แต่มีปัญหาเรื่องการขาดทุนสะสม จึงต้องยกเลิกเที่ยวบินไป เพราะฉะนั้นการบินไปอเมริกาจากไทยจะต้องมีการแวะพักเสมอครับ

การบินไปอเมริกากับ JAL จะได้น้ำหนักกระเป๋าเช็คอิน 2 ใบๆ ละ 23 kg และสามารถสะสมไมล์ได้กับ JAL ซึ่งเป็นสายการบินในเครือ One World ใครที่เป็นสมาชิกสะสมไมล์กับสายการบินในเครือนี้เช่น Cathay Pacific, American Airlines, British Airways สามารถใช้ร่วมกันได้หมดเลยครับ

สายการบินในเครือ One World

เนื่องจากผมยังไม่เคยเป็นสมาชิกสะสมไมล์ของ One World เลยสมัครสมาชิกโปรแกรมสะสมไมล์กับ JAL ซึ่งใช้ชื่อว่า JAL Mileage Bank (JMB) หลังจากสมัครแล้วทาง JAL ก็ส่งบัตรสะสมไมล์มาให้ถึงบ้านเลยครับ


การเตรียมตัว
คนไทยทุกคนที่จะบินไปอเมริกาต้องสมัครทำ Visa ก่อนนะครับ นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ก็ต้องสมัคร Visa type B-1/B-2 เตรียมตัวเตรียมใจและเอกสารไปสัมภาษณ์วีซ่ากันให้พร้อมนะครับ สามารถหาอ่านรีวิวในอินเตอร์เน็ตได้เยอะแยะเลย ผ่านได้ไม่ยากครับถ้าตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ

สำหรับใครที่มี Visa อยู่แล้วแต่อยู่ใน Passport เก่าที่หมดอายุแล้ว (แต่Visaยังไม่หมดอายุ) แนะนำให้ทำ Endorsement ไปที่ Passport เล่มใหม่ซึ่งสามารถทำได้ที่กรมกงสุล (เสียค่าทำ 100 บาท) และทุกครั้งที่เดินทางไปอเมริกาให้พก Passport เล่มเก่าที่มีวีซ่าอเมริกาไปด้วยเสมอ เพราะต้องใช้วีซ่าตัวจริงตอนผ่านตม. เข้าประเทศด้วยครับ

การเดินทาง #1
Flight: JL718
Route: Bangkok(BKK) - Tokyo(NRT)
Departure Time: 11:25PM
Arrival Time: 7:15 AM
Duration: 5 hour 50 min
Aircraft: Boeing 787–8 Dreamliner
Class: S (Economy)

Check-in
ผมได้ทำการเช็คอินออนไลน์มาจากบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พอมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็มาทำ Baggage Drop ที่เค้าเตอร์สายการบิน Japan Airlines (Row R) ได้เลยครับ ประหยัดเวลาไปได้มาก ซึ่งการเช็คอินครั้งนี้ผมได้ Boarding Pass มา 3 ใบ (BKK-NRT, NRT-ORD และ ORD-STL) ซึ่งนั่นหมายความว่ากระเป๋าผมได้เช็คทรูไปถึงปลายทางที่ St Louis แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่กราวน์ของสายการบินก็ได้แจ้งว่าผมจะต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) ที่ Chicago ก่อน ซึ่งเป็นกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ว่าผู้โดยสารที่บินเข้าอเมริกาจะต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองก่อนที่สนามบินแรกที่ Landing ถึงแม้ว่าจะมีไฟลท์บินต่อไปเมืองอื่นภายในประเทศก็ตาม และเราก็จะต้องนำกระเป๋าออกจากสายพาน (Baggage Claim) ที่ชิคาโก และทำ Baggage Drop อีกครั้งเพื่อต่อเครื่องบินในประเทศอีกที

หลังจากเข้าเกท ก็นั่งๆ นอนๆ รอขึ้นเครื่องอยู่ราวๆ 2 ชม. ก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องกันแล้วครับ วันนี้เราจะบินไปโตเกียวด้วยเครื่องบิน Boeing 787–8 Dreamliner กันครับ เครื่องบินค่อนข้างใหม่เลยทีเดียว

ผังที่นั่งของ B787–8 ของ JAL จัดวางในลักษณะ 2–4–2 Seat Width กว้างตามมาตรฐาน นั่งสบาย ทุกที่นั่งมี Port USB รวมถึง AC Power ให้ชาร์จแบตโทรศัพท์ นอกจากนี้ก็มีผ้าห่ม หมอน และหูฟังให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งครับ

โดยรวมเครื่องบิน B787–8 ลำนี้ค่อนข้างใหม่เลยครับ In-Flight Entertainment เป็นจอสัมผัส LED ส่วน Content ก็ค่อนข้างหลากหลาย มีหนังใหม่ๆ ให้ดูเพียบ และรวมถึง Local Content สำหรับผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นก็มีค่อนข้างเยอะ

ก่อนเครื่องจะ Landing 2 ชั่วโมง พนักงานต้อนรับบนเครื่องก็เริ่มเสิร์ฟอาหารเป็นเมนู Omlette ไส้กรอก เห็ด มันฝรั่ง ผักสลัด และก็มีโยเกิร์ตเป็นของหวานครับ รสชาดพอใช้ครับ

พอทานอาหารเสร็จก็เริ่มเช้าพอดีครับ ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเครื่องบินนี่ฟินจริงๆนะครับ

ประมาณ 1 ชม. ต่อมากัปตันลดระดับเพดานบินและก็ Landing ที่สนามบินนาริตะเรียบร้อย ผมมีเวลาเปลี่ยนเครื่องประมาณ 3 ชม. ครึ่ง ก็ผ่าน Security Check ในเกทอีกรอบแล้วก็ช็อปปิ้งใน Duty Free รอเพลินๆ ครับ

สำหรับใครที่มา Transit ที่สนามบินนาริตะนานๆ ที่นี่มีจุดให้ผู้โดยสารนั่งชมวิวดูเครื่องบินจอดเทียบเกทได้ด้วยนะครับ อยู่ในบริเวณ Gate ใน Terminal 2 ซึ่งส่วนตัวผมชอบนั่งดูเครื่องบินอยู่แล้วเลยมีโอกาสได้นั่งดูชิวๆ ช่วงรอต่อเครื่องด้วยครับ
JAL, AA, CX นี่มันสายการบินเครือ One World หมดเลยนี่นา

การเดินทาง#2
Flight: JL10
Route: Tokyo (NRT) - Chicago (ORD)
Departure Time: 10:50 AM
Arrival Time: 07:15 AM
Duration: 10 hour 45 min
Aircraft: Boeing 777–300ER
Class: S (Economy)

มาถึงพระเอกของการรีวิวในครั้งนี้ครับ ไฟลท์นี้ผมเดินทางจากสนามบิน Narita ประเทศญี่ปุ่นไปลงที่สนามบิน O’Hare International Airport เมือง Chicago รัฐ Illinois สหรัฐอเมริกา ด้วยเครื่องบิน Boeing 777–300ER ซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นยอดฮิตที่บินจากเอเชียไปลงที่ Chicago เลยครับ ผมลอง Search ไฟลท์จากเอเชียของสายการบินอื่นๆ ที่ไปลงที่เมืองนี้เปรียบเทียบกันก็พบว่าใช้เครื่องบินรุ่นนี้กันแทบทั้งสิ้นเลยครับ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตผมที่จะได้บินออกนอกทวีปเอเชียไปทวีปอเมริกาเหนือผ่านเส้นทางการบินเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ครับ

Boeing 777–300 ER คือเครื่องบินรุ่นปรับปรุงจาก Boeing 777 เดิมโดยเพิ่มระยะทางการบินให้บินได้ไกลขึ้น (ER ย่อมาจาก Extended Range) บินได้ระยะไกลสูงสุด 13,650 km ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ถือเป็นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากหลายสายการบินเพราะทำการบินได้ไกลและประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่ารุ่น 777 เดิมและยังเป็นรุ่นย่อยของ Boeing 777 ที่ขายดีที่สุดในโลกด้วย

ผังที่นั่งของ Boeing 777–300ER ของเที่ยวบิน JL10 จัดเรียงแบบ 3–3–3 ครับ ที่นั่งกว้างมาก JAL ใช้ชื่อว่า Sky Wider Economy นั่งสบาย Seat Width 19 นิ้ว (กว้างกว่าค่ามาตรฐาน) IFE เป็นจอสัมผัส LED มี USB Port, AC Power รวมถึงหมอนผ้าห่มและหูฟังให้ผู้โดยสารทุกคน เยี่ยมมากๆ ครับ

เมื่อเครื่อง Take Off ขึ้นได้ซัก 1 ชม. พนักงานต้อนรับก็เริ่มเสิร์ฟอาหารมื้อแรกกันเลย เมนูแรกนี้เป็นข้าวกับปลาแซลมอนอบชีสอะไรซักอย่าง อร่อยดีครับ ทานคู่กับผักสลัดและของหวานเป็นไอติม Häagen-Dazs JAL In-Flight Edition! รส Vanilla ชอบมากก

เที่ยวบินนี้มีพนักงานต้อนรับบนเครื่อง (แอร์โฮสเตส) ที่เป็นคนไทยด้วยครับ (ปกติผมเข้าใจว่า JAL จะมีแอร์คนไทยเฉพาะเที่ยวบินที่บินเข้าออกเมืองไทยเท่านั้น) แต่รู้สึกว่าไฟลท์นี้มีผู้โดยสารหลายคนที่เป็นคนไทยเลยมีแอร์คนไทยบินไปด้วยถึงอเมริกาเลย ก็ยิ่งทำให้เราอุ่นใจมากยิ่งขึ้นครับ ส่วนการบริการก็ดีเยี่ยมตามมาตรฐานสายการบินญี่ปุ่นเลยครับ

หลังจากนั้นผมก็นั่งดูหนังเพลินๆ แล้วก็หลับไป ตื่นมาอีกทีแอร์ก็เริ่มจะเสิร์ฟอาหารมื้อที่สองก่อนเครื่องจะ Landing ประมาณ 2 ชม.ได้
เมนูที่สองนี้จะเป็น Cannellini Bean and Bacon Minestrone Soup เป็นอิตาเลียนซุปที่ใส่ถั่ว Cannellini รสชาดคล้ายๆ ซุปมะเขือเทศครับ อร่อยดี ทานคู่กับขนมปัง, และ Turmeric Short Pasta ส่วนของหวานเป็น Yogurt Jelly and Mango Pudding ครับ

เมนูนี้เป็นเมนูพิเศษที่ทาง JAL กับร้าน Soup Stock Tokyo http://www.soup-stock-tokyo.com ร่วมมือกันทำ In-Flight Meal พิเศษสำหรับเที่ยวบินจากโตเกียวไปอเมริกา แคนาดา (Vancouver) ยุโรป (Frankfurt, Helsinki) และออสเตรเลีย (Sydney, Melbourne) และจะเสิร์ฟถึงวันที่ 28 February 2019 นี้เท่านั้น รู้สึกโชคดีมากที่ได้ทานอาหารสุด Exclusive มื้อนี้ครับ

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วเครื่องก็ค่อยๆ ลดระดับลงและ Landing ที่ O’Hare International Airport ที่ Chicago อย่างปลอดภัย (กัปตัน Landing นิ่มมากครับ)

ผม Landing ที่สนามบิน O’Hare International Airport Terminal 5 ทำการผ่านตม.ของอเมริกาซึ่งใช้ระบบ Automated Passport Control (APC) ผ่านเครื่อง Kiosk ก่อนแล้วค่อยมา Review กับเจ้าหน้าที่ตม. (CBP Officer) อีกทีนึงครับ ถึงแม้ผู้โดยสารจะมีปริมาณมาก แต่สามารถผ่านตม.ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกดีมากๆ สมกับเป็นประเทศเจ้าแห่งเทคโนโลยีจริงๆ ใครที่ยังไม่เคยมาอเมริกาลองศึกษาการใช้งานเจ้า APC Kiosk นี้จากคลิปด้านล่างนี้ก่อนก็ได้ครับ เข้าใจว่าสนามบินใหญ่ๆ ในอเมริกาใช้ระบบนี้กันหมดแล้ว
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
หลังจากผ่านตม. แล้วผมก็มารับกระเป๋าและทำการ Baggage Drop อีกรอบสำหรับไฟลท์ในประเทศของผมครับ

ต่อไป Comment นะครับ ข้อความเต็ม
ชื่อสินค้า:   JAPAN AIRLINES
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่