https://www.vulture.com/2019/01/the-masked-singer-changes-king-of-mask-singer.html
ไปอ่านเจอในเว็บนี้มา น่าสนใจ ขอสรุปคร่าว ๆ
01. ปรับฟอร์แมตรายการเป็นแบบเกาหลี - จะได้ไม่อืดมาก ของเกาหลีคือมี 2 เทป จัดแบบทัวร์นาเมนท์ต่อรอบ แล้วตัดออก ๆ ผู้ชนะไม่จำเป็นต้องเปิดหน้ากากออก ให้เก็บไว้ชนกับผู้ชนะของเซทต่อไป และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องใบ้เยอะมาก
02. โล๊ะกรรมการทิ้ง (ถ้ากรรมการยังไม่เอาอ่าวแบบนี้)
03. เลือกคนดังที่ร้องเพลงเป็นจริง ๆ
04. เก็บทีมคนทำคอสตูมไว้
05. ใช้ประโยชน์จากคนที่ถอดหน้ากากมากขึ้นกว่านี้ - เช่น สัมภาษณ์เขาให้นานขึ้น แรงบันดาลใจหน้ากาก ทำไมเลือกเพลงนี้มาร้อง ไม่ใช่ถอดแล้วทิ้ง
ส่วนตัวก็ชอบ format แบบอเมริกานะ คือมาเป็น set รู้สึกผูกพันกันไป ไม่รีบคัดออก
แต่เห็นด้วยกับข้อ 5 ว่า ควรขยี้คนตกรอบมากกว่านี้ ไม่ถึงกับต้องดราม่า แต่ให้ความสำคัญกับเขา อันนี้บ้านเราทำดีกว่า ยิ่ง workpoint ด้วย ยิ่งถนัดขยี้ดราม่า แล้วก็เห็นด้วยว่าไม่ควรใบ้เยอะเกิน ของอเมริกาไม่รู้ก่อนทำรายการ เค้าสบประมาทคนดูเยอะไปไหม เกรงว่าคนดูจะไม่รู้เลยใบ้แหลก ผลคือคนดูรู้หมดตั้งแต่ 2 เทปแรก (ต่อให้มันไม่ใช่ แต่ทิศทางการเดามันแทบจะ 80% คิดเหมือนกันหมด) คิดว่ารายการแบบนี้มันต้องมี shock value บ้างนะ ถ้าคนดูไม่เซอร์ไพร์ส มันก็ยากที่จะชวนติดตาม
ส่วนข้อ 3 ไม่เห็นด้วย เอาใครมาร้องก็ได้ คิดว่ามันไม่ได้เน้นที่การร้องเพลงเก่งไม่เก่ง แต่อยู่ที่การได้เป็นตัวของตัวเองใต้หน้ากากมากกว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหากับคนไม่ดัง เพราะเอาจริง ๆ ของไทยที่มาออก หลายคนก็ไม่ได้ดังนะ ตกยุคไปแล้ว เป็นดาราเกรดรอง ๆ ก็มี
รายการนี้จุดสำคัญเลยคือทำยังไงให้คนดูผูกพันกับผู้เข้าแข่งขันให้ได้ ต่อให้เค้าไม่ดัง แต่รายการต้องทำให้เค้าเป็นที่รู้จัก กลับมาเป็นที่สนใจ กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง ซึ่งของไทยประสบความสำเร็จกับการคืนชีพให้หลายคนมาก ๆ อีกอย่างเป้าหมายคนดูคืออเมริกา เค้าไม่จำเป็นต้องมาเอาใจคนทั้งโลกด้วยการเน้นแต่ดาราฮอลลีวู้ด นักร้องเพลงพ๊อพในกระแส คนอเมริกาอีกกี่สิบล้านคนดูทีวี ซีรีส์ รายการเดี่ยวไมโครโฟน ดูกีฬา มีเยอะแยะ พวกที่เราคิดว่าไม่ดัง จริง ๆ หลายคนบารมีไม่ใช่ขี้ ๆ ที่นั้น
The Masked Singer ซีซั่น 2 ควรปรับปรุงอะไรบ้าง
ไปอ่านเจอในเว็บนี้มา น่าสนใจ ขอสรุปคร่าว ๆ
01. ปรับฟอร์แมตรายการเป็นแบบเกาหลี - จะได้ไม่อืดมาก ของเกาหลีคือมี 2 เทป จัดแบบทัวร์นาเมนท์ต่อรอบ แล้วตัดออก ๆ ผู้ชนะไม่จำเป็นต้องเปิดหน้ากากออก ให้เก็บไว้ชนกับผู้ชนะของเซทต่อไป และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องใบ้เยอะมาก
02. โล๊ะกรรมการทิ้ง (ถ้ากรรมการยังไม่เอาอ่าวแบบนี้)
03. เลือกคนดังที่ร้องเพลงเป็นจริง ๆ
04. เก็บทีมคนทำคอสตูมไว้
05. ใช้ประโยชน์จากคนที่ถอดหน้ากากมากขึ้นกว่านี้ - เช่น สัมภาษณ์เขาให้นานขึ้น แรงบันดาลใจหน้ากาก ทำไมเลือกเพลงนี้มาร้อง ไม่ใช่ถอดแล้วทิ้ง
ส่วนตัวก็ชอบ format แบบอเมริกานะ คือมาเป็น set รู้สึกผูกพันกันไป ไม่รีบคัดออก
แต่เห็นด้วยกับข้อ 5 ว่า ควรขยี้คนตกรอบมากกว่านี้ ไม่ถึงกับต้องดราม่า แต่ให้ความสำคัญกับเขา อันนี้บ้านเราทำดีกว่า ยิ่ง workpoint ด้วย ยิ่งถนัดขยี้ดราม่า แล้วก็เห็นด้วยว่าไม่ควรใบ้เยอะเกิน ของอเมริกาไม่รู้ก่อนทำรายการ เค้าสบประมาทคนดูเยอะไปไหม เกรงว่าคนดูจะไม่รู้เลยใบ้แหลก ผลคือคนดูรู้หมดตั้งแต่ 2 เทปแรก (ต่อให้มันไม่ใช่ แต่ทิศทางการเดามันแทบจะ 80% คิดเหมือนกันหมด) คิดว่ารายการแบบนี้มันต้องมี shock value บ้างนะ ถ้าคนดูไม่เซอร์ไพร์ส มันก็ยากที่จะชวนติดตาม
ส่วนข้อ 3 ไม่เห็นด้วย เอาใครมาร้องก็ได้ คิดว่ามันไม่ได้เน้นที่การร้องเพลงเก่งไม่เก่ง แต่อยู่ที่การได้เป็นตัวของตัวเองใต้หน้ากากมากกว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหากับคนไม่ดัง เพราะเอาจริง ๆ ของไทยที่มาออก หลายคนก็ไม่ได้ดังนะ ตกยุคไปแล้ว เป็นดาราเกรดรอง ๆ ก็มี
รายการนี้จุดสำคัญเลยคือทำยังไงให้คนดูผูกพันกับผู้เข้าแข่งขันให้ได้ ต่อให้เค้าไม่ดัง แต่รายการต้องทำให้เค้าเป็นที่รู้จัก กลับมาเป็นที่สนใจ กลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง ซึ่งของไทยประสบความสำเร็จกับการคืนชีพให้หลายคนมาก ๆ อีกอย่างเป้าหมายคนดูคืออเมริกา เค้าไม่จำเป็นต้องมาเอาใจคนทั้งโลกด้วยการเน้นแต่ดาราฮอลลีวู้ด นักร้องเพลงพ๊อพในกระแส คนอเมริกาอีกกี่สิบล้านคนดูทีวี ซีรีส์ รายการเดี่ยวไมโครโฟน ดูกีฬา มีเยอะแยะ พวกที่เราคิดว่าไม่ดัง จริง ๆ หลายคนบารมีไม่ใช่ขี้ ๆ ที่นั้น