▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภูชี้ฟ้า
เที่ยวภูเขา
จังหวัดเชียงราย
ดอกนางพญาเสือโคร่ง
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวเชียงราย 3 วัน 2 คืน
รอบเช้าเดินทางจากกรุงเทพ สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบินไทยเวียตเจ็ท ที่นั่งสายการบิน เราได้เลือกที่นั่งไว้ ซึ้งกว้างไม่แคบอย่างที่คิดไว้ ออกเดินทางเวลา 6.30-7.50 สนามบินแม่ฟ้าหลวง เพื่อเดินทางไปภูชีฟ้า ผาตั้ง แต่ด้วยความโชคดี ป้าที่พักโทรมาบอกว่า ตอนนี้มีดอกพญาเสือโคร่งบานแล้วนะ จะพาไปดูดอกพญาเสือโคร่งด้วย
เช้าวันที่ 1
หลังจากนั้นเดินทางไป บขสเก่า ตัวเมืองเชียงราย นั่งแท็กซี่มิตเตอร์ ที่ประตูออกที่ 3 ถึง บขส 90 บาท +30 บาท ขึ้นที่สนามบิน ถึงบขสเก่าประมาณ 8 .30 รอรถบัสไป ไป อ.เทิง โดยรถออกเวลา 10.00 น. ค่ารถ 34 บท ต่อคน หรืออีกทางเลือก คือรถตู้จะไปส่งถึงจุดบริการนักท่องเที่ยงภูชี้ฟ้า รอบเวลา 13.30 น. ค่ารถ 400 บาท ไป-กลับ แต่ต้องขากลับไว้เลย เพราะจะไม่มีรถลงมาเชียงราย ไม่งั้นต้องเหมา
เดินทางมาถึง บขส เทิง ทางที่พักเราได้เหมารถเที่ยวไว้ จะมีลุงมารับ ตอนเวลา 11.30 ใช้เวลาเดินทางไปถึงที่พักประมาณ 1 ชม พักที่ เฮือนดอกเสี้ยว คนละ 500 บาท
ที่พักจะอยู่บนเขา ใกล้ภูชี้ฟ้า 4 กิโลเมตร
ที่ห้องพัก จะมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ ทีวี แต่จะไม่มีพัดลม เพราะที่นี้อากาศเย็นมาก ตอนเช้าอยู่ที่ 11 องศา หลังจากเก็บของเข้าที่พักแล้ว เราก็เดินทางไปเที่ยว ดอยผาตั้งกันต่อเลย
จากที่พักมาถึงดอยผาตั้งประมาณ 20 กิโลเมตร ทางขึ้นเขา แต่ไม่อันตราย
ตรงนี้คือประตูสยาม จะเป็นหินย้อย เหมือนประตู แล้วกันเขต ระหว่างประเทศไทย และประเทศลาว ก้าผ่านประตูไปก็ประเทศลาวแล้ว
ที่ดอยผาตั้ง จะมีบริการเช่าม้าขี่ขึ้นยอดดอย หรือว่าจะเดินก็ได้เหมือนกันแต่จะเหนื่อยหน่อย เพราะมีหลายจุดให้ขึ้นไปบนยอดเขา
ขึ้นมาบนดอย จะมีต้นเมเปิ้ลด้วย มีอยู่หลายต้น กำลังจะเปลี่ยนสี
มีดอกไม้ และต้นไม้ที่สวยงาม และวิวที่สวย เห็นแม่น้ำโขง ฝั่งประเทศ ลาว
จุดตรงนี้สามารถขึ้นถ่ายรูปได้ แต่ต้องระวังด้วยนิดนึง เพราะ ข้างหลังหินลงไปจะเป็นเหวแล้ว แต่ บรรยากาศดีมาก
เสร็จจากที่ดอยผาตั้ง เราก็มาแวะเที่ยว ไร่สตอเบอร์รี่และกะหล่ำปลี ซึ่งอยุ๋ใกล้กันกับดอยผาตั้ง
หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่พัก รับประทานอาหารเย็น ซึ่งทางที่พักเตรียมไว้ให้ด้วย สามารถทานได้เต็มที่จนอิ่มเลย อาหาร อร่อยมาก เจ้าของใจดีมาก ป้าดูแลพวกเราอย่างดี
สำหรับคืนนี้เราก็นอนพักผ่อน โดยตอนเช้า ตี 5.30 นัดรวมพร้อมกันเพื่อขึ้นไปยังภูชี้ฟ้า ดูพระอาทิคย์ขึ้นและทะเลหมอก
เช้าวันที่ 2
ตี 5 .30 เราเริ่มออกเดินทางไปยังภูชี้ฟ้า จะมีรถที่ทางที่พักเตรียมไว้ให้ ไปกลับ คนละ 60 บาท โดยระว่างทางที่ขึ้น จะเป็นทาง
ขึ้นชัน ตลอดทาง
แล้วเราก็มาถึงจุดจอดรถที่ต้องเดินขึ้นเขาต่ออีก ประมาณ 750 เมตร จะมีชาวบ้าน มาขายของตรงทางขึ้น
คือนีที่เดินขึ้นมาไม่มืดมากนักเพราะดวงจันทร์เต็มดวง ทางขึ้นไม่ลำบาก มีขั้นบรรได ขึ้นให้
เดินทางขึ้นยอดเขาโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที แล้วแต่แต่ละคน ว่าจะพักเหนื่อย บ่อยไหม แต่สำหรับเรา เหนื่อยคะ พักหลายรอบ 555
พอขึ้นมาถึงยังมืดอยู่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ขึ้นมาลมเย็นมาก อากาศประมาณ 10 องศา ลมเย็ม ผู้คนเริ่มจับจองพื้นที่ถ่ายรูป แต่เราสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้แต่ยังไม่ชัดมาก ถือว่า ขึ้นมาเหนื่อย พอเจอบรรยากาศข้างบนหายเหนื่อยเลย
แล้วพระอาทิตย์เริ่มขึ้น ทุกอย่างเราเริ่มเห็นชัดมากขึ้น ความสวยงามของธรรมชาติ ทะเลหมอกหนาแน่น ไม่ผิดหวังจริงๆ จากตอนแรกที่คิดไว้ อาจจะไม่เยอะ คือมองในรูปแต่ไ่สวยเท่าเราเห็ยด้วยตาของเราเอง มันสวยมาก
มุมนี้จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบถายมุมนี้มากที่สุด ตรงนี้ ลักษณะปลายภูเขาจะชี้ไปทางฟ้า เลยเรียกกันว่า ภูชี้ฟ้านั้นเอง
ระว่างลงเขา จะมีเด็กชาวเขา มายืนร้องเพลง และเต้นให้พวกเราดู เราก็สามารถเข้าไปถ่ายรูปกับน้องๆได้ แต่เราก็มีให้ค่าขนม น้องๆ ไว้ด้วยแต่ละครั้งที่ถ่ายรูป
หลังจากลงจากภูชี้ฟ้า เรากลับมายังที่พักเพื่อนเตรียมตัวเช็คเอ้าท์ ออก ตอนเช้าทางที่พักจะมีข้าวตมหมูเห็ดหอมเตรียมไว้ให้ด้วย บอกเลบว่าอร่อยมากคะ ติดใจเลย หลังทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เราเตรียมตัวต่อเพื่อเดินทางไปดูดอกพญาเสื้อโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย