ใจหายเหมือนกันที่ในที่สุดก็ปิดฉากลงแล้วกับความสะบักสะบอม ทุลักทุเลแบบที่คนดูเอาใจช่วยจนจะเป็นบ้าไปด้วยของประธานยูจินอู พร้อมกับการวิเคราะห์ วิจารณ์ และจินตนาการต่อรัวๆ กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เราเองก็หลบสปอยล์แทบแย่เพราะตามดูไล่หลังชาวบ้านชาวช่อง 2 วัน บทสรุปของเรื่องทำให้เสียงคนดูแตกออกเป็นสองฝั่ง ทั้งพอใจและไม่พอใจกับตอนจบของเรื่อง สำหรับเราไม่ได้รู้สึกเฟลเท่าใดนัก ด้วยไม่ได้คาดหวังไปทางใดทางหนึ่งเลย เพราะตั้งแต่ตามดูมาก็เหมือนจะจับแนวทางที่เด่นชัดของเนื้อเรื้องไม่ได้สักที แต่ยอมรับว่าเรื่องราวน่าติดตามเสมอต้นเสมอปลายทุกตอน พาให้เราตามดูจนจบแบบไม่คิดเทกลางคัน
:
ทว่าก็เห็นด้วยกับหลายๆ เสียงวิจารณ์ที่ว่าปมต่างๆ เมื่อถูกคลี่คลายก็ยังมีช่องโหว่โผล่มาหลายจุด ถ้านั่งวิคราะห์ไปมาแบบจริงจังก็อาจจะยิ่งพาให้หงุดหงิดขึ้นมาได้เพราะก็จริงอย่างเขาว่า ขุดตรงนั้นก็มีคำถามว่าทำไม ขุดตรงนี้ก็มีคำถามว่าทำไม นี่ดูจบไปบอกเลยก็ยังแอบเอามานั่งคิดแบบสลัดไม่หลุดออกจากหัวสักที เหมือนจบให้คนดูถามหาภาคต่อยังไงยังงั้น ทั้งนี้ถ้าดูแบบไม่ลึกมาก รับชมแค่เพื่อความสนุกอย่างเดียว ก็อาจจะพอรับได้กับการแถไปดื้อๆ ของคนเขียนบทในหลายจุดบอดที่ว่า ก็ถ้าจะบอกว่านี่คือซีรี่ส์แฟนตาซีก็ไม่ผิดที่แกจะละเลงตามแต่ใจ หากก็เป็นธรรมดาที่แฟนซีรี่ส์ซึ่งรอคำตอบในหลายๆ ปมอยู่จะหัวเสียขึ้นมา เราแอบหวังให้ทำเป็นภาค Movie เพราะใช้เวลาสัก 2 ชั่วโมงก็น่าจะเก็บรายละเอียดที่เหลือได้หมด ถ้าเป็นภาค 2 กลัวจะออกทะเลไปไหนๆ แต่ซีรี่ส์เกาหลีเขามีทำเป็นภาค Movie แบบญี่ปุ่นไหม อันนี้ก็ไม่รู้ เลยเป็นคนหนึ่งที่แอบหวังลมๆ แล้งๆ อย่างแฟนซีรี่ส์เรื่องนี้หลายๆ คน ที่ก็อยากเห็นบทสรุปที่คลี่คลายให้เราสบายใจอย่างชัดเจนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
:
เราเองนั้นขอข้ามการวิจารณ์ในจุดที่เป็นตรรกะหนักๆ เหล่านั้นไปก่อน เพราะคนอื่นวิเคราะห์ไว้ดีมากๆ เราก็ยังไปเสพจากเขามาเลยด้วยตัวเองเป็นคนคิดซับซ้อนไม่เก่ง ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว เอาเป็นว่าขอพูดถึงในแง่อื่นซึ่งก็คือเรื่องความรักความสัมพันธ์ระหว่างพระนางแทนละกันค่ะ เห็นบางคนว่านางเอกเราเอาแต่วิ่งตามพระเอกกับร้องไห้ พระเอกไม่เห็นสนใจอะไรเธอ ไม่มีการแสดงความรักต่อกันเท่าไหร่ เราเลยอยากหยิบประเด็นนี้มาตีความตามความเข้าใจของเราดูค่ะ เพราะเราเป็นคนหนึ้งที่มองว่าเรื่องราวระหว่างยูจินอูกับฮีจูน่าสนใจตั้งแต่การวางเงื่อนไขของทั้งคู่แล้ว โดยให้ฝ่ายหนึ่งเป็นชายหนุ่มอายุ 40 ที่ผ่านโลกมามากจนเริ่มระอา กับหญิงสาวที่ยังไม่ประสีประสากับความรัก (ขอตีความเช่นนั้นเพราะไม่มีการกล่าวถึงรักเก่าก่อนของนางเอกเรา หรือถ้าเคยมี ครั้งนี้ก็น่าจะประทับลงในจิตใจเธอมากกว่าครั้งก่อนๆ แน่) คนหนึ่งเหมือนหมาป่ากับอีกคนดังลูกแกะ
:
คราแรกพระเอกก็เข้าหาสาวเจ้าเพื่อผลประโยชน์ในขณะที่อีกฝ่ายนั้นไซร้เข้าใจว่ามีเทพบุตรสุดหล่อยื่นมือเข้าเปลี่ยนชีวิตอันรันทดของเธอให้พลิกกลับหน้ามือเป็นหลังมือ ยิ่งเขามาทำดีนั่นนี่เพิ่มอีก จากประทับใจก็กลายเป็นห่วงใย จนรู้สึกไปถึงว่าได้ตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว ที่กล่าวแบบนี้เพราะเรารู้สึกว่านางเอกตกมาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้มีโอกาสพิจารณาความรู้สึกใดๆ เลยเสียด้วยซ้ำ ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอพระเอก ขณะที่พระเอกยังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เอาจริงๆ คนปกติที่ไหนเห็นก็ต้องว่าเขาบ้า แล้วนางเอกที่เพิ่งรู้จักเขาเอาอะไรมาเชื่อว่าเขาเป็นปกติดี หลายครั้งที่เจอกันพระเอกทำตัวแปลกๆ เหมือนคนสติไม่อยู่กับตัวเองตลอด เป็นเราๆ ก็ต้องตั้งข้อสันนิษฐานในทางเดียวกับคนอื่นเป็นแน่ ซ้ำจะเห็นได้ว่ายังไม่ได้มีเรื่องราวหรือเหตุการณ์ใดให้ทั้งสองได้เชื่อมความผูกพันกันให้เหนียวแน่นขึ้นเลย ถ้ามองแบบไม่เข้าข้างตัวละคร เราว่าเธอตกลงมาอยู่ในห้วงหลงและสับสนชัดเจนมากกว่าห้วงรัก
:
ทั้งนี้ฝ่ายพระเอกเองขอบอกว่าเราไม่แปลกใจเลยกับการแสดงออกต่างๆ ของเขาที่มีต่อนางเอก เรามองว่าคนที่เขาตกหลุมรักแท้จริงน่าจะเป็นเอมม่าในเกมเสียมากกว่า แววตาที่เขามองเอมม่าแต่ละครั้งคือความลุ่มหลง แม้กระทั่งตอนที่อยู่ต่อหน้าเธอด้วยความกลัวตายในซีนสุดท้าย สายตาก็ยังออกไปทางตัดพ้อละห้อยไห้ และความจริงที่ว่าเอมม่าคือภาพเสมือนของฮีจู เขาจึงรู้สึกอ่อนไหวเวลาอยู่กับตัวตนจริงของเธอที่เป็นต้นแบบ เขาเองตอนนี้อยู่ในจุดที่ ' เบื่อ' ความรักอย่างที่พูด แต่เพราะเคราะห์กรรมที่พบเจอ ฮีจูเป็นคนเดียวที่เชื่อในตัวเขา เธอร้องไห้เพราะเขา คอยเป็นห่วงเป็นใยในขณะที่เขาสับสน โดดเดี่ยว หวาดกลัวและขาดกำลังใจ ฮีจูก็ไม่ต่างจากที่พึ่งทางใจสำคัญของเขาในเวลานี้
:
เราว่าความรู้สึกของคนซับซ้อนเกินกว่าจะตัดสินลงไปได้ว่านี่คือรักแล้ว แม้แต่คนที่คบกันมานานปีก็เถอะ ยิ่งจินอูที่อยู่ระหว่างความเป็นตายซ้ำเขาไม่ใช่เด็กหนุ่มที่มีรักแรก เราว่าด้วยวัยนี้ เวลานี้ ความรักสำหรับเขามันไม่ใช่หลักใหญ่ในชีวิต แต่เขารู้ว่ามีคนคอยห่วงใย มีคนที่รักและรอเขา ทั้งยังเชื่อในตัวเขาเวลาที่เขาไม่เหลือใครทำให้จินอูอดไม่ได้ที่จะซึ้งน้ำใจเธอ และถ้าเขามีเวลาในการสานสัมพันธ์กับเธอมากกว่านี้นั่นอาจกลายเป็นรักแท้ในที่สุดก็เป็นได้ ส่วนจะเปลี่ยนเป็นความรักนิรันดร์หรือไม่ ซีรี่ส์ไม่ได้พาเราไปถึงจุดนั้น อันนี้ไม่แน่ใจว่านักเขียนไม่ถนัดแนวรักจริงๆ หรือตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ เพราะเรามองว่าบทของยูจินอูนั้น การกระทำของเขาไม่ได้ออกนอกเส้นคาแรคเตอร์หรือนิสัยของเขาเลย เขายังคงเป็นเขาเสมอต้นเสมอปลาย
:
เราว่าพระเอกเป็นคนเทาๆ ไม่ดีไม่ร้ายอย่างที่เจ้าตัวว่านั่นแหละ ภาคหนึ่งเขาก็เป็นคนมีน้ำใจ ห่วงใยคนรอบตัวที่มีปฏิสัมพันธ์กับตน อย่างตอนห้ามประธานพัคไม่ให้เข้ามาในเกม หรือเสียใจหนักที่เลขาซอต้องมาตายเพราะตัวเอง รวมถึงทีแรกที่ไม่ยอมใช้วิธีพิสูจน์ตัวเองโดยการดึงคนอื่นๆ เข้ามาในเกม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็จะเห็นว่าพระเอกทำได้ทุกทางเพื่อเป้าหมายอย่างที่หลอกนางเอกเซ็นสัญญาในตอนแรก กับช่วงที่พยายามเอาชีวิตรอดจากเรื่องบ้าๆ นี้ให้ได้จนบางครั้งก็เผยมุมเห็นแก่ตัวออกมา เช่นชวนเลขาซอไปกรานาดากับตัวเองจนอีกฝ่ายต้องตาย ซึ่งเพราะคิดถึงแต่เป้าหมาย พระเอกน่าจะลืมคิดไปว่าอีกฝ่ายต้องมาเสี่ยงด้วย ทำให้สุดท้ายเขาต้องมาเสียใจมากกับเรื่องนี้ (คนดูก็ด้วย) หรือท้ายที่สุดก็ดึง ศจ.ชาเข้าในเกม (รายนี้ก็สมควรอยู่เพราะคอยแต่จะทำร้ายพระเอกแบบเอาถึงตายเช่นกัน) ซึ่งเราว่าบทของเขามันค่อนข้างจะเรียลมากๆ เลยในฐานะมนุษย์ปกติที่มีผิดชอบชั่วดี
:
และเพราะมีเรื่องให้เขาต้องคิดเยอะบวกกับไม่ค่อยได้ใส่ใจความรู้สึกใคร เลยไม่แปลกที่แกจะไม่ค่อยนึกถึงใจนางเอก มีซีนบอกคิดถึงแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาโหยหานัก อยากทำอะไรก็ตัดสินใจเองคนเดียวไม่ได้นึกถึงใจคนข้างหลัง บางครั้งก็หายไปเฉยๆ ให้นางเอกได้เที่ยวคอยตามหาไปเรื่อยด้วยความเป็นห่วง ร้องไห้วนไปอยู่ฝ่ายเดียว อย่างตอนที่รับปากนางเอกว่าจะกลับมาในตอนเช้ามืดหลังเคลียร์เรื่องทุกอย่างจบ หากเขาประสบเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่อาจมาตามนัดได้ กระนั้นในที่สุดเขาก็ยังมา แต่มาเพียงยืนมองหน้าต่างบ้านนางเอก ไม่กดออดเรียกนางเอกออกมาหา อาจเพราะคนเขียนบทต้องการเล่นกับหัวใจคนดู หรือเพราะเหตุผลมากมายในใจพระเอกที่มี แต่กระนั้นเราก็ยังมองว่าเขาใจร้ายมาก คนที่รอด้วยความเป็นห่วงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ จะเป็นจะตายมันทรมานมากมายแค่ไหน เหมือนเขาจะไม่ได้นึกถึงใจของคนฝั่งนี้เลย ครั้นบอกรอไปทำให้เรื่องจบแล้วจึงมา ทั้งที่เขาก็รู้ว่าตัวเองอาจต้องตาย นั่นคือจะลาสักคำยังไม่คิดจะมี ไม่ต่างจากตอนที่นางเอกวิ่งตามรถไฟ ด้วยความคิดที่ว่าจะไปจัดการเรื่องตัวเองก่อน เดี๋ยวกลับมาหา หวังว่าเธอจะรออยู่ แล้วเมื่อเห็นว่าเธอรอก็สุขใจในส่วนของตัวเอง ขณะที่นางเอกผู้ไม่รู้ถึงความคิดใดๆ ของเขาก็รอไปๆ อย่างไม่มีจุดหมาย ราวกับพระเอกลองใจว่าเธอจะเชื่อใจเขาได้นานแค่ไหน ถ้ารักก็ต้องรอไปนะ...โหดเหี้ยมแค่ไหนถามใจเธอดู เอาจริงๆ ถ้านางเอกเป็นลูกเป็นหลานนี่ เราก็คงไม่สนับสนุนให้ลงเอยกับพ่อคนนี้แน่ๆ คนที่ทำให้เธอจมจ่อมร้องไห้จนตาบวมทั้งเรื่อง
:
ในส่วนรุ่นพี่คนสนิทของนางเอกที่ทำคนดูหมั่นไส้ด้วยการเป็นตัวขวางระหว่างพระเอกนางเอก มองกลางๆ เราว่าไม่แปลกที่เขาคนนี้จะนึกไม่ชอบพระเอกที่มาทำให้ผู้หญิงที่เขาห่วงใย (หรืออาจจะชอบด้วย) ต้องเสียตัวตน หมดความสดใสที่เคยมีไป ด้วยพื้นครอบครัวที่ต้องเผชิญความลำบากมาตลอดโดยคนทั่วไปเข้าใจว่านางเอกน่าจะสู้ชีวิตและแกร่งกว่านี้ แต่ตลอดเรื่องเราได้เห็นแต่นางเอกที่มีแต่ความอ่อนแอ ซึ่งจุดนี้อาจกล่าวได้ว่าเพราะบทของฮีจูถูกเขียนให้อ่อนเกินไป หรือมองอีกมุมคือนักเขียนต้องการตีความให้แตกต่างจากความเข้าใจเดิมๆ ที่เคยมีมา ด้วยคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว แบกรับทุกอย่าง ความจริงเขาอาจเป็นคนที่อ่อนแอมากเช่นกัน ใช่ว่าคนคนนั้นจะต้องเข้มแข็งเสมอไป เขาอาจกลัว หวั่นไหว แต่เพราะภาระที่บีบบังคับก็ทำให้ต้องก้าวไปข้างหน้าทั้งที่ไม่จำเป็นว่าต้องเข้มแข็งมหาศาลอย่างคนอื่นที่เผชิญโชคชะตาเดียวกัน ยิ่งเพราะนางเอกยังอายุน้อยอยู่ เรื่องการควบคุมอารมณ์ความรู้สึกหรือเข้าใจโลกจึงไม่เจนจัดนัก ที่ผ่านมาก็อาจเพียงหนักหนาในเรื่องเลี้ยงปากท้อง แต่ปัญหาทางใจหนักๆ จนสับสน ว้าวุ่น นี่อาจเป็นครั้งแรกของเธอ
:
การที่ฮีจูมาเจอกับผู้ชายนิสัยแบบพระเอกนี่ สุดท้ายเธอก็อาจต้องอกหักจากพ่อหนุ่มโปรไลฟ์เลิศคนนี้ในที่สุด ลองเปรียบว่าทั้งคู่อยู่ในโลกของคนปกติ เธอจะเป็นฝ่ายเฝ้าติดตาม ห่วงหา คอยโทร.ตามถามไถ่จนกลายเป็นสร้างความรำคาญให้อีกฝ่ายขึ้นมาได้ หรือต่อให้ตอนจบทั้งคู่ได้ลงเอยกันจริงๆ ก็ยังมิอาจบอกได้ว่าพวกเขาจะพาชีวิตคู่ครั้งนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ และถ้ากล่าวถึงในแง่นิสัยของจินอูที่สะท้อนออกมาจากภรรรยาทั้ง 2 คนที่ผ่านมาของเขา ซีรี่ส์อาจไม่ได้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าปัญหากินลึกของเขากับเธอทั้งสองคืออะไร อย่างภรรยาคนแรกอะไรทำให้เธอปันใจไปให้ชาฮยอนซอก ถ้าจะบอกว่าเธอหลายใจเองก็ไม่น่าใช่ทั้งหมด เพราะเธอยังคงแสดงออกถึงความคับแค้นใจและเจ็บปวดเมื่อเจอกับพระเอก (เราว่ามันมีมากพอๆ กับความรู้สึกผิด) คนที่สองก็เหมือนพระเอกจะไม่ค่อยสนใจเธอ หลบลี้หนีหน้า จะด้วยปัญหาสะสมหรือยังไงก็แล้วแต่ แต่ก็ดูเหมือนนางจะแสดงออกถึงความโกรธจนกลายเป็นเกลียดที่ไม่ได้ความสนใจจากพระเอก ตอนดูเราอนุมานได้ว่าพระเอกน่าจะไม่ค่อยให้ความใส่ใจกับคนรักนัก การเลิกราหย่าร้างทั้งสองครั้งนอกจากจะเป็นเพราะฝ่ายหญิง เราเชื่อว่าปัญหาก็มาจากพระเอกด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นทำให้เราไม่แปลกใจที่เขาจะดูไม่ค่อยสนใจกับเรื่องความรักความใคร่เท่าใดนัก แม้กับนางเอกเองที่เขาก็รู้สึกดีด้วย เหมือนที่ว่าผู้หญิงรักก็ให้ 100 ไปแล้ว ส่วนผู้ชายยังหลัก 10 อยู่ ยูจินอูเพียบพร้อมทั้งรูปลักษณ์และโปรไฟล์เป็นชายในฝันสำหรับผู้หญิง แต่เขาอาจจะไม่ใช่คนรักหรือสามีที่ดีนัก
ความรักของยูจินอู (จากมุมมองหนึ่ง)
:
ทว่าก็เห็นด้วยกับหลายๆ เสียงวิจารณ์ที่ว่าปมต่างๆ เมื่อถูกคลี่คลายก็ยังมีช่องโหว่โผล่มาหลายจุด ถ้านั่งวิคราะห์ไปมาแบบจริงจังก็อาจจะยิ่งพาให้หงุดหงิดขึ้นมาได้เพราะก็จริงอย่างเขาว่า ขุดตรงนั้นก็มีคำถามว่าทำไม ขุดตรงนี้ก็มีคำถามว่าทำไม นี่ดูจบไปบอกเลยก็ยังแอบเอามานั่งคิดแบบสลัดไม่หลุดออกจากหัวสักที เหมือนจบให้คนดูถามหาภาคต่อยังไงยังงั้น ทั้งนี้ถ้าดูแบบไม่ลึกมาก รับชมแค่เพื่อความสนุกอย่างเดียว ก็อาจจะพอรับได้กับการแถไปดื้อๆ ของคนเขียนบทในหลายจุดบอดที่ว่า ก็ถ้าจะบอกว่านี่คือซีรี่ส์แฟนตาซีก็ไม่ผิดที่แกจะละเลงตามแต่ใจ หากก็เป็นธรรมดาที่แฟนซีรี่ส์ซึ่งรอคำตอบในหลายๆ ปมอยู่จะหัวเสียขึ้นมา เราแอบหวังให้ทำเป็นภาค Movie เพราะใช้เวลาสัก 2 ชั่วโมงก็น่าจะเก็บรายละเอียดที่เหลือได้หมด ถ้าเป็นภาค 2 กลัวจะออกทะเลไปไหนๆ แต่ซีรี่ส์เกาหลีเขามีทำเป็นภาค Movie แบบญี่ปุ่นไหม อันนี้ก็ไม่รู้ เลยเป็นคนหนึ่งที่แอบหวังลมๆ แล้งๆ อย่างแฟนซีรี่ส์เรื่องนี้หลายๆ คน ที่ก็อยากเห็นบทสรุปที่คลี่คลายให้เราสบายใจอย่างชัดเจนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
:
เราเองนั้นขอข้ามการวิจารณ์ในจุดที่เป็นตรรกะหนักๆ เหล่านั้นไปก่อน เพราะคนอื่นวิเคราะห์ไว้ดีมากๆ เราก็ยังไปเสพจากเขามาเลยด้วยตัวเองเป็นคนคิดซับซ้อนไม่เก่ง ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว เอาเป็นว่าขอพูดถึงในแง่อื่นซึ่งก็คือเรื่องความรักความสัมพันธ์ระหว่างพระนางแทนละกันค่ะ เห็นบางคนว่านางเอกเราเอาแต่วิ่งตามพระเอกกับร้องไห้ พระเอกไม่เห็นสนใจอะไรเธอ ไม่มีการแสดงความรักต่อกันเท่าไหร่ เราเลยอยากหยิบประเด็นนี้มาตีความตามความเข้าใจของเราดูค่ะ เพราะเราเป็นคนหนึ้งที่มองว่าเรื่องราวระหว่างยูจินอูกับฮีจูน่าสนใจตั้งแต่การวางเงื่อนไขของทั้งคู่แล้ว โดยให้ฝ่ายหนึ่งเป็นชายหนุ่มอายุ 40 ที่ผ่านโลกมามากจนเริ่มระอา กับหญิงสาวที่ยังไม่ประสีประสากับความรัก (ขอตีความเช่นนั้นเพราะไม่มีการกล่าวถึงรักเก่าก่อนของนางเอกเรา หรือถ้าเคยมี ครั้งนี้ก็น่าจะประทับลงในจิตใจเธอมากกว่าครั้งก่อนๆ แน่) คนหนึ่งเหมือนหมาป่ากับอีกคนดังลูกแกะ
:
คราแรกพระเอกก็เข้าหาสาวเจ้าเพื่อผลประโยชน์ในขณะที่อีกฝ่ายนั้นไซร้เข้าใจว่ามีเทพบุตรสุดหล่อยื่นมือเข้าเปลี่ยนชีวิตอันรันทดของเธอให้พลิกกลับหน้ามือเป็นหลังมือ ยิ่งเขามาทำดีนั่นนี่เพิ่มอีก จากประทับใจก็กลายเป็นห่วงใย จนรู้สึกไปถึงว่าได้ตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว ที่กล่าวแบบนี้เพราะเรารู้สึกว่านางเอกตกมาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้มีโอกาสพิจารณาความรู้สึกใดๆ เลยเสียด้วยซ้ำ ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอพระเอก ขณะที่พระเอกยังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เอาจริงๆ คนปกติที่ไหนเห็นก็ต้องว่าเขาบ้า แล้วนางเอกที่เพิ่งรู้จักเขาเอาอะไรมาเชื่อว่าเขาเป็นปกติดี หลายครั้งที่เจอกันพระเอกทำตัวแปลกๆ เหมือนคนสติไม่อยู่กับตัวเองตลอด เป็นเราๆ ก็ต้องตั้งข้อสันนิษฐานในทางเดียวกับคนอื่นเป็นแน่ ซ้ำจะเห็นได้ว่ายังไม่ได้มีเรื่องราวหรือเหตุการณ์ใดให้ทั้งสองได้เชื่อมความผูกพันกันให้เหนียวแน่นขึ้นเลย ถ้ามองแบบไม่เข้าข้างตัวละคร เราว่าเธอตกลงมาอยู่ในห้วงหลงและสับสนชัดเจนมากกว่าห้วงรัก
:
ทั้งนี้ฝ่ายพระเอกเองขอบอกว่าเราไม่แปลกใจเลยกับการแสดงออกต่างๆ ของเขาที่มีต่อนางเอก เรามองว่าคนที่เขาตกหลุมรักแท้จริงน่าจะเป็นเอมม่าในเกมเสียมากกว่า แววตาที่เขามองเอมม่าแต่ละครั้งคือความลุ่มหลง แม้กระทั่งตอนที่อยู่ต่อหน้าเธอด้วยความกลัวตายในซีนสุดท้าย สายตาก็ยังออกไปทางตัดพ้อละห้อยไห้ และความจริงที่ว่าเอมม่าคือภาพเสมือนของฮีจู เขาจึงรู้สึกอ่อนไหวเวลาอยู่กับตัวตนจริงของเธอที่เป็นต้นแบบ เขาเองตอนนี้อยู่ในจุดที่ ' เบื่อ' ความรักอย่างที่พูด แต่เพราะเคราะห์กรรมที่พบเจอ ฮีจูเป็นคนเดียวที่เชื่อในตัวเขา เธอร้องไห้เพราะเขา คอยเป็นห่วงเป็นใยในขณะที่เขาสับสน โดดเดี่ยว หวาดกลัวและขาดกำลังใจ ฮีจูก็ไม่ต่างจากที่พึ่งทางใจสำคัญของเขาในเวลานี้
:
เราว่าความรู้สึกของคนซับซ้อนเกินกว่าจะตัดสินลงไปได้ว่านี่คือรักแล้ว แม้แต่คนที่คบกันมานานปีก็เถอะ ยิ่งจินอูที่อยู่ระหว่างความเป็นตายซ้ำเขาไม่ใช่เด็กหนุ่มที่มีรักแรก เราว่าด้วยวัยนี้ เวลานี้ ความรักสำหรับเขามันไม่ใช่หลักใหญ่ในชีวิต แต่เขารู้ว่ามีคนคอยห่วงใย มีคนที่รักและรอเขา ทั้งยังเชื่อในตัวเขาเวลาที่เขาไม่เหลือใครทำให้จินอูอดไม่ได้ที่จะซึ้งน้ำใจเธอ และถ้าเขามีเวลาในการสานสัมพันธ์กับเธอมากกว่านี้นั่นอาจกลายเป็นรักแท้ในที่สุดก็เป็นได้ ส่วนจะเปลี่ยนเป็นความรักนิรันดร์หรือไม่ ซีรี่ส์ไม่ได้พาเราไปถึงจุดนั้น อันนี้ไม่แน่ใจว่านักเขียนไม่ถนัดแนวรักจริงๆ หรือตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ เพราะเรามองว่าบทของยูจินอูนั้น การกระทำของเขาไม่ได้ออกนอกเส้นคาแรคเตอร์หรือนิสัยของเขาเลย เขายังคงเป็นเขาเสมอต้นเสมอปลาย
:
เราว่าพระเอกเป็นคนเทาๆ ไม่ดีไม่ร้ายอย่างที่เจ้าตัวว่านั่นแหละ ภาคหนึ่งเขาก็เป็นคนมีน้ำใจ ห่วงใยคนรอบตัวที่มีปฏิสัมพันธ์กับตน อย่างตอนห้ามประธานพัคไม่ให้เข้ามาในเกม หรือเสียใจหนักที่เลขาซอต้องมาตายเพราะตัวเอง รวมถึงทีแรกที่ไม่ยอมใช้วิธีพิสูจน์ตัวเองโดยการดึงคนอื่นๆ เข้ามาในเกม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็จะเห็นว่าพระเอกทำได้ทุกทางเพื่อเป้าหมายอย่างที่หลอกนางเอกเซ็นสัญญาในตอนแรก กับช่วงที่พยายามเอาชีวิตรอดจากเรื่องบ้าๆ นี้ให้ได้จนบางครั้งก็เผยมุมเห็นแก่ตัวออกมา เช่นชวนเลขาซอไปกรานาดากับตัวเองจนอีกฝ่ายต้องตาย ซึ่งเพราะคิดถึงแต่เป้าหมาย พระเอกน่าจะลืมคิดไปว่าอีกฝ่ายต้องมาเสี่ยงด้วย ทำให้สุดท้ายเขาต้องมาเสียใจมากกับเรื่องนี้ (คนดูก็ด้วย) หรือท้ายที่สุดก็ดึง ศจ.ชาเข้าในเกม (รายนี้ก็สมควรอยู่เพราะคอยแต่จะทำร้ายพระเอกแบบเอาถึงตายเช่นกัน) ซึ่งเราว่าบทของเขามันค่อนข้างจะเรียลมากๆ เลยในฐานะมนุษย์ปกติที่มีผิดชอบชั่วดี
:
และเพราะมีเรื่องให้เขาต้องคิดเยอะบวกกับไม่ค่อยได้ใส่ใจความรู้สึกใคร เลยไม่แปลกที่แกจะไม่ค่อยนึกถึงใจนางเอก มีซีนบอกคิดถึงแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาโหยหานัก อยากทำอะไรก็ตัดสินใจเองคนเดียวไม่ได้นึกถึงใจคนข้างหลัง บางครั้งก็หายไปเฉยๆ ให้นางเอกได้เที่ยวคอยตามหาไปเรื่อยด้วยความเป็นห่วง ร้องไห้วนไปอยู่ฝ่ายเดียว อย่างตอนที่รับปากนางเอกว่าจะกลับมาในตอนเช้ามืดหลังเคลียร์เรื่องทุกอย่างจบ หากเขาประสบเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่อาจมาตามนัดได้ กระนั้นในที่สุดเขาก็ยังมา แต่มาเพียงยืนมองหน้าต่างบ้านนางเอก ไม่กดออดเรียกนางเอกออกมาหา อาจเพราะคนเขียนบทต้องการเล่นกับหัวใจคนดู หรือเพราะเหตุผลมากมายในใจพระเอกที่มี แต่กระนั้นเราก็ยังมองว่าเขาใจร้ายมาก คนที่รอด้วยความเป็นห่วงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ จะเป็นจะตายมันทรมานมากมายแค่ไหน เหมือนเขาจะไม่ได้นึกถึงใจของคนฝั่งนี้เลย ครั้นบอกรอไปทำให้เรื่องจบแล้วจึงมา ทั้งที่เขาก็รู้ว่าตัวเองอาจต้องตาย นั่นคือจะลาสักคำยังไม่คิดจะมี ไม่ต่างจากตอนที่นางเอกวิ่งตามรถไฟ ด้วยความคิดที่ว่าจะไปจัดการเรื่องตัวเองก่อน เดี๋ยวกลับมาหา หวังว่าเธอจะรออยู่ แล้วเมื่อเห็นว่าเธอรอก็สุขใจในส่วนของตัวเอง ขณะที่นางเอกผู้ไม่รู้ถึงความคิดใดๆ ของเขาก็รอไปๆ อย่างไม่มีจุดหมาย ราวกับพระเอกลองใจว่าเธอจะเชื่อใจเขาได้นานแค่ไหน ถ้ารักก็ต้องรอไปนะ...โหดเหี้ยมแค่ไหนถามใจเธอดู เอาจริงๆ ถ้านางเอกเป็นลูกเป็นหลานนี่ เราก็คงไม่สนับสนุนให้ลงเอยกับพ่อคนนี้แน่ๆ คนที่ทำให้เธอจมจ่อมร้องไห้จนตาบวมทั้งเรื่อง
:
ในส่วนรุ่นพี่คนสนิทของนางเอกที่ทำคนดูหมั่นไส้ด้วยการเป็นตัวขวางระหว่างพระเอกนางเอก มองกลางๆ เราว่าไม่แปลกที่เขาคนนี้จะนึกไม่ชอบพระเอกที่มาทำให้ผู้หญิงที่เขาห่วงใย (หรืออาจจะชอบด้วย) ต้องเสียตัวตน หมดความสดใสที่เคยมีไป ด้วยพื้นครอบครัวที่ต้องเผชิญความลำบากมาตลอดโดยคนทั่วไปเข้าใจว่านางเอกน่าจะสู้ชีวิตและแกร่งกว่านี้ แต่ตลอดเรื่องเราได้เห็นแต่นางเอกที่มีแต่ความอ่อนแอ ซึ่งจุดนี้อาจกล่าวได้ว่าเพราะบทของฮีจูถูกเขียนให้อ่อนเกินไป หรือมองอีกมุมคือนักเขียนต้องการตีความให้แตกต่างจากความเข้าใจเดิมๆ ที่เคยมีมา ด้วยคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว แบกรับทุกอย่าง ความจริงเขาอาจเป็นคนที่อ่อนแอมากเช่นกัน ใช่ว่าคนคนนั้นจะต้องเข้มแข็งเสมอไป เขาอาจกลัว หวั่นไหว แต่เพราะภาระที่บีบบังคับก็ทำให้ต้องก้าวไปข้างหน้าทั้งที่ไม่จำเป็นว่าต้องเข้มแข็งมหาศาลอย่างคนอื่นที่เผชิญโชคชะตาเดียวกัน ยิ่งเพราะนางเอกยังอายุน้อยอยู่ เรื่องการควบคุมอารมณ์ความรู้สึกหรือเข้าใจโลกจึงไม่เจนจัดนัก ที่ผ่านมาก็อาจเพียงหนักหนาในเรื่องเลี้ยงปากท้อง แต่ปัญหาทางใจหนักๆ จนสับสน ว้าวุ่น นี่อาจเป็นครั้งแรกของเธอ
:
การที่ฮีจูมาเจอกับผู้ชายนิสัยแบบพระเอกนี่ สุดท้ายเธอก็อาจต้องอกหักจากพ่อหนุ่มโปรไลฟ์เลิศคนนี้ในที่สุด ลองเปรียบว่าทั้งคู่อยู่ในโลกของคนปกติ เธอจะเป็นฝ่ายเฝ้าติดตาม ห่วงหา คอยโทร.ตามถามไถ่จนกลายเป็นสร้างความรำคาญให้อีกฝ่ายขึ้นมาได้ หรือต่อให้ตอนจบทั้งคู่ได้ลงเอยกันจริงๆ ก็ยังมิอาจบอกได้ว่าพวกเขาจะพาชีวิตคู่ครั้งนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ และถ้ากล่าวถึงในแง่นิสัยของจินอูที่สะท้อนออกมาจากภรรรยาทั้ง 2 คนที่ผ่านมาของเขา ซีรี่ส์อาจไม่ได้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าปัญหากินลึกของเขากับเธอทั้งสองคืออะไร อย่างภรรยาคนแรกอะไรทำให้เธอปันใจไปให้ชาฮยอนซอก ถ้าจะบอกว่าเธอหลายใจเองก็ไม่น่าใช่ทั้งหมด เพราะเธอยังคงแสดงออกถึงความคับแค้นใจและเจ็บปวดเมื่อเจอกับพระเอก (เราว่ามันมีมากพอๆ กับความรู้สึกผิด) คนที่สองก็เหมือนพระเอกจะไม่ค่อยสนใจเธอ หลบลี้หนีหน้า จะด้วยปัญหาสะสมหรือยังไงก็แล้วแต่ แต่ก็ดูเหมือนนางจะแสดงออกถึงความโกรธจนกลายเป็นเกลียดที่ไม่ได้ความสนใจจากพระเอก ตอนดูเราอนุมานได้ว่าพระเอกน่าจะไม่ค่อยให้ความใส่ใจกับคนรักนัก การเลิกราหย่าร้างทั้งสองครั้งนอกจากจะเป็นเพราะฝ่ายหญิง เราเชื่อว่าปัญหาก็มาจากพระเอกด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นทำให้เราไม่แปลกใจที่เขาจะดูไม่ค่อยสนใจกับเรื่องความรักความใคร่เท่าใดนัก แม้กับนางเอกเองที่เขาก็รู้สึกดีด้วย เหมือนที่ว่าผู้หญิงรักก็ให้ 100 ไปแล้ว ส่วนผู้ชายยังหลัก 10 อยู่ ยูจินอูเพียบพร้อมทั้งรูปลักษณ์และโปรไฟล์เป็นชายในฝันสำหรับผู้หญิง แต่เขาอาจจะไม่ใช่คนรักหรือสามีที่ดีนัก