ถึงตอนนี้ก็จะ 4 ปีแล้ว ตอนนั้นชอบยังไง ตอนนี้ก็ยังชอบอย่างนั้น
ยืมแอคเพื่อนมาตั้งนะคะ...และขออนุญาตใช้พื้นนี้เก็บความทรงจำเผื่อวันนึง คนคนนี้เขาจะบังเอิญมาเห็นและอาจจะยิ้ม หัวเราะ หรือ งงเพราะไม่เข้าใจ ที่อะไรจะขนาดนี้
เราแอบชอบคนคนหนึ่งมา...จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังใช้คำว่าเราแอบชอบเขา...บอกก่อนว่าคนเขียนกระทู้นี้เป็นผู้หญิง คนที่คนเขียนบอกว่าแอบชอบ เขาก็เป็นผู้หญิง ... ยืมแอคเพื่อนมาโพสแต่หลังจากนี้ขอใช้คำว่า จขกท. เนอะ ...
เขาคนนั้นแก่กว่า จขกท. 9 ปี แต่แปลกที่ จขกท. แอบชอบเขามากๆ จนดูเหมือนโรคจิต คนนั้นมีอาชีพเป็นครู...ใช่แล้วเราแอบชอบครูตัวเอง...เขาแค่บังเอิญมาสอนในโรงเรียนที่เราเรียน...จำได้ไม่เคยลืมครั้งแรกที่เจอ ก็คือ ในคาบแรกที่เขามาสอนในห้องเรียนนั่นแหล่ะ ช่วงนั้นเป็นเด็กกิจกรรม เลยเข้าห้องคนสุดท้ายและเขาคนนั้นก้เข้ามาแนะนำตัวอยู่ว่าจะมาสอนวิชา...และเขาก็เล่าไปจนบังเอิญอีกว่า โรงเรียนเดิมที่เขาสอนคือโรงเรียนที่น้อง จขกท. เรียนอยู่ในปัจจุบันตอนนั้น ตอนนั้นก็แค่คิดว่า เราอาจจะแค่เคยเจอกันในโรงเรียนของน้องมั้ง..หรืออาจไม่เคยเจอ ไม่เคยรู้จักกันสักหน่อย ก็เฉยๆ...ด้วยความที่เป็นเด็กกิจกรรมก็จะช่วยงานครูบ่อยๆ คนๆนั้นก็เลยใช้เราบ้าง ใช้นู้น ใช้นี่ จนเริ่มสนิทกัน...และคุยกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เคยได้ไลน์คุยเลย (อาจเป็นเพราะเขาเป็นครู ไม่จำเป็นต้องมีไลน์นักเรียนอย่างเรา) จนวันนึงตัดสินใจเดินเข้าหมวดที่เขาสอนและไปยืนหน้าโต๊ะเขา พร้อมพูดว่า "ครู...หนูขอไลน์หน่อย" เขางง แต่ เขาไม่ให้ 55555555 เริ่มรู้สึกผิดหวังและอยากจะได้ไลน์ครูคนนี้มาให้ได้ จะได้คุยรึไม่ได้คุยไม่รู้แต่ต้องได้...อีกสองวัน ทำโทรศัพท์หาย หายจริงๆ ได้แต่หน้าซึมและเดินเข้าไปส่งงานที่โต๊ะครูอีกคน แต่..บาปบุญ เดินผ่านโต๊ะเขาและ คนที่ทักคือ คนคนนี้ (ตอนนั้นดีใจสุด) เขาถามเราว่า เราเป็นอะไรรึป่าว ทำไมดูซึมๆ ... ^^ (ไม่รู้นะ แต่ในตอนนั้น คือดีใจมากๆที่เขาถามเรา) เราเลยตอบว่า ทำโทรศัพท์หายและเขาก็หัวเราะเหมือนสมน้ำหน้า ...แต่ ก่อนเราเดินออกเขาก็บอกว่า ถ้าหาเจอหรือซื้อใหม่ มาเอาไลน์ฉันนะ...เราก็หันไปมองหน้าเขาทันที ดีใจมากๆ แต่ต้องเก็บอาการ พ้นห้องหมวด วิ่งอย่างไวไป ยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโรงเรียนแล้วพูดว่า ขอให้เจอโทรศัพท์ แล้วจะวิ่งแก้บน 50 รอบ...บาปบุญ ได้โทรศัพท์คืนจริงๆในวันนั้น พอได้คืน ก็วิ่งกลับไปหมวดที่เขานั่ง รีบคลานเข่าเข้าไปแอดไลน์ และเขาก็ให้ไลน์เราจริงๆ ดีใจมากกกกกกกก เหมือนฝันเป็นจริงง ทันใดที่ดีใจนั้นเอง ครูอีกคนใช้ให้ไปถ่ายเอกสาร เราก็เอาเอกสารไปถ่ายให้อีกตึก เปิดประตูออกปุ๊บ คนนั้นเขาไลน์มาบอกว่า "กลับมาเดี๋ยวถ่ายรูปคู่กัน" นี่คือบทสนทนาแรกที่เราคุยกัน ณ จุดๆนั้น กรี๊ดลั่นนจนเพื่อนด่า ;) และงง ว่าเป็นอะไร...แต่ช่างมัน รีบไปถ่ายเอกสาร รีบกลับมาถ่ายรูปคู่ดีกว่า พอกลับมากลายเป็นว่าก็ไม่ได้ถ่ายรูป...เพราะหมดเวลาพักกลางวัน แรกๆในไลน์ไม่ได้คุยกันมาก จะมีก็แค่ เขาฝากทวงงานเพื่อนในห้อง...และเราก็ยินดีที่จะทวงให้ ตอนนั้นเราเริ่มทำทุกอย่างที่จะได้เจอเขา ได้คุยกับเขา ยอมทำการบ้านให้เพื่อนที่เขาทวง ก็ทำให้เพื่อจะขอเพื่อนเอาไปส่งเขาเอง ทั้งๆที่ไม่ใช่งานตัวเอง ตอนนั้นเรากับเขาก็จะสนิทกันมากขึ้น คุยไลน์บ่อยขึ้น เขาฝากซื้อกาแฟอเมซอนเกือบทุกเช้า ก่อนไปโรงเรียน เราก็แวะปั๊ม
ปตท. ซื้อไปตั้งไว้ที่โต๊ะทุกวัน จนความสนิทมันมีมากกว่าความสนิท รู้สึกดีเวลาเขาด่า ไม่เคยโกรธเลยสักนิด ที่เขาด่า เขาตี เรา 55555555 เวลาสอบกลางภาค/ปลายภาค ก็ตั้งใจทำวิชาเขามากที่สุด เพื่อนจะได่คะแนน Top ของห้อง ซึ่งก็เป็นวิชาเดียวที่ได้จริงๆ ตั้งแต่นั้นมาก็รู้สึกอยากเจอเขา เขาเห็นหน้าเขาทุกวัน กลับบ้าน ไปเรียนพิเศษ ก็ทักไลน์คุยกับเขาก่อนตลอด และเขาก็คุยด้วยจนถึงตอนนอน (ถึงตอนนี้อน่าเข้าใจผิดว่าเป็นครูนักเรียนรักกันในทางชู้สาวเน้อ คุยกันปกติ เรื่องของเพื่อนในห้อง คนนั้น คนนี้) พอได้คุยก็กลับบ้านมานอนนึกและยิ้ม และเขิน อยู่คนเดียว มองอะไรก็แง่ดีไปหมด แค่ขอให้ได้คุยกับเขาทุกวันในนี้ แต่ในจุดๆนึงก็ทำให้ไม่กล้ามองหน้าเขาหรือคุยกับเขาในเวลาเจอตัวจริงๆ กลายเป็นว่าเราเขิน เขินมากๆ จนไม่กล้าสบตา และเขาก็มาถามในไลน์ว่าเราเป็นอะไร เวลาเจอหน้ากัน...แต่นั่นก็ทำให้เรายิ่งชอบเขามากๆ ทำทุกอย่างเลย ทุกเทศกาล ปีใหม่ วาเลนไทน์ วันครู วันแม่ คือ เก็บตังซื้อของให้เขา ส่วนมากเป็นตุ๊กตา ที่ตัวใหญ่ขึ้นทุกเทศกาล แต่ดันไม่กล้าเอาไปให้เอง แอบเอาไปวางที่โต๊ะเขาบ้าง ยอมรับกับครูอีกคนว่าชอบครูคนนี้มากๆ จนครูคนนั้นยอมเป็นคนที่ถือตุ๊กตาแล้วเอาไปให้และก็ช่วยให้เรากับเขาถ่ายรูปคู่กันแบบดีๆได้ครั้งแรก
ครั้งแรกที่ถ่ายด้วยกันคือตอนที่โรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่สุพรรณ แต่เขากลับนั่งรอเด็กในระหว่างที่เดินดูนิทรรศการ เราเลยใจกล้าไปขอถ่ายแต่รูปก็พังมากๆ และช่วงที่ไปสุพรรณ แวะตลาดสามชุกจะมีคนถ่ายรูปก่อนเข้าตลาด เขาโดนตากล้องแอบถ่ายและเอาไปใส่กรอบตลาดสามชุก ซึ่งคนที่ซื้อนั้นก็คือเราเองแหล่ะ หาตั้งนาน ถึงจะเป็นรุปหลุดแต่ก้ดีใจที่จะได้มีรุปไว้วางบนหัวเตียงที่บ้าน แต่แล้วก็เผลอพิมไปในไลน์เขาว่าซื้อรูปนี้มา สุดท้ายพอถึงโรงเรียนก็เดินเอาไปให้เขาทั้งกรอบ...แอบเสียดายแต่ก็เอาเถอะ ถือว่าให้ของขวัญเขาที่ไม่ใช่ตุ๊กตาบ้าง
มันก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ สนิทกัน จนจบการศึกษาเราก็ขึ้นอีก ม. ที่เขาไม่ได้สอน เรากลัวว่าจะไม่ได้คุยกันอีกเลยเราเลยเลือกหาวิธีที่ทำไงก็ได้ให้เราต้องคุยกับเขาต่อไปให้ได้จนเราเรียนจบจากที่นี่และเราก็ตัดสินใจ ไปหาตารางสอนที่เขาต้องสอนและที่เขาเป็นครูประจำชั้น เราก็ไปตีสนิทกับเด็กในห้องนั้น จนน้องในห้องนั้นรู้จักกับเราทุกคน เขาก็เข้าใจว่าเรารู้จักน้องๆในห้องเขามานานแล้ว (ป่าวหลอก รู้จักกันตอนนั้นแหล่ะ) เริ่มให้น้องไปขอไอดีไลน์ (สำรองไว้เผื่อวันไหนไลน์เขาหาย จะได้รู้) และน้องก็ไปขอมาให้จนได้ (ขอได้ง่ายมากจนนึกถึงตัวเองตอนที่ขอ เพราะได้มายากมากๆ งงมาก ทำไมได้ง่ายจัง)พอได้ไลน์ ได้ไอดีไลน์ เริ่มหา Facebook กับ IG เขา หาทุกอย่างที่เป็นเขา หาวันเกิด หาของที่เขาชอบ และเราก็ทำทุกอย่าง ทุกวิธีที่ทำให้เราจะได้เข้าหมวดที่เป็นห้องพักครู ซึ่งก็ได้ผลดีเพราะไปตีสนิทกับครูหัวหน้าหมวดจนเข้าไปนั่งเล่นในห้องหมวดนั้นได้ ทุกครั้งที่เรารู้ว่าเขามีสอนห้องไหน เราจะวิ่งไปห้องนั้นเพื่อให้ได้เห็น ได้เจอเขา สร้างความบังเอิญแบบตั้งใจสุดๆ ทั้งๆที่พอ
กลับมาเข้าห้องเรียนตัวเองจะโดนทำโทษ 55555555 ก็ยังไป จะได้มีกำลังใจในการเรียน แต่เราก็คุยไลน์ไม่เคยขาดสักวัน เถียงกันบ้าง ยิ้มไปพิมไป เขินตลอดการคุย ยอมทุกอย่างจนกระทั่งเขางอนอะไรสักอย่าง เราก็สั่งดอกไม้มาให้ส่งที่โรงเรียนและเขาก็หายงอน (ดีใจที่เขารับดอกไม้จากเรา) หาวันรับปริญญาของเขาพอถึงวันก็แอบไปทั้งๆที่เขาไม่ได้ชวน ไปโดยไม่เจอเขาว่าเขาไปอยู่ตรงไหน ยืนตรงไหน และไปโดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าเราไป เลยเดินไปซื้อปากกาเคมี และลูกโป่งลอยๆ ที่เป็นอักษร ซื้อ ทั้งหมด 7 ลูก เรียงเป็นชื่อเขา เขียนคำอวยพรบนลูกโป่ง และปล่อยขึ้นฟ้า ไม่รู้เลยว่าเขาจะเห็นมั้ย ไม่รู้เลยว่าเขาจะรู้มั้ยว่าที่ลอยอยู่คือลูกโป่งของเราที่ตั้งใจให้เขา ก็ปล่อยเสร็จขับมอไซต์กลับบ้าน พร้อมไลน์ไปยินดีที่รับปริญญาโดยไม่ได้บอกสักคำว่าเราไปมานะ...ผ่านไปอีกวัน ก็คุยไปเรื่อยๆทุกวัน สรรพนามที่คุยก็เรียกเขาว่า ครู แทนตัวเองเป็นชื่อเล่นตัวเอง
จน...วันนึง น้องที่เขาเป็นครูประจำชั้นมา มาบอกเราว่า ครูเขาจะย้ายโรงเรียนสอนเทอมหน้า...คือเราช็อคมาก ปีหน้าอีกปีจะทำยังไงดี เราจะไม่ได้เจอเขาในโรงเรียนอีกแล้ว ทั้งบน ทั้งภาวนาให้เขาไม่ได้ไป ไม่ได้ แต่ครั้งนี้ไม่มีปาฏิหารย์เกิด เขาต้องไปจริงๆเราก็ไลน์รัวๆไปหาเขาทุกวันจนใจกล้าถามว่า จะต้องไปจริงๆเหรอ เขาก็ถามว่า รู้แล้วเหรอ...ฉันก็ต้องไปอ่ะ หมดเวลาของฉันแล้ว
แต่นั่นเราก็ไม่ท้อ เรายิ่งอยากคุยกับทุกวันๆๆ และเขาก็คุยกับเราทุกวัน จนวันที่เขาออกจากโรงเรียนจริงๆเขาก็ยังคุย และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ได้ไปเที่ยวกับเขาสองคนเป็นครั้งแรก...เขาบอกว่าที่กล้าพาเราไปเพราะเขาไม่ได้อยู่ในฐานะครูในโรงเรียนที่เราเรียนแล้ว มันไม่น่าเกลียด ^^ จนวันนึงเขาถามเราว่า เราคิดกับเขายังไง เราเลยบอกว่า เราชอบเขา ชอบแบบไม่ต้องการเป็นแฟน แต่อยู่แบบนี้ อยู่ด้วยกัน คุยกันไปแบบนี้ ไปเที่ยวกันสองคนแบบนี้ ไปเรื่อยๆ เลยได้มั้ย เขายิ้ม และบอกว่า ถ้าอะไรเกิดขึ้นเขาก็เลือกครอบครัวเขา หมายถึงว่า ก็ไปเรื่อยๆแบบนี้ ได้ แต่ถ้าวันนึงครอบครัวเขามีปัญหา และเรามีปัญหา เขาก็จะเลือกครอบครัว (เขาจะเทเรานั่นแหล่ะ TT) แต่เราก็เข้าใจ เราก็บอกเขาว่า ได้หมด อยู่แบบนี้แบบไม่สถานะก็ได้ ให้เป็นน้องก็ได้ จนถึงปัจจุบัน ตอนนี้เราเรียกเขาว่าพี่...และเขาก็ให้เราเป็นน้อง
ที่เขียนมายาวๆขนาดนี้ นอกจากอยากบันทึกไว้ แล้วยังอยากบอกความรู้สึกที่ไม่เคยบอกอีกว่า...
"เค้าคิดกับยูมากกว่าพี่มานานแล้วแต่ถ้ายูให้เค้าแค่นี้ก็ไม่เป็นไร ความรู้สึกในใจเค้ายังไงก็เป็นเหมือนเดิม จนถึงวันนี้เกือบ 4 ปีแล้วที่เราเจอ คุย รู้จักกัน แต่ความรู้สึกเค้าไม่เคยลดเลยมันเพิ่มมากขึ้นอีกรักยังไง ก็เพิ่มมากขึ้นเท่าตัว เค้าพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อยูเสมอ หลังๆยูพูดกับเค้าเสมอว่าอาจจะถึงเวลาแล้วยูอยากมีครอบครัว มีลูก ซึ่งยูไม่รู้ว่าถ้าถึงจุดๆนั้น ยูกับเค้าจะยังไงกัน แต่เค้าก็ทำหูทวนลมตลอด เค้าก็บอกตรงนี้ว่าเค้าไม่รู้ว่าอนาคตเป็นยังไง แต่เค้าก็คงแอบชอบ แอบบอกรักยูแบบนี้ เค้าก็ Support ยูทุกอย่างเหมือนเคย ทุกอย่างที่ยูจะทำ ขอโทษด้วยที่บางครั้งเค้าอาจจะสาระแนแบบที่ยูเคยบอก แต่เพราะเค้าห่วงจริงๆ เราเริ่มต้นรู้จักกันจากการที่เป็นลูกศิษย์กับครู มันเลยยากที่ยูจะเลือกเค้า เค้าอยากให้ยูสมหวังแบบที่ยูคิดนะ...ขอบคุณที่ยูก็เคยทำเพื่อเค้า ยูยอมมีเค้าในชีวิตทั้งๆที่ไม่จำเป็น ขอบคุณนะ... ที่เค้าเล่าทุกอย่างได้เหมือนที่เค้าพิมมา เพราะเค้าจำได้ทุกช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน คุยกันเลยเค้ามีความสุขทุกครั้ง วันนั้นเขินเวลาคุยด้วยยังไง ตอนนี้ก็ยังเขินเหมือนเดิม"
แอบชอบมา 3 ปีกว่า ทำทุกอย่างจนเขารู้ว่าเรารักแต่...
ยืมแอคเพื่อนมาตั้งนะคะ...และขออนุญาตใช้พื้นนี้เก็บความทรงจำเผื่อวันนึง คนคนนี้เขาจะบังเอิญมาเห็นและอาจจะยิ้ม หัวเราะ หรือ งงเพราะไม่เข้าใจ ที่อะไรจะขนาดนี้
เราแอบชอบคนคนหนึ่งมา...จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังใช้คำว่าเราแอบชอบเขา...บอกก่อนว่าคนเขียนกระทู้นี้เป็นผู้หญิง คนที่คนเขียนบอกว่าแอบชอบ เขาก็เป็นผู้หญิง ... ยืมแอคเพื่อนมาโพสแต่หลังจากนี้ขอใช้คำว่า จขกท. เนอะ ...
เขาคนนั้นแก่กว่า จขกท. 9 ปี แต่แปลกที่ จขกท. แอบชอบเขามากๆ จนดูเหมือนโรคจิต คนนั้นมีอาชีพเป็นครู...ใช่แล้วเราแอบชอบครูตัวเอง...เขาแค่บังเอิญมาสอนในโรงเรียนที่เราเรียน...จำได้ไม่เคยลืมครั้งแรกที่เจอ ก็คือ ในคาบแรกที่เขามาสอนในห้องเรียนนั่นแหล่ะ ช่วงนั้นเป็นเด็กกิจกรรม เลยเข้าห้องคนสุดท้ายและเขาคนนั้นก้เข้ามาแนะนำตัวอยู่ว่าจะมาสอนวิชา...และเขาก็เล่าไปจนบังเอิญอีกว่า โรงเรียนเดิมที่เขาสอนคือโรงเรียนที่น้อง จขกท. เรียนอยู่ในปัจจุบันตอนนั้น ตอนนั้นก็แค่คิดว่า เราอาจจะแค่เคยเจอกันในโรงเรียนของน้องมั้ง..หรืออาจไม่เคยเจอ ไม่เคยรู้จักกันสักหน่อย ก็เฉยๆ...ด้วยความที่เป็นเด็กกิจกรรมก็จะช่วยงานครูบ่อยๆ คนๆนั้นก็เลยใช้เราบ้าง ใช้นู้น ใช้นี่ จนเริ่มสนิทกัน...และคุยกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เคยได้ไลน์คุยเลย (อาจเป็นเพราะเขาเป็นครู ไม่จำเป็นต้องมีไลน์นักเรียนอย่างเรา) จนวันนึงตัดสินใจเดินเข้าหมวดที่เขาสอนและไปยืนหน้าโต๊ะเขา พร้อมพูดว่า "ครู...หนูขอไลน์หน่อย" เขางง แต่ เขาไม่ให้ 55555555 เริ่มรู้สึกผิดหวังและอยากจะได้ไลน์ครูคนนี้มาให้ได้ จะได้คุยรึไม่ได้คุยไม่รู้แต่ต้องได้...อีกสองวัน ทำโทรศัพท์หาย หายจริงๆ ได้แต่หน้าซึมและเดินเข้าไปส่งงานที่โต๊ะครูอีกคน แต่..บาปบุญ เดินผ่านโต๊ะเขาและ คนที่ทักคือ คนคนนี้ (ตอนนั้นดีใจสุด) เขาถามเราว่า เราเป็นอะไรรึป่าว ทำไมดูซึมๆ ... ^^ (ไม่รู้นะ แต่ในตอนนั้น คือดีใจมากๆที่เขาถามเรา) เราเลยตอบว่า ทำโทรศัพท์หายและเขาก็หัวเราะเหมือนสมน้ำหน้า ...แต่ ก่อนเราเดินออกเขาก็บอกว่า ถ้าหาเจอหรือซื้อใหม่ มาเอาไลน์ฉันนะ...เราก็หันไปมองหน้าเขาทันที ดีใจมากๆ แต่ต้องเก็บอาการ พ้นห้องหมวด วิ่งอย่างไวไป ยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโรงเรียนแล้วพูดว่า ขอให้เจอโทรศัพท์ แล้วจะวิ่งแก้บน 50 รอบ...บาปบุญ ได้โทรศัพท์คืนจริงๆในวันนั้น พอได้คืน ก็วิ่งกลับไปหมวดที่เขานั่ง รีบคลานเข่าเข้าไปแอดไลน์ และเขาก็ให้ไลน์เราจริงๆ ดีใจมากกกกกกกก เหมือนฝันเป็นจริงง ทันใดที่ดีใจนั้นเอง ครูอีกคนใช้ให้ไปถ่ายเอกสาร เราก็เอาเอกสารไปถ่ายให้อีกตึก เปิดประตูออกปุ๊บ คนนั้นเขาไลน์มาบอกว่า "กลับมาเดี๋ยวถ่ายรูปคู่กัน" นี่คือบทสนทนาแรกที่เราคุยกัน ณ จุดๆนั้น กรี๊ดลั่นนจนเพื่อนด่า ;) และงง ว่าเป็นอะไร...แต่ช่างมัน รีบไปถ่ายเอกสาร รีบกลับมาถ่ายรูปคู่ดีกว่า พอกลับมากลายเป็นว่าก็ไม่ได้ถ่ายรูป...เพราะหมดเวลาพักกลางวัน แรกๆในไลน์ไม่ได้คุยกันมาก จะมีก็แค่ เขาฝากทวงงานเพื่อนในห้อง...และเราก็ยินดีที่จะทวงให้ ตอนนั้นเราเริ่มทำทุกอย่างที่จะได้เจอเขา ได้คุยกับเขา ยอมทำการบ้านให้เพื่อนที่เขาทวง ก็ทำให้เพื่อจะขอเพื่อนเอาไปส่งเขาเอง ทั้งๆที่ไม่ใช่งานตัวเอง ตอนนั้นเรากับเขาก็จะสนิทกันมากขึ้น คุยไลน์บ่อยขึ้น เขาฝากซื้อกาแฟอเมซอนเกือบทุกเช้า ก่อนไปโรงเรียน เราก็แวะปั๊ม
ปตท. ซื้อไปตั้งไว้ที่โต๊ะทุกวัน จนความสนิทมันมีมากกว่าความสนิท รู้สึกดีเวลาเขาด่า ไม่เคยโกรธเลยสักนิด ที่เขาด่า เขาตี เรา 55555555 เวลาสอบกลางภาค/ปลายภาค ก็ตั้งใจทำวิชาเขามากที่สุด เพื่อนจะได่คะแนน Top ของห้อง ซึ่งก็เป็นวิชาเดียวที่ได้จริงๆ ตั้งแต่นั้นมาก็รู้สึกอยากเจอเขา เขาเห็นหน้าเขาทุกวัน กลับบ้าน ไปเรียนพิเศษ ก็ทักไลน์คุยกับเขาก่อนตลอด และเขาก็คุยด้วยจนถึงตอนนอน (ถึงตอนนี้อน่าเข้าใจผิดว่าเป็นครูนักเรียนรักกันในทางชู้สาวเน้อ คุยกันปกติ เรื่องของเพื่อนในห้อง คนนั้น คนนี้) พอได้คุยก็กลับบ้านมานอนนึกและยิ้ม และเขิน อยู่คนเดียว มองอะไรก็แง่ดีไปหมด แค่ขอให้ได้คุยกับเขาทุกวันในนี้ แต่ในจุดๆนึงก็ทำให้ไม่กล้ามองหน้าเขาหรือคุยกับเขาในเวลาเจอตัวจริงๆ กลายเป็นว่าเราเขิน เขินมากๆ จนไม่กล้าสบตา และเขาก็มาถามในไลน์ว่าเราเป็นอะไร เวลาเจอหน้ากัน...แต่นั่นก็ทำให้เรายิ่งชอบเขามากๆ ทำทุกอย่างเลย ทุกเทศกาล ปีใหม่ วาเลนไทน์ วันครู วันแม่ คือ เก็บตังซื้อของให้เขา ส่วนมากเป็นตุ๊กตา ที่ตัวใหญ่ขึ้นทุกเทศกาล แต่ดันไม่กล้าเอาไปให้เอง แอบเอาไปวางที่โต๊ะเขาบ้าง ยอมรับกับครูอีกคนว่าชอบครูคนนี้มากๆ จนครูคนนั้นยอมเป็นคนที่ถือตุ๊กตาแล้วเอาไปให้และก็ช่วยให้เรากับเขาถ่ายรูปคู่กันแบบดีๆได้ครั้งแรก
ครั้งแรกที่ถ่ายด้วยกันคือตอนที่โรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่สุพรรณ แต่เขากลับนั่งรอเด็กในระหว่างที่เดินดูนิทรรศการ เราเลยใจกล้าไปขอถ่ายแต่รูปก็พังมากๆ และช่วงที่ไปสุพรรณ แวะตลาดสามชุกจะมีคนถ่ายรูปก่อนเข้าตลาด เขาโดนตากล้องแอบถ่ายและเอาไปใส่กรอบตลาดสามชุก ซึ่งคนที่ซื้อนั้นก็คือเราเองแหล่ะ หาตั้งนาน ถึงจะเป็นรุปหลุดแต่ก้ดีใจที่จะได้มีรุปไว้วางบนหัวเตียงที่บ้าน แต่แล้วก็เผลอพิมไปในไลน์เขาว่าซื้อรูปนี้มา สุดท้ายพอถึงโรงเรียนก็เดินเอาไปให้เขาทั้งกรอบ...แอบเสียดายแต่ก็เอาเถอะ ถือว่าให้ของขวัญเขาที่ไม่ใช่ตุ๊กตาบ้าง
มันก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ สนิทกัน จนจบการศึกษาเราก็ขึ้นอีก ม. ที่เขาไม่ได้สอน เรากลัวว่าจะไม่ได้คุยกันอีกเลยเราเลยเลือกหาวิธีที่ทำไงก็ได้ให้เราต้องคุยกับเขาต่อไปให้ได้จนเราเรียนจบจากที่นี่และเราก็ตัดสินใจ ไปหาตารางสอนที่เขาต้องสอนและที่เขาเป็นครูประจำชั้น เราก็ไปตีสนิทกับเด็กในห้องนั้น จนน้องในห้องนั้นรู้จักกับเราทุกคน เขาก็เข้าใจว่าเรารู้จักน้องๆในห้องเขามานานแล้ว (ป่าวหลอก รู้จักกันตอนนั้นแหล่ะ) เริ่มให้น้องไปขอไอดีไลน์ (สำรองไว้เผื่อวันไหนไลน์เขาหาย จะได้รู้) และน้องก็ไปขอมาให้จนได้ (ขอได้ง่ายมากจนนึกถึงตัวเองตอนที่ขอ เพราะได้มายากมากๆ งงมาก ทำไมได้ง่ายจัง)พอได้ไลน์ ได้ไอดีไลน์ เริ่มหา Facebook กับ IG เขา หาทุกอย่างที่เป็นเขา หาวันเกิด หาของที่เขาชอบ และเราก็ทำทุกอย่าง ทุกวิธีที่ทำให้เราจะได้เข้าหมวดที่เป็นห้องพักครู ซึ่งก็ได้ผลดีเพราะไปตีสนิทกับครูหัวหน้าหมวดจนเข้าไปนั่งเล่นในห้องหมวดนั้นได้ ทุกครั้งที่เรารู้ว่าเขามีสอนห้องไหน เราจะวิ่งไปห้องนั้นเพื่อให้ได้เห็น ได้เจอเขา สร้างความบังเอิญแบบตั้งใจสุดๆ ทั้งๆที่พอ
กลับมาเข้าห้องเรียนตัวเองจะโดนทำโทษ 55555555 ก็ยังไป จะได้มีกำลังใจในการเรียน แต่เราก็คุยไลน์ไม่เคยขาดสักวัน เถียงกันบ้าง ยิ้มไปพิมไป เขินตลอดการคุย ยอมทุกอย่างจนกระทั่งเขางอนอะไรสักอย่าง เราก็สั่งดอกไม้มาให้ส่งที่โรงเรียนและเขาก็หายงอน (ดีใจที่เขารับดอกไม้จากเรา) หาวันรับปริญญาของเขาพอถึงวันก็แอบไปทั้งๆที่เขาไม่ได้ชวน ไปโดยไม่เจอเขาว่าเขาไปอยู่ตรงไหน ยืนตรงไหน และไปโดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าเราไป เลยเดินไปซื้อปากกาเคมี และลูกโป่งลอยๆ ที่เป็นอักษร ซื้อ ทั้งหมด 7 ลูก เรียงเป็นชื่อเขา เขียนคำอวยพรบนลูกโป่ง และปล่อยขึ้นฟ้า ไม่รู้เลยว่าเขาจะเห็นมั้ย ไม่รู้เลยว่าเขาจะรู้มั้ยว่าที่ลอยอยู่คือลูกโป่งของเราที่ตั้งใจให้เขา ก็ปล่อยเสร็จขับมอไซต์กลับบ้าน พร้อมไลน์ไปยินดีที่รับปริญญาโดยไม่ได้บอกสักคำว่าเราไปมานะ...ผ่านไปอีกวัน ก็คุยไปเรื่อยๆทุกวัน สรรพนามที่คุยก็เรียกเขาว่า ครู แทนตัวเองเป็นชื่อเล่นตัวเอง
จน...วันนึง น้องที่เขาเป็นครูประจำชั้นมา มาบอกเราว่า ครูเขาจะย้ายโรงเรียนสอนเทอมหน้า...คือเราช็อคมาก ปีหน้าอีกปีจะทำยังไงดี เราจะไม่ได้เจอเขาในโรงเรียนอีกแล้ว ทั้งบน ทั้งภาวนาให้เขาไม่ได้ไป ไม่ได้ แต่ครั้งนี้ไม่มีปาฏิหารย์เกิด เขาต้องไปจริงๆเราก็ไลน์รัวๆไปหาเขาทุกวันจนใจกล้าถามว่า จะต้องไปจริงๆเหรอ เขาก็ถามว่า รู้แล้วเหรอ...ฉันก็ต้องไปอ่ะ หมดเวลาของฉันแล้ว แต่นั่นเราก็ไม่ท้อ เรายิ่งอยากคุยกับทุกวันๆๆ และเขาก็คุยกับเราทุกวัน จนวันที่เขาออกจากโรงเรียนจริงๆเขาก็ยังคุย และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ได้ไปเที่ยวกับเขาสองคนเป็นครั้งแรก...เขาบอกว่าที่กล้าพาเราไปเพราะเขาไม่ได้อยู่ในฐานะครูในโรงเรียนที่เราเรียนแล้ว มันไม่น่าเกลียด ^^ จนวันนึงเขาถามเราว่า เราคิดกับเขายังไง เราเลยบอกว่า เราชอบเขา ชอบแบบไม่ต้องการเป็นแฟน แต่อยู่แบบนี้ อยู่ด้วยกัน คุยกันไปแบบนี้ ไปเที่ยวกันสองคนแบบนี้ ไปเรื่อยๆ เลยได้มั้ย เขายิ้ม และบอกว่า ถ้าอะไรเกิดขึ้นเขาก็เลือกครอบครัวเขา หมายถึงว่า ก็ไปเรื่อยๆแบบนี้ ได้ แต่ถ้าวันนึงครอบครัวเขามีปัญหา และเรามีปัญหา เขาก็จะเลือกครอบครัว (เขาจะเทเรานั่นแหล่ะ TT) แต่เราก็เข้าใจ เราก็บอกเขาว่า ได้หมด อยู่แบบนี้แบบไม่สถานะก็ได้ ให้เป็นน้องก็ได้ จนถึงปัจจุบัน ตอนนี้เราเรียกเขาว่าพี่...และเขาก็ให้เราเป็นน้อง
ที่เขียนมายาวๆขนาดนี้ นอกจากอยากบันทึกไว้ แล้วยังอยากบอกความรู้สึกที่ไม่เคยบอกอีกว่า...
"เค้าคิดกับยูมากกว่าพี่มานานแล้วแต่ถ้ายูให้เค้าแค่นี้ก็ไม่เป็นไร ความรู้สึกในใจเค้ายังไงก็เป็นเหมือนเดิม จนถึงวันนี้เกือบ 4 ปีแล้วที่เราเจอ คุย รู้จักกัน แต่ความรู้สึกเค้าไม่เคยลดเลยมันเพิ่มมากขึ้นอีกรักยังไง ก็เพิ่มมากขึ้นเท่าตัว เค้าพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อยูเสมอ หลังๆยูพูดกับเค้าเสมอว่าอาจจะถึงเวลาแล้วยูอยากมีครอบครัว มีลูก ซึ่งยูไม่รู้ว่าถ้าถึงจุดๆนั้น ยูกับเค้าจะยังไงกัน แต่เค้าก็ทำหูทวนลมตลอด เค้าก็บอกตรงนี้ว่าเค้าไม่รู้ว่าอนาคตเป็นยังไง แต่เค้าก็คงแอบชอบ แอบบอกรักยูแบบนี้ เค้าก็ Support ยูทุกอย่างเหมือนเคย ทุกอย่างที่ยูจะทำ ขอโทษด้วยที่บางครั้งเค้าอาจจะสาระแนแบบที่ยูเคยบอก แต่เพราะเค้าห่วงจริงๆ เราเริ่มต้นรู้จักกันจากการที่เป็นลูกศิษย์กับครู มันเลยยากที่ยูจะเลือกเค้า เค้าอยากให้ยูสมหวังแบบที่ยูคิดนะ...ขอบคุณที่ยูก็เคยทำเพื่อเค้า ยูยอมมีเค้าในชีวิตทั้งๆที่ไม่จำเป็น ขอบคุณนะ... ที่เค้าเล่าทุกอย่างได้เหมือนที่เค้าพิมมา เพราะเค้าจำได้ทุกช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน คุยกันเลยเค้ามีความสุขทุกครั้ง วันนั้นเขินเวลาคุยด้วยยังไง ตอนนี้ก็ยังเขินเหมือนเดิม"