แค่เข้ามาบ่นครับ ห้ามอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี
น้องสาวผม( น้องแม่เดียวกัน)
แฟนน้อง (ลูกอา ซึ่งเป็นญาติกับผม)
ขอใช้คำว่าน้องกับหลานนะครับ จะได้ไม่งง ผมกับแม่ ลุงป้าฝั่งแม่ (ผมอยู่กับแม่นะ) ไม่อยากให้น้องครบกับคนบ้านนี้ แต่แม่ก็ไม่ได้ห้ามแบบจริงจังตลอดที่ผ่านมาที่น้องกับหลานคุยกัน ก็มีบ่นบ้างตามประสา แต่แม่ไม่คิดว่าเขาสองคนจะคบกันมาถึงจุดนี้ได้ ซึ่งตลอดที่ผ่านมาผมเป็นคนเดียวที่ไม่ยินยอมให้น้องกับหลานคบกัน ดังนั้นน้องจึงแอบคุยไม่ให้ผมได้ยิน หรือเห็น แต่ผมก็รู้ว่าเขาคบกัน
ปัจจุบัน น้องสาวผมฝึกงาน ส่วนหลานเรียนจบทำงานแล้ว ซึ่งครอบครัวหลาน ญาติๆฝั่งพ่อผมมีความประสงค์อยากจะมาหมั้นน้องสาวผมครับ (ครอบครัวฝั่งหลานไม่ติดครับว่าคบลูกแม่ผม) ซึ่งแม่ผมกับผมไม่ยอม(พ่อเลี้ยงแล้วแต่แม่ กับน้อง) แม่ไม่ยอมให้หมั้นให้แต่ง แม่ให้น้องเลิกคบ รวมทั้งผมด้วย น้องไม่กล้าเถียงแม่ แต่น้องก็เสียใจ แม่ผมบอกว่าถ้าอยากอยู่ด้วยกันก็หนีตามกันไป และแม่ก็มาคิดมากกับคำพูดตัวเอง ซึ่งผมก็เข้าใจ
ส่วนผม ครอบครัวหลาน ญาติๆฝั่งพ่อผม ทราบดีว่าผมไม่อยากให้น้องกับหลานคบกัน เขามองผมในสายตาที่ไม่ดี ไม่เป็นผู้ใหญ่ ไม่มีเหตุผล ซึ่งผมก็ยอมรับ และยืนยันว่าไม่เอาหลานมาเป็นน้องเขย รวมทั้งญาติๆฝั่งแม่ด้วย ผมไม่สบายใจ อยากให้น้องเปิดใจคบคนใหม่ ผมเห็นแก่ตัวผมทราบ แต่ก็สงสารน้องสาว เข้าใจอีกว่าคนมันรักกัน
ทีนี้น้องสาวผมทำท่าว่าจะเลิกคบกับหลาน คุยกันไปแบบนี้ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน และน้องก็ไม่กล้าทำหนีตามหลานด้วย(ผมรู้จักน้องผมดี) หลานผมก็คงจะรับรู้และคิดโกรธผม แต่ผมไม่สนใจ แต่ญาติๆฝั่งพ่อผม ชอบมาพูดแซะ มาพูดกวน บางครั้งก็มาพูดหว่านล้อมให้เห็นใจ ไม่เว้นแม้แต่พ่อผมตลอดเวลาที่มีโอกาส โดยฉะเพราะพ่อของหลาน ซึ่งเป็นอาแท้ๆของผม
ทุกคนมองผมเป็นตัวร้าย มองแม่ว่าใจแคบที่ไม่ยอมเปิดใจ เพียงแค่หลานเป็นญาติกับพ่อผม แต่คนฝั่งนั้นเขาไม่คิดถึงจิตใจแม่ผม จิตใจยายผม พี่น้องของแม่ผมเลย แม่ผมอาจจะเป็นคนผิดในเรื่องอดีต แต่ก็นั้นแหละ แม่ก็ยังไม่กล้าปล่อย ไม่อยากเป็นดองกับดองเก่า ทั้งหมดผมเข้าใจหัวอกแม่ แต่คนฝั่งนั้นเจาไม่ยอมคิดอะไรเลย เขาไม่คิดเยอะๆ เลยครับ
ปล. น้องกับหลานก็ยังคุยกันอยู่ ยังไม่เลิกกันเป็นกิจลักษณะนะครับ
ปล.2 ถ้าเขาจะรักจะอยู่ด้วยกันใครก็คงห้ามเขาไม่ได้
ผมไม่อยากให้น้องสาวเลิกกับแฟนครับ
น้องสาวผม( น้องแม่เดียวกัน)
แฟนน้อง (ลูกอา ซึ่งเป็นญาติกับผม)
ขอใช้คำว่าน้องกับหลานนะครับ จะได้ไม่งง ผมกับแม่ ลุงป้าฝั่งแม่ (ผมอยู่กับแม่นะ) ไม่อยากให้น้องครบกับคนบ้านนี้ แต่แม่ก็ไม่ได้ห้ามแบบจริงจังตลอดที่ผ่านมาที่น้องกับหลานคุยกัน ก็มีบ่นบ้างตามประสา แต่แม่ไม่คิดว่าเขาสองคนจะคบกันมาถึงจุดนี้ได้ ซึ่งตลอดที่ผ่านมาผมเป็นคนเดียวที่ไม่ยินยอมให้น้องกับหลานคบกัน ดังนั้นน้องจึงแอบคุยไม่ให้ผมได้ยิน หรือเห็น แต่ผมก็รู้ว่าเขาคบกัน
ปัจจุบัน น้องสาวผมฝึกงาน ส่วนหลานเรียนจบทำงานแล้ว ซึ่งครอบครัวหลาน ญาติๆฝั่งพ่อผมมีความประสงค์อยากจะมาหมั้นน้องสาวผมครับ (ครอบครัวฝั่งหลานไม่ติดครับว่าคบลูกแม่ผม) ซึ่งแม่ผมกับผมไม่ยอม(พ่อเลี้ยงแล้วแต่แม่ กับน้อง) แม่ไม่ยอมให้หมั้นให้แต่ง แม่ให้น้องเลิกคบ รวมทั้งผมด้วย น้องไม่กล้าเถียงแม่ แต่น้องก็เสียใจ แม่ผมบอกว่าถ้าอยากอยู่ด้วยกันก็หนีตามกันไป และแม่ก็มาคิดมากกับคำพูดตัวเอง ซึ่งผมก็เข้าใจ
ส่วนผม ครอบครัวหลาน ญาติๆฝั่งพ่อผม ทราบดีว่าผมไม่อยากให้น้องกับหลานคบกัน เขามองผมในสายตาที่ไม่ดี ไม่เป็นผู้ใหญ่ ไม่มีเหตุผล ซึ่งผมก็ยอมรับ และยืนยันว่าไม่เอาหลานมาเป็นน้องเขย รวมทั้งญาติๆฝั่งแม่ด้วย ผมไม่สบายใจ อยากให้น้องเปิดใจคบคนใหม่ ผมเห็นแก่ตัวผมทราบ แต่ก็สงสารน้องสาว เข้าใจอีกว่าคนมันรักกัน
ทีนี้น้องสาวผมทำท่าว่าจะเลิกคบกับหลาน คุยกันไปแบบนี้ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน และน้องก็ไม่กล้าทำหนีตามหลานด้วย(ผมรู้จักน้องผมดี) หลานผมก็คงจะรับรู้และคิดโกรธผม แต่ผมไม่สนใจ แต่ญาติๆฝั่งพ่อผม ชอบมาพูดแซะ มาพูดกวน บางครั้งก็มาพูดหว่านล้อมให้เห็นใจ ไม่เว้นแม้แต่พ่อผมตลอดเวลาที่มีโอกาส โดยฉะเพราะพ่อของหลาน ซึ่งเป็นอาแท้ๆของผม
ทุกคนมองผมเป็นตัวร้าย มองแม่ว่าใจแคบที่ไม่ยอมเปิดใจ เพียงแค่หลานเป็นญาติกับพ่อผม แต่คนฝั่งนั้นเขาไม่คิดถึงจิตใจแม่ผม จิตใจยายผม พี่น้องของแม่ผมเลย แม่ผมอาจจะเป็นคนผิดในเรื่องอดีต แต่ก็นั้นแหละ แม่ก็ยังไม่กล้าปล่อย ไม่อยากเป็นดองกับดองเก่า ทั้งหมดผมเข้าใจหัวอกแม่ แต่คนฝั่งนั้นเจาไม่ยอมคิดอะไรเลย เขาไม่คิดเยอะๆ เลยครับ
ปล. น้องกับหลานก็ยังคุยกันอยู่ ยังไม่เลิกกันเป็นกิจลักษณะนะครับ
ปล.2 ถ้าเขาจะรักจะอยู่ด้วยกันใครก็คงห้ามเขาไม่ได้