เที่ยวคนเดียวที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย ระหว่างวันที่ 18 - 20 ม.ค. 62 โดยรถสาธารณะ

[CR] เที่ยวคนเดียวที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย ระหว่างวันที่ 18 - 20 ม.ค. 62 โดยรถสาธารณะ

กระทู้รีวิว

บันทึกนักเดินทาง อุทยานแห่งชาติ ภูกระดึง Backpack ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์

ก่อนหน้านี้ผมเคยไปเที่ยวที่ อช.เขาแหลม เขาสันหนอกวัว รู้สึกติดใจกลับจากเขาสันหนอกวัวก็คิดว่าจะไปไหนต่อดี ดูปฏิฑินแล้วมีหยุดยาว 3 วัน 18 - 20 ม.ค. 62 เนี่ยแหล่ะต้องไปซักที่ เอาที่ไปง่ายๆ เดินเยอะๆ เลยหาข้อมูลดูก็เอาละ อช. ภูกระดึงเนี่ยแหล่ะ ไปง่าย ยอดฮิต ก็หาข้อมูลคร่าวๆ *คำแนะนำผมก็พึ่งเคยหัดเที่ยว เที่ยวคนเดียวตอนแรกก็กลัวหลง กลัวเหงา กลัวผีทุกๆ อย่าง แต่พอได้ไปเที่ยวคนเดียวแล้วครั้งนึงสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ "ความกลัวนี่แหล่ะ" ภาพทั้งหมดใช้โทรศัพท์ถ่ายนะครับ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 2,000 บาท

ไปจองรถทัวที่หมอชิต 2 ชั้น 3 ของอาคารขายตั๋ว ช่อง 6 - 7 แอร์เมืองเลยมีตั้งแต่เวลา 19.00 - 22.35 ราคา 395 บาท ผมเลือกรถรอบท้ายสุด 22.35 เพราะไปถึง ผานกเค้าร้านเจกิมเวลา 05.00 น. ซื้อตั๋วขากลับไว้เลย เลือกเบาะโซน A จะเป็นส่วนตัว เบาะ B และ C จะนั่งติดกัน ส่วนรถ ป.1 มีรอบเดียวเวลา 21.45 ราคา 338 บาท (ผมลองไปถามรถของ บขส. พนักงานขายตั๋วบอกไม่มีไปแต่อ่านในเน็ตมาเหมือนว่ามีก็งงๆ ว่าหมายถึงวันที่ไปถามเต็มหรือเปล่า) ผมจองรถรอบดึกที่สุด ก็ 22.35 ต้องไปรอรถที่ชานชาลาที่ 4 ช่อง 29 พอขึ้นไปบนรถรู้สึกกว้างกว่าที่คิดแอร์โครตหนาว บนรถมีแจกผ้าห่ม น้ำดื่ม คุ๊กกี้ โดนัท แวะพักรถ 30 นาที

ถึงผานกเค้า ร้านเจกิม เวลา 05.00 เมื่อมาถึง เข้ามาที่ร้านมีที่ให้นั่งพักค่อยด้านหลังร้าน สามารถทานข้าว และซื้อสิ่งของจำเป็นได้ที่นี่ ที่ร้านเจ๊กิมมีคำแนะนำดีๆ ในการเดินทางประกาศอยู่ตลอดเวลา คำแนะนำนักท่องเที่ยวตลอดเวลา เช่นช่วงนี้มีทากหรือไม่ ควรแต่งกายอย่างไรเวลาเดินขึ้น ส่วนรถแดงจอดอยู่ด้านหน้าขวามือของร้าน ราคาคนละ 30 บาท แต่ต้องครบ 10 คน กรณีที่ไม่ครบ คนขับก็จะมาถามว่าออกเลยไหมเพิ่มเงินให้เกิน 300 บาท/คัน 05.30 ก็เริ่มไปขึ้นรถแดงกันได้

จากร้านเจ๊กิมไป อช.ภูกระดึงใช้เวลาประมาณ 10 นาที

เมื่อมาถึงที่ทำการอุทยาน ก็ต้องมาต่อคิวเช่าเต้น จองบ้านพัก ที่ช่อง 3 - 4 และค่าพื้นที่กางเต้นวันละ 30 บาท และค่าธรรมเนี่ยมในการเข้า 40 บาท

เลี้ยวซ้ายออกมาจากที่ทำการ 100 m ก็จะเจอจุดชั่งน้ำหนัก เพื่อที่จะให้ลูกหาบหาบของขึ้นไป กก. ละ 30 บาท แต่ผมแบกเองเอาเต้นมาด้วย กระเป๋าที่แบก 12 กก. เทียบกับพี่ๆ ลูกหาบ 60 กก. คนละเรื่องกันเลยฮ่าๆ

เมื่อเดินขึ้นมาถึงทางเข้าจะให้เซ็นพี่เจ้าหน้าที่จะขอตรวจบัตรค่าทำเนียมการเข้าและให้เซ็นชื่อ เมื่อเดินเข้ามาจะเจอป้าย ซ้ายมือ บอกระยะทางของแต่ละจุด 1.ปางกกค่า 800 เมตร 2.ซำแฮก 1000 เมตร 3.ซำบอน 1,700 เมตร 4.ซำกกกอก 2,060 เมตร 5.ซำกอซาง 2,260 เมตร 6.พร่านพรานแป 2,500 เมตร 7.ซำกกหว้า 2,940 เมตร 8.สามก๊กไผ่ 3,400 เมตร 9.สามก๊กโดน 3,700 เมตร 10.ซ้ำแคร่ 4,150 เมตร 11.หลังแป 5,430 เมตร และ 12.ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 9,050 เมตร

ผมโชคดีมาช่วงที่อุณหภูมิเริ่มหนาวด้านล่างภูอุณภูมิ 20 องศา เดินขึ้นตอน 07.30 ทางขึ้นระหว่างปางกกค่า 800 เมตร มันก็ชันเริ่มเรียกเหงื่อแล้ว แค่ด่านแรกนะเนี่ย 555 (ตอนก่อนเดินอาจจะหนาวๆ แต่พอเดินไปได้ซักพักจะร้อน แนะนำใส้เสื้อผ้าสบายๆ แขนสั้นขาสั้น ค่อยๆ เดินอย่ารีบ)

เดินมา 1,000 เมตร ถึงซำแฮก มีให้พัก ดื่มน้ำ กินข้าว ซ้ายมือมีจุดชมวิว

เดินขึ้นซำบอน เริ่มเจอพี่ๆ มืออาชีพ เห็นแล้วก็รู้สึก พี่ๆ เขาเก่งมากจริงๆ เทคนิคในการเดินขึ้นพี่ๆ เขาจะมีลำโพงบลูทูธ ติดตัวกันทุกคนส่วนมากเปิดเพลงแด๊น ฟังเพื่อเป็นแรงกระตุ้น ผมนี่โยกตัวตาม 555

ซำกอซาง

พร่านพรานแป

ซำกกหว้า

ซำกกไผ่ มองกลับไปตอนขึ้นเจอวิวสวยๆ พอดี

ซำกกโดน เลยป้ายซำโดนไปหน่อยนึงน่าจะ 5 ม. มีต้นมะขามป้อม แก้กระหายน้ำชุ่มคอได้

ซำแคร่ ถัดจากซำแคร่ไปค่อนข้างชันลำบาก ผมแวะพักตรงจุดนี้

10.40 ถึงแล้ว หลังแป จากหลังแป ต้องไปอีก 3.5 กิโลเมตร ว้ายมือมีให้เช่าจักรยาน รู้สึกว่าจะวันละ 410 บาทถ้าเป็นล้อใหญ่ ล้อปกติ 310 บาท (ราคาจำไม่ได้ไม่ได้จดไว้) ระหว่างเดินไปศูนย์บริการ นทท. รู้สึกแปลกๆ ทำไมไม่มีใครเดินตามมาเลย เหมือนเดินมาผิดทาง

เช่าหมอน 10 บาท/วัน ถุงนอน 30 บาท/วัน แผ่นรองนอน 20 บาท/วัน ได้ที่ศูนย์บริการ แล้วก็เดินไปหาจุดกางเต้นผมเลือกที่โล่งๆ ไม่ค่อยมีคน

ด้านหลังลานกางเต้นมีศูนย์อาหาร ราคาของคูณ 3 จากปกติ ข้าวราดแกง 2 อย่าง 70 บาทปริมาณเยอะพอสมควรน้ำเปล่าขวด 700 มล. 30 บาท 1500 มล. 50 บาท ทานข้าวเสร็จประมาณเที่ยงเวลาเหลือเยอะผมก็เลยกลับไป เอากระเป๋า แต่พลาดอย่างนึงคือเอากระเป๋าใบใหญ่มาใบเดียว ก็เลยเทของทั้งหมดไว้ที่เต้น เอาไปแค่น้ำกับขนม ขาตั้งโทรศัพท์ ไฟฉาย มีดพก

เดินมาฝั่งตรงข้ามศูนย์บริการทางทิศตะวันตกจะมีเส้นทาง ให้เดินไป น้ำตก กับ ผา ผมเลือกเดินไปฝังผาก่อนเพราะเดี๋ยวตอนเย็นได้ดูพระอาทิตย์ตกด้วย

ใกล้ๆ ด้านหลัง จะมีต้นเมเปิล กำลังจะผลัดใบสีแดงเต้มต้นเลย (ลืมว่าถ่ายแนวตั้งมาแล้วเอามาลงภาพมันจะตะแคง) เดินเลยมาอีกหน่อยจะเจอ ต้นไม้ของพ่อ ที่ ในหลวง ร.9 และ สมเด็จพระราชินี ใน ร.9 ที่ทรงปลูกไว้ เมื่อ 8 พ.ย. พ.ศ. 2498

ระหว่างเดินไปที่ผาหมากดูกระยะทาง 2 กม. รู้สึกแปลกๆ ใจว่าคนไปไหนกันหมดหรือมีหลายเส้นทาง เดินจนถึงผาหมากดูก ก็ไม่เจอใครเดินตามมาหรือเดินสวนทางมาเลย ฮ่าๆ

ระหว่างผาหมากดูกไปผาจำศีลจะมาทางลงไปเลาะล่างหน้าผาจะเจอ ตาน้ำ น่าจะเป็นร้านค้าแถวนั้นที่มาเอาน้ำไปใช้ และมีผาเหมาะสำหรับเป็นที่นอนพักมากๆ 555 แต่เดี๋ยวยังเหลืออีกหลายผา