ก่อนอื่นต้องบอกว่า ตั้งใจจะมาบอกเล่าเรื่องเล่าสำหรับการไปเที่ยวประเทศ ติมอร์ตะวันออกในครั้งนี้
เดินทางไปตั้งแต่ กันยายน ปี 2561 แต่เพิ่งมีเวลาเอามาลงให้ดูกัน รูปภาพไม่เยอะมากมาย แค่อยากจำรึกกระทู้ของตัวเอง
ไว้ใน เว็ปพันทิพ อันทรงเกียรติแห่งนี้ ก็เท่านั้นเอง

เท่าที่ลองหากระทู้ที่เกี่ยวกับประเทศนี้ ก็มีคนมารีวิวไม่เยอะมาก ก็เลยอยากจะเอาภาพมาลงในดู
แบ่งปันประสบการณ์กันไป ไม่บรรยายอะไรมากมาย ขอบรรยายเท่าที่นึกได้

มาเริ่มกันเลย
การเดินทางจากประเทศไทย ไปต่อเครื่องที่ สิงคโปร์ แวะเที่ยว ประเทศอินโดนีเซีย ก่อน
จากนั้นก็เที่ยวประเทศอินโดนีเซีย 1 อาทิตย์ ไปหลายที่ ชมภาพกันไปนะ

วิวจากห้องพัก ที่เห็นไกล ๆ โน้น ก็ภูเขาไฟ

พามาชมหมู่บ้านแห่งสีสัน เหมาะกับการทดสอบกล้องมือถือยิ่งหนัก สีสดได้ใจ

วันต่อมา พาไปชมภูเขาไฟ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเดินทางกันตอนกลางคืน เพื่อจะได้ถ่ายรูปตอนที่พระอาทิตย์ขึ้น
แต่ จขกท. เลือกที่จะไปตอนเช้า เพราะไม่ชอบเบียดกับฝูงชนจำนวนมาก การเดินทางใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

เส้นทางจะประมาณนี้ ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะทางเป็นทราย นึกซะว่า นั่งรถในสวนสนุก เพราะนั่งเด้งไปตลอดทาง

จากตรงนี้ ก็ต้องฝ่าพายุทรายเดินเข้าไป เส้นทางก็ไม่ได้ลำบากอะไรเลย แค่หายใจไม่ออก ทรายพัดเข้าหูเข้าตา
แนะนำเอามาปิดจมูกไปด้วยนะ ใส่แว่นตาที่ครอบทั้งใบหน้าไปด้วยจะดีมาก

เดินมาแล้วพบกับเขาลูกนี้ แอบดีใจ ถึงแล้ว แต่ไม่ใช่ ไกด์บอกว่า เดินไปอีก

ในที่สุด เราก็เดินมาถึง จะมีคนขายของที่ตีนบันได ขายน้ำ ขายขนม ถ้าสนใจก็แวะซื้อนะ จำได้ว่าตอนที่ไป
มีคนไทยไปเที่ยวด้วย แต่ไม่ได้ทักทายนะ มากลุ่มใหญ่ เกรงใจ

เมื่อมาถึงยอดภูเขา ก็ต้องลงทันที เพราะมันเหม็นกลิ่นควันมาก เป็นกลิ่นกำมะถัน ไม่ไหวจริง ๆ ขอตัวไปสูดอากาศด้านล่างดีกว่า

วิวจากมุมบนเขา

เปลี่ยนมุมบ้าง เดินทางไปอีกมุมเพื่อที่จะได้เห็นภาพภูเขาไฟที่เพิ่งเดินขึ้นไปแบบ 180 องศา


เราจะไม่ยอมพลาดการติดต่อ เสาสัญญาณโทรศัพท์ แรงที่สุด ณ จุดนี้

แวะกินก๋วยเตียวหน่อย ตั้งแต่เช้า กินมาแค่ ซีเรียลบาร์ กับน้ำ อาหารหนักยังไม่ตกถึงท้องเลย
เป็นก๋วยเตียวที่พอทานได้ ไม่ได้อร่อยมาก กินกันเป็นลม เพราะเสียแรงจากการเดินขึ้นเขามาเยอะ


ระหว่างทางกลับ ก็แวะน้ำตก สัมผัสความเย็นกันเสียหน่อย



ความเชื่อของคนที่นั่น การอาบน้ำที่บ่อน้ำ จะช่วยให้คงความเป็นหนุ่มเป็นสาว โดยจะมีบ่อแยกระหว่างชายและหญิง
เห็นคนพื้นที่นิยมไปอาบน้ำกัน แบบไม่ขาดสาย


ก่อนวันเดินทางไปประเทศ ติมอร์ตะวันออก ก็แวะไปขึ้นเครื่องที่สุราบายา บินไปที่ บาหลี เพื่อวันรุ่งขึ้นต่อเครื่อง
ไปประเทศติมอร์ตะวันออกกันต่อ เลยแวะเที่ยวแหล่งผลิตยาสูบกันหน่อย เพราะคนที่นั่นสูบบุหรี่เยอะมาก
โรงงานแห่งนี้ ไม่ได้ใช้เครื่องจักรในการผลิตนะ เค้าใช้คนนั่งม้วนบุหรี่ ไม่ได้เก็บภาพมาฝาก เพราะเค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ
ถ่ายภาพได้แค่ภายนอกเท่านั้น จะว่าไป ยาสูบของที่นั่น หอมดีนะ เพราะมันส่วนผสมเป็นสมุนไพรด้วยมั่ง




มีบริการรถทัวร์รอบเมืองด้วยนะ เค้าจะพาไปชมเมือง (ฟรี) จำได้ว่ามี 3 เวลา แต่ละรอบจะพาไปชมเมืองต่างกัน
ถ้าอยากชมทั่วเมืองก็ต้องไปทั้ง 3 รอบ แต่ จขกท. ขอแค่รอบเดียวพอ

หลังจากที่พาออกทะเลอินโด ไปไกล ก็ถึงเวลาไปเยี่ยมเยือนประเทศที่เพิ่งเปิดให้ท่องเที่ยวจริงจัง ยังถือว่าเป็นประเทศใหม่
การพัฒนาด้านต่าง ๆ ก็ยังไม่เยอะมาก แต่ก็ไม่ถือว่าขัดสนอะไร ผู้คนก็น่ารักดี
ประเทศ ติมอร์ตะวันออก


คนไทยสามารถขอวีซ่าที่นั่นได้เลย จะมีเอกสารให้กรอกเป็นใบ ตม. กับใบผ่านศุลกากร กรอกให้ครบ
เพราะบนเครื่องบิน พนักงานแจกแค่ใบผ่านศุลกากร พอไปยื่น โดนไล่กลับไป กรอก ใบ ตม.
พอกรอกใบ ตม. เสร็จ ไล่กลับไปจ่ายค่าวีซ่า ข้างนอก สรุป กว่าจะได้เข้าประเทศ เดินวนอยู่ 3 รอบ

เพิ่มเติมอีกนิด เจ้าหน้าที่ที่นั่น สแกนกระเป๋ากันจริงจังมาก สแกนทุกคน ทุกกระเป๋า ไม่มีการสุ่มตรวจ

สภาพเมืองก็จะเงียบ ๆ ประมาณนี้ ความเป็นธรรมชาติยังมีอยู่เยอะ ความเจริญยังไม่เข้ามาเต็มที
เพราะเพิ่งพัฒนาประเทศมาได้สิบกว่าปี




ต่อจากนี้ก็ชมภาพกันไปยาว ๆ เลยนะ เพราะเดินเล่นรอบเมือง อากาศร้อนน้อยกว่าบ้านเรานิดหน่อย






วันต่อมาได้จองทัวร์เอาไว้ ไกด์ก็ได้บอกเล่าประวัติศาสตร์ของประเทศ การสู้รบกว่าจะได้เป็นอิสระ
ก็แอบน่าเบื่อและง่วงนอน แต่มันก็เป็นจุดขายของประเทศนี้ ก็นั่งชมนกชมไม้กันไป ได้ไปชมสถานที่ต่าง ๆ
หลายที แม้กระทั่ง คุกที่ไว้ขังนักโทษ ชมภาพกันไปยาว ๆ






ในที่สุด เราก็พาท่านมาถึงแลนด์มาร์คของประเทศนี้ รูปปั้นพระเยซู จากมุมข้างบนมองลงมาด้านล่างสวยมาก
ไปตอนเย็นพระอาทิตย์ใกล้จะตก อากาศไม่ร้อน โรแมนติกมาก คนพื้นที่ไปวิ่งออกกำลังกายกันเยอะมาก


วันต่อมาก็ไปเที่ยวอีกฝั่งหนึ่ง ชมภาพกันยาว ๆ





เป็นคุกที่สวยดีนะ ติดทะเล บรรยายกาศดี



และก็ได้เวลาเดินทางกลับ ลาก่อน ติมอร์ตะวันออก จนกวา่จะได้พบกันใหม่


ยังไม่จบ แวะเที่ยวที่บาหลีก่อน เดินทางท่องเที่ยวทั้งที จะจบแค่นี้ไม่ได้
ผู้คนที่นั่น จะผูกผันกับศาสนามาก ทุกวันต้องมีงานบุญ มีความเป็นเอกลักษณ์ค่อนข้างสูง

เหมือนเดิม ชมภาพกันไปยาว ๆ





พามาชมบ้านของผู้ปกครองหรือเจ้าเมืองของที่นั่นบ้าง


เดินทางแบบร้อน ๆ ก็แวะน้ำตก แวะบ่อน้ำพุร้อนเสียหน่อย




พระอาทิตย์ตกดิน คืนสุดท้ายก่อนเดินทางกลับประเทศ


เดินทางโดยสวัสดิภาพ