ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต
และผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เรือล่ม
ทีภูเก็ตในปี 60 ด้วยนะครับ

หลังเกิดเรื่อง
ไทยเราสูญเสียจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนทันที
และเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ที่เข้ามาเที่ยวไทยมากที่สุด บรรลัยสิเพ่
ตามด้วยความเชื่อมั่น
ด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ที่แหลกสลายกลายเแนเถ้าธุลี
แถมด้วยไก้โต้งแก่ๆกาลีเมืองที่ขันไม่ดูเวลาอีกตัว
ทำให้สถานการณ์เข้าขั้นตรีฑูตทีเดียว

จึงเป็นงานหนักของ ททท. กระทรวงท่องเที่ยว
ที่ตอนแรกต้องพยายามเอาใจ นทท.จีนสารพัดวิธี
ทั้งลดแลกแจกแถมจนตั้งหลักได้ในเวลาไม่นานนัก
ว่า ประเทศกูไม่ได้รับแค่เงินหยวนนี่หว่า
เงินสกุลอื่นเราก็รับได้ รูปี รูเบิ้ล ดอลล่า ก็ว่าไป
เมื่อจีนหายไป นทท.ชาติอื่นก็พร้อมเข้ามาเที่ยวทันที
เเม้จะมีบางเดือนที่จำนวน นทท.ลดลง(ตค.61)
แต่รายได้เทียบปีต่อปีไทยเราไม่ลดเลยสักเดือน
มันก็เป็นเรื่องเเปลกที่ประเทศอันมีสกุลเงิน
แข็งยิ่งกว่าหินกลับเป็นจุดหมายของ นทท.
จากทั่วทุกมุมโลก พิลึกดีเนอะ

บทเรียนครั้งนี้สอนประเทศไทยหลายอย่าง
ทั้งเรื่องความปลอดภัย และเป้าหมายใหม่ๆ
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวเช่นอินเดีย
ที่เราเริ่มรุกเข้าไปแล้ว ส่วนจีนเราก็ไม่ได้ทิ้งขว้าง
มีเลี้ยงข้าวเหนียวมะม่วงเอาใจสักหน่อย7.48ล้าน
แต่ไก่โต้งแก่ๆตัวนั้นก็ปล่อยๆไปเถอะแกแก่แบ้ว 😆
ด้วยธรรมชาติ ภูมิประเทศ การคมนาคม
ที่เรายังได้เปรียบเพื่อนบ้านอยู่ จึงพออุ่นใจได้บ้าง
ว่าเราคงยังครองตำแหน่งที่ นทท.มุ่งตรงมาเที่ยว
แต่ต่อไปละความท้าทายจากคู่แข่งยิ่งทวีความรุนแรงหาก ททท.และกระทรวงท่องเที่ยว ทำงานหนัก
เท่าปีที่ผ่านมา คนไทยเบาใจได้ครับ
การท่องเที่ยวบ้านเราไปได้อีกไกล
.
.
.
เอ่อออออ ไก่โต้งตัวนั้นคงหมเสภาพไวๆนี้
อย่าเป็นห่วงไปครับผม 😆😆😆😆😆




ขอบคุณน้องเบอรี่ สาวงามเมืองแปดริ้วคราฟ