ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนที่ไม่เคยไปเที่ยวด้วยตัวเองเลยยย
วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกแบบกระทันหัน และจะต้องเป็นคนวางแพลนเที่ยวเองอีกด้วย เรามีเวลาเตรียมตัวแค่เดือนครึ่ง!! (โอ๊ยคือมันเร็วมากนะสำหรับเราแล้วฮ่องกงเป็นประเทศที่เราไม่เคยคิดเลยว่าจะไป คือเราอยากไปเที่ยวพวกสวนดอกไม้ ทะเลทราย ทะเลสาบ อะไรประมาณนี้อะ) เอาไงหละไปฮ่องกงไปไหนดี เราเริ่มจากการอ่านรีวิวของหลายๆคนที่เคยไปมาแล้ว ก็เลยคิดว่าจะไปแลนมาร์คที่สำคัญๆ (แต่เราจะไม่ไปดิสนีย์แลนด์กับโอเชียนปาร์คนะ เอาไว้ค่อยมาคราวหน้า 555) สำหรับทริปนี้เราว่าก็ไม่เลวนะสำหรับมือใหม่หัดเที่ยวแบบเรา
DAY 1 การเดินทางคือการมองหาอะไรใหม่ๆ (ที่ต้องมองเพราะถ้าหลับตาจะไม่เห็นอะไรนะจ๊ะ)
การเตรียมตัว/สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนการเดินทาง
1.ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพ-ฮ่องกง (เราจองของ CATHAY PACIFIC ราคา 7350 บาท มีอาหารบริการบนเครื่อง 1 มื้อ อิ่มแน่นอน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.จองที่พัก (เราเลือกพักแถว Tsim Sha Tsui เนื่องจากอยู่ใกล้ MTR และป้าย Bus stop) คือ Russian Hostel ราคา 1500 บาท/คืน
3.แลกเงินฮ่องกง 1 HKD = 4.13 Bath (คำนวณรายจ่ายให้ดีละ ค่าอาหารและน้ำดื่มราคาจะสูงกว่าไทยมากมื้อนึงประมาณ 400 บาทขึ้นไป สำหรับ 2 คน อ่ออย่าลืมค่าเดินทาง (เราไป6วันค่าเดินทางอยู่ที่ 800 บาท แบบประหยัดๆนะเน้นเดินชมวิว) กับเงินสำหรับช๊อปปิ้ง
4.ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว เราแนะนำให้จองผ่าน Agency ในไทยจะถูกกว่า
5.เตรียมเอกสาร เช่น ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต ใบขาเขาตม. เอกสารการจองที่พัก ใบรับรองการทำงาน(Eng.)(ถ้ามี)
6.ซิมการ์ด (โดยส่วนตัวเราแล้วเราใช่ไวไฟฟรี ไวไฟฟรีมีอยู่ทุกที่ #ทุกที่จริงๆนะ แต่ก็มีข้อจำกัดเนื่องหลายอย่างถ้าศึกษาการเดินทางมาไม่ดีก็อาจหลงได้) ถ้าจะให้ดีก็ซื้อไปจะดีกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับเราผู้อ่านรีวิวมาเยอะมากกกกก ขอแนะนำ ABC และ AIS2fly แต่ถ้าไปหลายๆคนเป็นพ๊อกเก็ตไวไฟจะถูกกว่า
การเดินทาง
7.ศึกษาการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ (โดยส่วนตัวเราเน้นเดินทางโดย MTR เราก็จะดูว่าต้องขึ้นจากไหนไปลงตรงไหน)
ตาราง MTR นะคะ ดูให้ดีนะว่าต้องขึ้นสายไหนลงสายไหน
เราเริ่มเดินทางจากพัทยาไปสนามบินสุวรรณภูมิโดยแอร์พอตลิ้ง ไปถึงก็ประมาณ 11.00 ค่ารถอยู่ที่ 120 บาท จากนั้นก็ไปหาอะไรทานและไปเช็คอิน ไฟท์ที่จองไว้คือ 13.05 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชม. (เวลาที่ฮ่องกงเร็วกว่าไทย 1 ชม.นะจ๊ะแนะนำให้บินเช้ากว่านี้จะได้ไม่ถึงมืด)
1.เมื่อเครื่องบินแลนดิ้งแล้วก็เดินตามป้าย Immigration ไปเลยจ้า ถึงแล้วจะเข้าด้านซ้ายหรือขวาก็ได้ พอผ่านตม.แล้วจะมีเอกสารเล็กๆแนบมาด้วยเก็บให้ดีนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนอยู่บนเครื่องพนักงานจะแจกใบขาเข้าตม.กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนนะจ๊
ขออนุญาติยืมรูปมาจากอากู๋
เมื่อผ่านตม.เรียบร้อยแล้วก็เดินไปเอากระเป๋าและออกไปโซน Arrivals Hall เลยจ้า
2. Octopus card คือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยจ้าเพราะใช้จ่ายค่า Bus MTR รถราง เรือเฟอรี่ และยังสามารถใช้จ่ายที่เคาน์เตอร์ต่างๆ แถมยังมีส่วนลดให้อีกด้วย (เช่นค่า MTR ต้องจ่าย 15 HKD จ่ายผ่านบัตร Octopus 13.5 HKD) หาซื้อได้ที่เคาน์เตอร์สีเขียวๆ เดินออกมาจาก Arrivals Hall ก็เจอเลยจ้า และสามารถซื้อและเติมเงินได้ตามสถานี MTR โดยการเติมจะใช้แค่แบงค์ 50 และ 100 HKD (ค่าบัตรอยู่ที่ 150 HKD ใช้ได้จริง 100 HKD อีก 50 เป็นค่ามัดจำ)
3.การเดินทางจาก Hong Kong International Airport to City โดย Bus A21 (เนื่องจากราคาถูกที่สุดและสะดวกมากกก)
เดินตามป้าย To City ไปยัง Bus station เราจะเดินทางเข้าเมืองโดย Bus A21 พอออกมาก็เดินไปทางขวามองหาป้าย A21 รถบัสสายนี้จะวิ่งจากสานามบินไปในตัวเมือง โดยจะจ่ายผ่านบัตร Octopus 33 HKD ขาขึ้นและลงให้แตะบัตรที่ด้านหน้าทางขึ้น (ถ้าไม่แตะขาลงจะได้จ่ายเต็มนะจ๊) ในรถบัสจะมีที่วางกระเป๋าให้ สะดวกมาก และไม่ต้องกลัวหลงนะจ๊ะเพราะจะมีจอบอกจุด Bus stop จะลงก็กดกริ่งก่อนจะถึง สำหรับตารางรถบัสแนะนำดูจากแอพนี้เลย City Bus &New World First Bus
หลังจากขึ้นบัสมาลงที่ Middle Rd., Nathan Rd. เนื่องจากจองที่พักไว้ที่ตึก Chungking Mansions block D ชั้น 16 คือ Russian Hostel เราก็เดินย้อนขึ้นมาประมาณ 50 เมตรก็จะเจอตึกอยู่ตรงข้ามกับห้าง I-square ก็ขึ้นไปเช็คอินเก็บกระเป๋า และออกมาหาอะไรกิน
ห้องพักก็ประมาณนี้เลยแคบมากเพราะเนื่องจากฮ่องกงเป็นเกาะจึงอยู่กันแบบตึก
Day 2 เข้าวัดทำบุญ เดินเล่นสวนหนานเลียน
วันนี้เราจะไปตามคำล่ำลือที่ว่ากันว่าถ้าเรามาขอพรที่วัดหวังต้าเซียนจะสมหวัง (เรื่องเนื้อคู่) ก่อนอื่นเลยกองทัพต้องเดินด้วยท้อง วันนี้จะมาทานติ่มซำกันเราไม่ได้ดูรีวิวร้านอาหารมาเลยเดินหาแถวๆที่พักได้ร้านนี้ Canton's Dim Sum Expert อหารอร่อยยมากโดยเฉพาะเกี้ยวกุ้ง ทีฮ่องกงร้านอาหารมักจะเสริฟน้ำชามาด้วย ไม่ฟรีนะจ๊ะ
เติมพลังเสร็จก็ได้เวลาเดินทางเราจะขึ้น MTR จากสถานี Tsim Sha Tsui เปลี่ยนเป็นสายสีเขียวที่ Yau Ma Tei เป็น Kwun Tong Tai ไปลงสถานี Wong Tai Sin exit B3 เมื่อเดินออกมาจะเจอห้าง Lung Cheung Plaza อยู่ทางซ้าย เดินไปทางกำแพงด้านขวา มีธูปขายหาซื้อได้เลย
การไหว้ 1.เทพพระเจ้าหวังต้าเซียน
2.เจ้าแม่กวนอิม
3.ศาลเจ้าที่
4.เทพหลุคโหลว(เทพเจ้าแห่งความรัก) เราจะทำมือตามรูปแล้วนำด้ายแดงมากใส่ตรงนิ้วชี้และนิ้วกลางทั้งสองข้าง สำหรับผู้หญิงเริ่มจากไหว้เทพหลุคโหลวก่อน 3 ครั้ง จากนั้นอธิษฐานขอคู่จากรูปปั้นหญิงสาวแล้วไหว 3 ครั้ง จากนั้นเดินไปที่รูปปั้นผู้ชาย แล้วใช้มือลูบเท้า 3 ครั้ง แล้วนำด้ายแดงผูกไว้ที่เชือก สำหรับผู้ชายก็ทำตรงกันข้าม
หลังจากไหว้ขอพรเสร็จเราก็ไปเดินเล่นที่สวนหนานเลียนและสำนักชีฉีหลิน โดยขึ้น MTR ไปลงสถานี Diamond Hill exit C จะเจอ Plaza Hollywood ให้เดินไปทางขวามือตามถนนจะมีป้ายบอกทางตลอด แล้วจะเจอสวนสาธารณะหนานเลียนต้องข้ามถนนไปอีกฝั่ง ข้ามสะพานเชื่อมไปจะเจอสำนักชี
ส่วนตอนเย็นเราก็มาเราดู The Symphony Of Lights เราเลือกมาดูที่ Avenue of Stars แต่กลับต้องผิดหวังเนื่องจากกำลังปิดซ่อมแซมทำให้เห็นวิวไม่ค่อยดีเท่าไร
Day 3 Repulse Bay & The Peak & The Sky Terrace
เราขึ้น MTR สถานี Tsim Sha Tsui ไปสถานี Central exit A และเราจะไปต่อรถเมล์ที่ใต้ตึก Exchange Square ซึ่งเป็นแห่งรวมรถเมล์ สำหรับเราที่จะเดินทางไป Repulse Bay ขึ้นรถเมล์สาย 6, 6A, 6X,66 หรือ 260 ก็ได้ แต่ถ้าอยากไวใช้สาย 260 ค่าตั๋ว 10.6 HKD ใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยสังเกตุตึกที่มีรูตรงกลางให้กดลงตรงใต้ตึก
จะเห็นหาด Repulse Bay สำหรับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมริมหาด จะอยู่ทางซ้ายมือเดินไปประมาณ 400 เมตรก็ถึง เราจะพบรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิมเป็นองค์แรกทางด้านขวาคู่กันก็คือเจ้าแม่ทับทิม
หลังจากไหว้ขอพรเสร็จก็เดินเล่นชายหาดพอสมควรเราก็มานั่งบัสกลับไปที่เดิมเพื่อไป The Peak ขากลับก็มาขึ้นบัสตรงจุดที่เราลงแต่เป็นฝั่งที่เราข้ามมานั้นแหละ
การเดินทางไป The Peak Tower สามารถไปได้ 2 ทาง คือ รถราง และบัส เราเลือกขึ้นไปโดยรถบัสเพราะขี้เกียจเดินไปขึ้นรถรางโดยจะต่อบัส สาย 15 จากใต้ตึก Exchange Square
ขากลับเราก็นั้งบัสกลับเพราะคนต่อคิวรถรางมหาศาลมากกเรานั้งบัสมาลงตรงท่าเรือและนั้งเรือกลับฝั่งเกาลูน ออกจากท่าเรือมาก็จะเจอกับห้าง Harbour City ก็ทานมื้อเย็นในห้างนี่แหละและด้วยความที่วันนี้เดินเยอะมากทำให้เราเลือกที่จะพักผ่อนก่อนแล้วค่อยไปเที่ยวต่อพรุ่งนี้
บรรยากาศตอนนั่งเรือดีเว่อร์
Day 4 ไหว้พระใหญ่วัดโปลิน นั้งกระเชานอนปิง ช๊อปปิ้งที่ CityGate Outlet
วันนี้เราจะไปเที่ยวฝั่งลันเตากัน โดยขึ้น MTR จากสถานี Tsim Sha Tsui (สายสีแดง) และจะเปลี่ยนเป็นสายสีส้มที่สถานี Lai King ไปสถานีสุดท้ายคือ Tung Chung exit B เพื่อไปต่อบัสขึ้นไปนอนปิงโดยขึ้นบัสสาย 23 ซึ่งจะอยู่เลยทางขึ้นกระเช้านอนปิงไปนิดนึง
การเดินขึ้นไปสักการะพระใหญ่ทินถ่านจะต้องเดินขึ้นบันไดไป 268 ขั้น (หอบรับประทานจ้าา) สำหรับมื้อกลางวันเราก็หาทานที่หมู่บ้านนอนปิงเนี่ยแหละ ได้เป็นบะหมี่หมู
หลังจากท้องอิ่มก็มาเดินเล่นหมู่บ้านนอนปิง จะมีร้านค้าร้านขายของที่ระลึกเต็มเลย เดินจนพอใจก็มาต่อคิวขึ้นกระเช้ากลับลงไปข้างล่างกันค่ะ
โอ๊ยบอกเลยว่านั้งกระเช้าเสียวมากกก สำหรับจุดหมายต่อไปก็คือ CityGate Outlet ช๊อปสิค่ะรออะไร ช่วงนี้เหมือนจะเป็นช่วงบิ๊กเซลของหลายๆแบรนด์ลดราคาเยอะมาก ซึ่งเราใช้เวลาช๊อปปิ้งไปเกือบ 4 ชั่วโมงเต็ม ช๊อปเสร็จก็กลับมาทานมื้อเย็นแถวๆที่พัก (ขากลับก็นั้ง MTR กลับเหมือนขาไปเลยค่ะ)
มื้อนี้ได้ข้าวผัดฮ่องกงมาทาน (อร่อยแปลก 555)
ต่อด้วยชานมไข่มุก (อันนี้แอบมากินตามรีวิว) อร่อยจริงจัง คนต่อคิวเยอะมว๊ากกก
Hong Kong 5 คืน 6 วัน ตะลุยเที่ยวแลนด์มาร์ค
วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกแบบกระทันหัน และจะต้องเป็นคนวางแพลนเที่ยวเองอีกด้วย เรามีเวลาเตรียมตัวแค่เดือนครึ่ง!! (โอ๊ยคือมันเร็วมากนะสำหรับเราแล้วฮ่องกงเป็นประเทศที่เราไม่เคยคิดเลยว่าจะไป คือเราอยากไปเที่ยวพวกสวนดอกไม้ ทะเลทราย ทะเลสาบ อะไรประมาณนี้อะ) เอาไงหละไปฮ่องกงไปไหนดี เราเริ่มจากการอ่านรีวิวของหลายๆคนที่เคยไปมาแล้ว ก็เลยคิดว่าจะไปแลนมาร์คที่สำคัญๆ (แต่เราจะไม่ไปดิสนีย์แลนด์กับโอเชียนปาร์คนะ เอาไว้ค่อยมาคราวหน้า 555) สำหรับทริปนี้เราว่าก็ไม่เลวนะสำหรับมือใหม่หัดเที่ยวแบบเรา
DAY 1 การเดินทางคือการมองหาอะไรใหม่ๆ (ที่ต้องมองเพราะถ้าหลับตาจะไม่เห็นอะไรนะจ๊ะ)
การเตรียมตัว/สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนการเดินทาง
1.ตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพ-ฮ่องกง (เราจองของ CATHAY PACIFIC ราคา 7350 บาท มีอาหารบริการบนเครื่อง 1 มื้อ อิ่มแน่นอน)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.จองที่พัก (เราเลือกพักแถว Tsim Sha Tsui เนื่องจากอยู่ใกล้ MTR และป้าย Bus stop) คือ Russian Hostel ราคา 1500 บาท/คืน
3.แลกเงินฮ่องกง 1 HKD = 4.13 Bath (คำนวณรายจ่ายให้ดีละ ค่าอาหารและน้ำดื่มราคาจะสูงกว่าไทยมากมื้อนึงประมาณ 400 บาทขึ้นไป สำหรับ 2 คน อ่ออย่าลืมค่าเดินทาง (เราไป6วันค่าเดินทางอยู่ที่ 800 บาท แบบประหยัดๆนะเน้นเดินชมวิว) กับเงินสำหรับช๊อปปิ้ง
4.ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว เราแนะนำให้จองผ่าน Agency ในไทยจะถูกกว่า
5.เตรียมเอกสาร เช่น ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต ใบขาเขาตม. เอกสารการจองที่พัก ใบรับรองการทำงาน(Eng.)(ถ้ามี)
6.ซิมการ์ด (โดยส่วนตัวเราแล้วเราใช่ไวไฟฟรี ไวไฟฟรีมีอยู่ทุกที่ #ทุกที่จริงๆนะ แต่ก็มีข้อจำกัดเนื่องหลายอย่างถ้าศึกษาการเดินทางมาไม่ดีก็อาจหลงได้) ถ้าจะให้ดีก็ซื้อไปจะดีกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเดินทาง
7.ศึกษาการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ (โดยส่วนตัวเราเน้นเดินทางโดย MTR เราก็จะดูว่าต้องขึ้นจากไหนไปลงตรงไหน)
ตาราง MTR นะคะ ดูให้ดีนะว่าต้องขึ้นสายไหนลงสายไหน
เราเริ่มเดินทางจากพัทยาไปสนามบินสุวรรณภูมิโดยแอร์พอตลิ้ง ไปถึงก็ประมาณ 11.00 ค่ารถอยู่ที่ 120 บาท จากนั้นก็ไปหาอะไรทานและไปเช็คอิน ไฟท์ที่จองไว้คือ 13.05 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชม. (เวลาที่ฮ่องกงเร็วกว่าไทย 1 ชม.นะจ๊ะแนะนำให้บินเช้ากว่านี้จะได้ไม่ถึงมืด)
1.เมื่อเครื่องบินแลนดิ้งแล้วก็เดินตามป้าย Immigration ไปเลยจ้า ถึงแล้วจะเข้าด้านซ้ายหรือขวาก็ได้ พอผ่านตม.แล้วจะมีเอกสารเล็กๆแนบมาด้วยเก็บให้ดีนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เมื่อผ่านตม.เรียบร้อยแล้วก็เดินไปเอากระเป๋าและออกไปโซน Arrivals Hall เลยจ้า
2. Octopus card คือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยจ้าเพราะใช้จ่ายค่า Bus MTR รถราง เรือเฟอรี่ และยังสามารถใช้จ่ายที่เคาน์เตอร์ต่างๆ แถมยังมีส่วนลดให้อีกด้วย (เช่นค่า MTR ต้องจ่าย 15 HKD จ่ายผ่านบัตร Octopus 13.5 HKD) หาซื้อได้ที่เคาน์เตอร์สีเขียวๆ เดินออกมาจาก Arrivals Hall ก็เจอเลยจ้า และสามารถซื้อและเติมเงินได้ตามสถานี MTR โดยการเติมจะใช้แค่แบงค์ 50 และ 100 HKD (ค่าบัตรอยู่ที่ 150 HKD ใช้ได้จริง 100 HKD อีก 50 เป็นค่ามัดจำ)
3.การเดินทางจาก Hong Kong International Airport to City โดย Bus A21 (เนื่องจากราคาถูกที่สุดและสะดวกมากกก)
เดินตามป้าย To City ไปยัง Bus station เราจะเดินทางเข้าเมืองโดย Bus A21 พอออกมาก็เดินไปทางขวามองหาป้าย A21 รถบัสสายนี้จะวิ่งจากสานามบินไปในตัวเมือง โดยจะจ่ายผ่านบัตร Octopus 33 HKD ขาขึ้นและลงให้แตะบัตรที่ด้านหน้าทางขึ้น (ถ้าไม่แตะขาลงจะได้จ่ายเต็มนะจ๊) ในรถบัสจะมีที่วางกระเป๋าให้ สะดวกมาก และไม่ต้องกลัวหลงนะจ๊ะเพราะจะมีจอบอกจุด Bus stop จะลงก็กดกริ่งก่อนจะถึง สำหรับตารางรถบัสแนะนำดูจากแอพนี้เลย City Bus &New World First Bus
หลังจากขึ้นบัสมาลงที่ Middle Rd., Nathan Rd. เนื่องจากจองที่พักไว้ที่ตึก Chungking Mansions block D ชั้น 16 คือ Russian Hostel เราก็เดินย้อนขึ้นมาประมาณ 50 เมตรก็จะเจอตึกอยู่ตรงข้ามกับห้าง I-square ก็ขึ้นไปเช็คอินเก็บกระเป๋า และออกมาหาอะไรกิน
ห้องพักก็ประมาณนี้เลยแคบมากเพราะเนื่องจากฮ่องกงเป็นเกาะจึงอยู่กันแบบตึก
Day 2 เข้าวัดทำบุญ เดินเล่นสวนหนานเลียน
วันนี้เราจะไปตามคำล่ำลือที่ว่ากันว่าถ้าเรามาขอพรที่วัดหวังต้าเซียนจะสมหวัง (เรื่องเนื้อคู่) ก่อนอื่นเลยกองทัพต้องเดินด้วยท้อง วันนี้จะมาทานติ่มซำกันเราไม่ได้ดูรีวิวร้านอาหารมาเลยเดินหาแถวๆที่พักได้ร้านนี้ Canton's Dim Sum Expert อหารอร่อยยมากโดยเฉพาะเกี้ยวกุ้ง ทีฮ่องกงร้านอาหารมักจะเสริฟน้ำชามาด้วย ไม่ฟรีนะจ๊ะ
เติมพลังเสร็จก็ได้เวลาเดินทางเราจะขึ้น MTR จากสถานี Tsim Sha Tsui เปลี่ยนเป็นสายสีเขียวที่ Yau Ma Tei เป็น Kwun Tong Tai ไปลงสถานี Wong Tai Sin exit B3 เมื่อเดินออกมาจะเจอห้าง Lung Cheung Plaza อยู่ทางซ้าย เดินไปทางกำแพงด้านขวา มีธูปขายหาซื้อได้เลย
การไหว้ 1.เทพพระเจ้าหวังต้าเซียน
2.เจ้าแม่กวนอิม
3.ศาลเจ้าที่
4.เทพหลุคโหลว(เทพเจ้าแห่งความรัก) เราจะทำมือตามรูปแล้วนำด้ายแดงมากใส่ตรงนิ้วชี้และนิ้วกลางทั้งสองข้าง สำหรับผู้หญิงเริ่มจากไหว้เทพหลุคโหลวก่อน 3 ครั้ง จากนั้นอธิษฐานขอคู่จากรูปปั้นหญิงสาวแล้วไหว 3 ครั้ง จากนั้นเดินไปที่รูปปั้นผู้ชาย แล้วใช้มือลูบเท้า 3 ครั้ง แล้วนำด้ายแดงผูกไว้ที่เชือก สำหรับผู้ชายก็ทำตรงกันข้าม
หลังจากไหว้ขอพรเสร็จเราก็ไปเดินเล่นที่สวนหนานเลียนและสำนักชีฉีหลิน โดยขึ้น MTR ไปลงสถานี Diamond Hill exit C จะเจอ Plaza Hollywood ให้เดินไปทางขวามือตามถนนจะมีป้ายบอกทางตลอด แล้วจะเจอสวนสาธารณะหนานเลียนต้องข้ามถนนไปอีกฝั่ง ข้ามสะพานเชื่อมไปจะเจอสำนักชี
ส่วนตอนเย็นเราก็มาเราดู The Symphony Of Lights เราเลือกมาดูที่ Avenue of Stars แต่กลับต้องผิดหวังเนื่องจากกำลังปิดซ่อมแซมทำให้เห็นวิวไม่ค่อยดีเท่าไร
Day 3 Repulse Bay & The Peak & The Sky Terrace
เราขึ้น MTR สถานี Tsim Sha Tsui ไปสถานี Central exit A และเราจะไปต่อรถเมล์ที่ใต้ตึก Exchange Square ซึ่งเป็นแห่งรวมรถเมล์ สำหรับเราที่จะเดินทางไป Repulse Bay ขึ้นรถเมล์สาย 6, 6A, 6X,66 หรือ 260 ก็ได้ แต่ถ้าอยากไวใช้สาย 260 ค่าตั๋ว 10.6 HKD ใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยสังเกตุตึกที่มีรูตรงกลางให้กดลงตรงใต้ตึก จะเห็นหาด Repulse Bay สำหรับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมริมหาด จะอยู่ทางซ้ายมือเดินไปประมาณ 400 เมตรก็ถึง เราจะพบรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิมเป็นองค์แรกทางด้านขวาคู่กันก็คือเจ้าแม่ทับทิม
หลังจากไหว้ขอพรเสร็จก็เดินเล่นชายหาดพอสมควรเราก็มานั่งบัสกลับไปที่เดิมเพื่อไป The Peak ขากลับก็มาขึ้นบัสตรงจุดที่เราลงแต่เป็นฝั่งที่เราข้ามมานั้นแหละ
การเดินทางไป The Peak Tower สามารถไปได้ 2 ทาง คือ รถราง และบัส เราเลือกขึ้นไปโดยรถบัสเพราะขี้เกียจเดินไปขึ้นรถรางโดยจะต่อบัส สาย 15 จากใต้ตึก Exchange Square
ขากลับเราก็นั้งบัสกลับเพราะคนต่อคิวรถรางมหาศาลมากกเรานั้งบัสมาลงตรงท่าเรือและนั้งเรือกลับฝั่งเกาลูน ออกจากท่าเรือมาก็จะเจอกับห้าง Harbour City ก็ทานมื้อเย็นในห้างนี่แหละและด้วยความที่วันนี้เดินเยอะมากทำให้เราเลือกที่จะพักผ่อนก่อนแล้วค่อยไปเที่ยวต่อพรุ่งนี้
บรรยากาศตอนนั่งเรือดีเว่อร์
Day 4 ไหว้พระใหญ่วัดโปลิน นั้งกระเชานอนปิง ช๊อปปิ้งที่ CityGate Outlet
วันนี้เราจะไปเที่ยวฝั่งลันเตากัน โดยขึ้น MTR จากสถานี Tsim Sha Tsui (สายสีแดง) และจะเปลี่ยนเป็นสายสีส้มที่สถานี Lai King ไปสถานีสุดท้ายคือ Tung Chung exit B เพื่อไปต่อบัสขึ้นไปนอนปิงโดยขึ้นบัสสาย 23 ซึ่งจะอยู่เลยทางขึ้นกระเช้านอนปิงไปนิดนึง
การเดินขึ้นไปสักการะพระใหญ่ทินถ่านจะต้องเดินขึ้นบันไดไป 268 ขั้น (หอบรับประทานจ้าา) สำหรับมื้อกลางวันเราก็หาทานที่หมู่บ้านนอนปิงเนี่ยแหละ ได้เป็นบะหมี่หมู
หลังจากท้องอิ่มก็มาเดินเล่นหมู่บ้านนอนปิง จะมีร้านค้าร้านขายของที่ระลึกเต็มเลย เดินจนพอใจก็มาต่อคิวขึ้นกระเช้ากลับลงไปข้างล่างกันค่ะ
โอ๊ยบอกเลยว่านั้งกระเช้าเสียวมากกก สำหรับจุดหมายต่อไปก็คือ CityGate Outlet ช๊อปสิค่ะรออะไร ช่วงนี้เหมือนจะเป็นช่วงบิ๊กเซลของหลายๆแบรนด์ลดราคาเยอะมาก ซึ่งเราใช้เวลาช๊อปปิ้งไปเกือบ 4 ชั่วโมงเต็ม ช๊อปเสร็จก็กลับมาทานมื้อเย็นแถวๆที่พัก (ขากลับก็นั้ง MTR กลับเหมือนขาไปเลยค่ะ)
มื้อนี้ได้ข้าวผัดฮ่องกงมาทาน (อร่อยแปลก 555)
ต่อด้วยชานมไข่มุก (อันนี้แอบมากินตามรีวิว) อร่อยจริงจัง คนต่อคิวเยอะมว๊ากกก