นี้เป็นการไปเที่ยวเวียดนามครั้งแรกของผมเลยก็ว่าได้ แพลนก็ไม่มีอะไรมาก เที่ยวแบบชิลๆ ไม่รีบ อยากไปไหนไป! อยากกินอะไรกิน! อยากเที่ยวไหนเที่ยว! พูดง่ายๆ คือ อยากทำอะไรก็ทำ!

แพลนท่องเที่ยวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนการเดินทางเท่านั้นสำหรับทริป 4 วัน 3 คืน สำหรับแพลนตอนแรกที่วางไว้คือ ดานัง – เว้ – ฮอยอัน แต่ด้วยการเดินทางที่กินเวลานานบวกกับทำให้เรามีเวลาเที่ยวน้อยลงถ้าจะเที่ยวทั้งหมด 3 เมืองนี้ ผมและเพื่อนอีก 3 คนเลยตกลงกันว่า เราจะไปแค่ 2 เมือง คือ ดานังและฮอยอันพอ สำหรับแพลนคราวๆ ก็คือพักที่ดานัง 1 คืน และที่ ฮอยอัน 2 คืนครับ

DAY – 1

การเดินทางเริ่มต้นเวลา 7.30 – 8.00 โมงทุกคนมาพร้อมกันที่สนามบิน กับการเดินทางเพียงชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นจากกรุงเทพถึงสนามบินนานาชาติดานัง และพวกผมทั้งหมดก็มาถึงดานังเป็นที่เรียบร้อย สำหรับใครที่ยังไม่มีซิมการ์ดสามารถซื้อซิมการ์ดในสนามบินได้เลยครับ (ราคาประมาณ 7 US ดอลล่า หรือประมาณ 157,000 ดอง) จากสนามบินก็เดินทางต่อด้วยแท็กซี่มุ่งหน้าไปยัง Nice De Paris Hotel ออกจากสนามบินมาเหมือนตกนรกมากๆ เพราะแดดที่ร้อนราวๆ 50 องศา ทั้งร้อน ทั้งแสบไปหมด จากสนามบินเราก็มาถึงที่พัก Nice De Paris Hotel โดยใช้เวลาปรมาณ 20 นาทีเท่านั้น


หลังจากที่เอาสัมภาระเข้าโรงแรมเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่ต้องเติมพลังกัน ผมและเพื่อนเลยเดินไปร้านอาหารที่อยู่ใกล้โรงแรมเพื่อหาไรกินและตกลงกันว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนก่อนหลัง ส่วนอาหารเวียดนามนั้นมีสองรสชาดคือ จืดกับจืดมาก หลังจากนั้นก็นั่งร้านกาแฟบริเวณโรงแรมเช่นเดิม


ระหว่างที่นั่งในร้านนี้ด้วยอากาศที่เย็นฉ่ำก็ได้แพลนคร่าวๆ ตามนี้

วันที่ 1 Danang – Buddhist Temple, Danang Beach และ Dragon Bridge
วันที่ 2 Danang – Bana Hills – Hoi An
วันที่ 3 Hoi An
วันที่ 4 Hoi An – Danang – Bangkok

เวลาประมาณบ่าย 3 โมงเราก็เดินทางไปยัง Buddhist Temple  ซึ่งความโดดเด่นก็คือเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่มหึมาที่คุณจะสามารถมองเห็นจาก Danang Beach ได้อย่างชัดเจน หลังจากที่ได้แท็กซี่และบอกจุดหมายว่าจะไปที่ไหนคนขับก็พาเราไปยังจุดหมายทันที พร้อมทั้งถามกลับว่าจะให้รอรับกลับด้วยไหม? ผมคิดในใจ ฮั่นแน่! จะ-ตังกุช่ายมั้ย? ฮ่าๆๆ ทันใดนั้นเขาก็พูดเป็นภาษาเวียดนามใส่โทรศัพท์ให้เราฟัง มันมีความหมายว่า “เขาไม่คิดค่ารอนะ” Thanks GOD! เราเจอมิตรภาพแล้ว ฮ่าๆๆๆ (เป็นการ communicate ที่ยากสุด! เพราะคนขับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้) คุยไปคุยมาต่างคนก็ต่างเหนื่อยก็เลยบอกให้เขารอรับกลับเลยละกันเพราะเหนื่อยจะแปลแล้ว ฮ่าๆๆๆ


3 ชั่วโมงผ่านไปผมให้พี่แท็กซี่จอดส่งที่ Danang Beach เพราะคิดว่าคงเดินเล่นริมหาดสักพักก่อนที่จะไป Dragon Bridge ต่อ


เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปความมืดมิดก็มาเยือน เราจึงมั่นใจได้ว่าเราจะได้เห็นแสงสีและความสวยงามของ Dragon Bridge ในค่ำคืนนี้ เราทั้งหมดจึงตัดสินใจนั่งแท็กซี่ไป Dragon Bridge ซึ่งมันก็คือสะพานที่มีรูปมังกรขนาดใหญ่และมีการไล่แสงสีสลับกันให้เราเห็น แค่นั้นไม่มีอะไรมากกว่านี้ ฮ่าๆๆๆๆ


หลังจากที่ชมความสวยงามของสะพานข้ามแม่น้ำเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาอยู่ใกล้ทะเลก็คืออาหารทะเล ร้านที่ไปก็ออกไปทาง local หน่อยๆ จะได้ถือได้ว่ามาถึงเวียดนามแล้ว สำหรับมื้อนี้หมดไป 1,043,000 ดอง หรือประมาณ 1,565 บาท สำหรับ 4 คน ถือว่าไม่แพงเลย และมันเป็นอาหารทะเลมื้อแรกที่อร่อยที่สุดในดานังเลยก็ว่าได้ ฮ่าๆๆ ทริปในวันแรกของเราก็จบลงไปเพียงเท่านี้

DAY – 2

9 โมงเช้าทุกคนตื่นเพียงกายหยาบเท่านั้น วิญญาณยังคงหลับไหลอยู่ ฮ่าๆ  เพราะว่ารถที่ทางโรงแรมนัดไว้จะมารับเราในเวลา 11 โมง ทุกคนรีบอาบน้ำแต่งตัว พร้อมกับ checkout และมุ่งหน้าต่อไปยัง Bana Hills ทันที

ระหว่างทางคนขับจะจอดให้เราแวะซื้อตั๋วสำหรับ cable เพื่อขึ้นไปยัง Bana Hills (โดยราคาตั๋วต่อคนจะอยู่ที่ 700,000 ดอง หรือประมาณ 1,050 บาทครับ)


ประมาณเที่ยงพี่คนขับก็พาเรามาถึง Bana Hills เป็นที่เรียบร้อย เราทั้งหมดจึงเริ่มต้นด้วยการหาอะไรรองท้องเพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง หลังจากนั้นก็ขึ้น cable car เพื่อขึ้นไปยัง Bana Hills


Bana Hills เป็นเมืองสไตล์ยุโรปขนาดย่อมที่รวมเอาทุกอย่างไว้ที่นั้นไม่ว่าจะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ร้านอาหาร คาเฟ่ และจุดชมวิวถ่ายรูปต่างๆ ที่ต้องบอกว่าเหมือนมาเที่ยวยุโรปจริงๆ เลย แนะนำให้มาเช้าๆ นิดนึงเพราะในช่วงฤดูหนาวคุณจะสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีอีกหลายจุดที่คุณจำเป็นต้องเดินหรือนั่งกระเช้าต่อ ดังนั้นการมาเที่ยวที่นี้อาจจะต้องใช้เวลาทั้งวัน อีกเรื่องที่ห้ามพลาดเมื่อขึ้นไปข้างบนคือเก็บตั๋วของคุณไว้ให้ดีๆ เพราะมันสามารถแลกเบียร์สดได้ฟรีหนึ่งแก้วครับ