จากกระทู้ ที่ต้องขายบ้านไปเมื่อเร็วๆนี้ มีเพื่อนๆสมาชิกเข้ามาให้กำลังใจมากมาย
แม้ขายไปแล้ว ก็ยังกลับมาส่งกำลังใจให้กัน ผมขอบคุณจากใจ ครับ
แต่---- วันนี้ผมพบปัญหาใหม่ครับ ที่น่าจะใหญ่กว่าเดิม จากที่คิดว่าสบายแล้ว
เคลียร์หนี้สินได้หมด กลายเป็นว่าภรรยาผม ไม่ยอมใช้หนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด
ทั้งๆที่มีเงินส่วนต่าง จากการขายบ้านถึง 2.4 ล้านบาท
ผ่านมา 3 เดือน จนถึงวันนี้ ผมทวงถามให้แสดงหลักฐาน ว่าไปปลดหนี้มาหรือยัง
กลายเป็นว่า ยังมีหนี้สินที่เธอ ยังไม่บอกผมอีก ผมอึ้ง เหมือถูกฆ้อนปอนด์
ทุบหัว มึนงงไปหมด นี่มันอะไรกัน เป็นแบบนี้ เราคงไม่สามารถซื้อบ้านใหม่ได้แน่
เธอ บริหารเงิน บริหารร้าน จนเป็นหนี้สินพันพัวไปหมด
ยังปิดบัง ภาวะหนี้สินอีก ผมช่วยแก้ปัญหาเรื่องบ้าน
จนวันนี้ ผมยังไม่รู้ว่า ทำไมเธอยังปิดบังผม ทั้งๆที่เราอยู่ด้วยกันตลอด
แปลก ที่เธอไม่ให้ผม รับรู้ ทั้งๆที่อย่างไรผมก็ต้องรู้อยู่ดี
เธอ ยังคงไม่รู้ตัว ว่าทำอะไรลงไป ความไว้ใจ เชื่อใจของผม
ต่อเธอ ที่มีมานาน 20 กว่าปี ต้องพังทลายลงไป
ผมทำงานไปวันๆ อย่างหมดสภาพ ทุกวันต้องระแวง ว่าเธอ
จะไปก่อหนี้เพิ่มอีกไหม พี่น้องของเธอไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย
เมื่อก่อน เราแชร์เรื่องราว โดยไม่ปิดบังกัน ช่วยกันคิด
ช่วยกันทำมาตลอด มาวันนี้ ผมแปลกใจที่เธอเปลี่ยนไป
เปลี่ยนไปแบบ ไม่น่าเชื่อเลย ผมควรทำอย่างไรดีครับ
มืดแปดด้าน ยอมรับว่า ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร
ความเจ็บปวด มันจู่โจมจิตใจจนด้านชา
ความผิดหวัง ประเดประดัง เข้ามาทุกทิศทาง
เธอมีความรู้ระดับปริญญาตรี เปิดร้านมานาน 20 ปี
ผม งง ว่าทำไม เรื่องแบบนี้ เธอยังคิดไม่เป็น
ในครอบครัว เราไม่ควรปิดบังเรื่อง ปัญหาทางการเงิน กัน มิใช่หรือ /??
ความเสียใจ ผิดหวังของผม ยังน้อยกว่า ความห่วงใยของผม ต่อภรรยาและลูก
แบบนี้ ต่อไป ครอบครัวผมจะเป็นอย่างไร ทุกท่านคงเดา ตอนจบของเรื่องนี้ออก
ใช่ไหมครับ บางคน อาจถาม อ้าว รู้แบบนี้ทำไม ไม่เข้าไปช่วยจัดการ
บริหารร้าน บริหารจัดการทางการเงิน
5555 ถ้าเป็นแบบนั้น ผมคงไม่มานั่งพิมพ์ตรงนี้หรอกครับ
ใช่ครับ เธอ ไม่ให้ผมมาช่วยตรงนี้ ผมก็ไม่รู้ว่า เพราะเหตุใด
ก่อนนี้ เราทำร้านด้วยกัน จนมีเงินซื้อบ้าน 6 ล้าน (เมื่อปี 2548)
ซื้อรถ 1 คัน แล้วยังมีเงินเก็บอีก
สภาพของเรา ตอนนี้ บ้านขายไปแล้วเมื่อ ต.ค.61
รถยนต์ ปัจจุบัน ยังผ่อนอยู่อีก 3 ปี ถึงจะหมด
เงินเก็บ ไม่มี (ถ้าเอาเงินส่วนต่างไปใช้หนี้บัตรเครดิจของภรรยา)
ใช่ครับ เราย้ายอออกมาอยู่ คอนโด ตอนนี้ เราไม่มีบ้านอยู่แล้วล่ะ
ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แม้ขายไปแล้ว ก็ยังกลับมาส่งกำลังใจให้กัน ผมขอบคุณจากใจ ครับ
แต่---- วันนี้ผมพบปัญหาใหม่ครับ ที่น่าจะใหญ่กว่าเดิม จากที่คิดว่าสบายแล้ว
เคลียร์หนี้สินได้หมด กลายเป็นว่าภรรยาผม ไม่ยอมใช้หนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด
ทั้งๆที่มีเงินส่วนต่าง จากการขายบ้านถึง 2.4 ล้านบาท
ผ่านมา 3 เดือน จนถึงวันนี้ ผมทวงถามให้แสดงหลักฐาน ว่าไปปลดหนี้มาหรือยัง
กลายเป็นว่า ยังมีหนี้สินที่เธอ ยังไม่บอกผมอีก ผมอึ้ง เหมือถูกฆ้อนปอนด์
ทุบหัว มึนงงไปหมด นี่มันอะไรกัน เป็นแบบนี้ เราคงไม่สามารถซื้อบ้านใหม่ได้แน่
เธอ บริหารเงิน บริหารร้าน จนเป็นหนี้สินพันพัวไปหมด
ยังปิดบัง ภาวะหนี้สินอีก ผมช่วยแก้ปัญหาเรื่องบ้าน
จนวันนี้ ผมยังไม่รู้ว่า ทำไมเธอยังปิดบังผม ทั้งๆที่เราอยู่ด้วยกันตลอด
แปลก ที่เธอไม่ให้ผม รับรู้ ทั้งๆที่อย่างไรผมก็ต้องรู้อยู่ดี
เธอ ยังคงไม่รู้ตัว ว่าทำอะไรลงไป ความไว้ใจ เชื่อใจของผม
ต่อเธอ ที่มีมานาน 20 กว่าปี ต้องพังทลายลงไป
ผมทำงานไปวันๆ อย่างหมดสภาพ ทุกวันต้องระแวง ว่าเธอ
จะไปก่อหนี้เพิ่มอีกไหม พี่น้องของเธอไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย
เมื่อก่อน เราแชร์เรื่องราว โดยไม่ปิดบังกัน ช่วยกันคิด
ช่วยกันทำมาตลอด มาวันนี้ ผมแปลกใจที่เธอเปลี่ยนไป
เปลี่ยนไปแบบ ไม่น่าเชื่อเลย ผมควรทำอย่างไรดีครับ
มืดแปดด้าน ยอมรับว่า ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร
ความเจ็บปวด มันจู่โจมจิตใจจนด้านชา
ความผิดหวัง ประเดประดัง เข้ามาทุกทิศทาง
เธอมีความรู้ระดับปริญญาตรี เปิดร้านมานาน 20 ปี
ผม งง ว่าทำไม เรื่องแบบนี้ เธอยังคิดไม่เป็น
ในครอบครัว เราไม่ควรปิดบังเรื่อง ปัญหาทางการเงิน กัน มิใช่หรือ /??
ความเสียใจ ผิดหวังของผม ยังน้อยกว่า ความห่วงใยของผม ต่อภรรยาและลูก
แบบนี้ ต่อไป ครอบครัวผมจะเป็นอย่างไร ทุกท่านคงเดา ตอนจบของเรื่องนี้ออก
ใช่ไหมครับ บางคน อาจถาม อ้าว รู้แบบนี้ทำไม ไม่เข้าไปช่วยจัดการ
บริหารร้าน บริหารจัดการทางการเงิน
5555 ถ้าเป็นแบบนั้น ผมคงไม่มานั่งพิมพ์ตรงนี้หรอกครับ
ใช่ครับ เธอ ไม่ให้ผมมาช่วยตรงนี้ ผมก็ไม่รู้ว่า เพราะเหตุใด
ก่อนนี้ เราทำร้านด้วยกัน จนมีเงินซื้อบ้าน 6 ล้าน (เมื่อปี 2548)
ซื้อรถ 1 คัน แล้วยังมีเงินเก็บอีก
สภาพของเรา ตอนนี้ บ้านขายไปแล้วเมื่อ ต.ค.61
รถยนต์ ปัจจุบัน ยังผ่อนอยู่อีก 3 ปี ถึงจะหมด
เงินเก็บ ไม่มี (ถ้าเอาเงินส่วนต่างไปใช้หนี้บัตรเครดิจของภรรยา)
ใช่ครับ เราย้ายอออกมาอยู่ คอนโด ตอนนี้ เราไม่มีบ้านอยู่แล้วล่ะ