ถึงมื้อเย็นเมื่อวานจะจัดเต็มแค่ไหน มื้อเช้ายังไงก็ต้องจัดเต็มเหมือนกันค่ะ555
เนื่องจากวันนี้ต้องเดินทางไปหลายๆที่ในตัวเมืองกามาโกริ เราเลยลองเช่ารถมาขับเองค่ะ

ตอนเช้าจะมีรถของโรงแรม Meizanso ไปส่งถึงสถานีมิคาวามิยะค่ะ

นั่งรถไฟไปต่อถึงสถานีกามาโกริ ไปยังศูนย์ให้เช่ารถโตโยต้า
ตอนทำเรื่องขอเช่ารถ อย่าลืมพกใบขับขี่นานาชาติไปด้วยนะคะ!

พอได้รถ ก็มุ่งหน้าไปเก็บส้มกันเลยค่ะ!

Gamagouri Orange Park
http://www.orepa.jp/
ที่นี่เป็นสวนส้มที่มีชื่อเสียงของเมืองกามาโกริค่ะ ระหว่างขับรถก็สามารถเห็นทุ่งส้มมากมายในสวนค่ะ



　
บุฟเฟ่ต์ส้ม 555
ผู้ใหญ่ราคา 1,188 เยน (มัธยมต้นขึ้นไป)
เด็กราคา 1,080 เยน (ประถมขึ้นไป)
เด็กเล็กราคา 540 เยน (3ขวบขึ้นไป)

รู้สึกว่าส้มญี่ปุ่นหวานกว่าส้มไทยนะ อร่อยดีค่ะ
1,188 เยนคือ บุฟเฟ่ต์ส้ม + ส้มอีกหนึ่งตะกร้าเต็มๆค่ะ ถูกกว่านี้ไม่มีแล้วจริงๆ
ส้มสำหรับเป็นของฝากก็ถูกใช้ได้เลย

ถ้ามาเดือนมกราคมก็มีกิจกรรมเก็บสตรอว์เบอร์รี่ด้วยนะ
ผู้ใหญ่ราคา 1,944 เยนต่อคน คราวหน้าไม่พลาดแน่ค่ะ555
หลังจากกินส้มจนอิ่มก็ไปต่อกันที่ตลาดปลาในเมืองกามาโกริกันค่ะ

อาหารอร่อยประจำเมืองกามาโกริ ปลาเมฮิคาริทอด รับประกันความอร่อยค่ะ


ปูทาคาอาชิ ตัวนี้ประมาณ15,000เยนค่ะ
ปูราคานี้ขอไม่สู้ค่ะ 555
กินหอยสดย่างดีกว่า

แอบรู้สึกเสียดายที่มาที่นี่ตอนท้องอิ่ม ไม่บ่อยเลยที่จะได้กินอาหารทะเลแบบทำสดๆแบบนี้ค่ะ
คราวหน้ามาตอนหิวๆดีกว่า

และที่ต่อไปที่เราจะมุ่งหน้าไปกันคือร้านอุด้งชื่อดังของเมืองกามาโกริค่ะ!

“มอนโดะอัน”

　

เมนูกามาโกริอูด้ง มีหอยลายด้วย รสชาติอร่อยนุ่มลิ้นมากๆค่ะ
คราวนี้ก็อิ่มสุดๆแล้ว ต่อไปเราไปเล่นแกมพนันกันดีกว่าค่ะ555

สถานที่แกมเบิ้ลชื่อดังของเมืองกามาโกริก็คือ ที่นี่ค่ะ
“Gamagouri Kyouteijou(Gamagouri Boat Race)”

เคาน์เตอร์ Information

มีร้านอาหารให้ลิ้มรสชาติท่องถิ่นด้วยนะคะ
แต่ตอนนี้บอกเลยว่าอิ่มไม่ไหวแล้ว 555

ด้านในก็ตกแต่งได้เรียบร้อยสะอาดตามากค่ะ

สามารถเลือกที่นั่งแบบ Reserved seat ได้ในราคา 1,500 เยนด้วยนะคะ

มีที่นั่งแบบมาพร้อมครอบครัวด้วย555
ไหนๆมาถึงที่แล้วก็เลยลองซื้อมาใบนึงค่ะ
แต่ไม่ชนะอ่ะ555

ที่นี่แนะนำให้มากับกลุ่มเพื่อนค่ะ สนุกแน่นอน



เป็น Boat Race ครั้งแรกที่เคยดู สนุกกว่าที่คิดนะ
แนะนำให้ลองมาซักครั้งนะคะ เพราะที่ไทยไม่มีแน่ๆแบบนี้555

หลังจากไปGamagouri Kyouteijou ต่อไปเราก็จะมุ่งหน้าไปยังโรงแรมค่ะ


ระหว่างทางมีแวะที่วัดคงโกจิ (Kongou Temple)

เพราะเห็นรูปปั้นใหญ่ๆอันนี้เลยขับรถมาดูค่ะ

ใหญ่กว่าที่คิดนะเนี่ย555
มี Love Hill สำหรับคู่รักด้วย
จากข้างบนเขาสามารถมองเห็นวิวสวยๆของทาเคชิม่าที่ไปมาเมื่อวานด้วยค่ะ
หลังจากที่ลองแวะนู่นแวะนี่ เราก็มาถึงโรงแรมค่ะ!


วันนี้ลองมาพักที่ Hen na Hotel (แปลตรงตัวว่า “โรงรมแปลกๆ”) Lagunatenbosch !
http://www.hennnahotel.com/lagunatenbosch/

เข้ามาแล้วตกใจเลย ทำไมมีรูปปั้นไดโนเสาร์555
เด็กเห็นแล้วร้องไห้เลย555

พอมาดูวันถัดไป มีหมวกซานต้าอยู่บนหัวน้องด้วย555
น่ารักดีค่ะ

　
ส่วนห้องพักก็จะประมาณนี้ค่ะ


　 　
เป็นโรงแรมใหม่ที่เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงปี ข้างในเลยยังใหม่และสะอาดมากๆค่ะ　
มีมือถือให้ใช้ฟรีด้วย
ญี่ปุ่นนี่ล้ำจริงๆค่ะ

แล้วหน้าจอที่อยู่ข้างๆ ถ้าเราพูดกับมัน มันสามารถเปิด-ปิดไฟห้องให้เราได้ด้วยค่ะ ทีวีก็เปิด-ปิดให้ได้ด้วย
ล้ำเว่อร์555

พอเช็คอินเรียบร้อย ก็วางสัมภาระแล้วมุ่งหน้าไป Lagunatenbosch กันต่อค่ะ!!
Lagunatenbosch
https://www.lagunatenbosch.co.jp/laguna/english/index.html

วันนี้ที่มาเพราะตั้งใจจะมาดู Illumination ของที่นี่ค่ะ

ด้านในมีสวนดอกไม้


　 　
และ ART THEATER ที่จะมีโชว์ละครเพลงค่ะ
ด้านข้างสวนมี Festival Market ให้ไปเดินเล่นด้วยค่ะ
  ด้านหน้า Festival Market มีเรือในเรื่องวันพีซด้วย!!
แต่เสียดายมาก ตอนที่ไปถึงเขาไม่เปิดให้ขึ้นบนเรือแล้วล่ะค่ะ

ลูฟี่กับแฟรงกี้
แอบเห็นบรู๊คด้วย

ด้านใน Festival Market ค่ะ


　 　
มีศูนย์อาหารและร้านขายของฝากด้วย
และถ้าซื้อของกินจากแถวนั้น ก็มีที่ให้นั่งทานด้วยค่ะ

　
วันนี้มากินข้าวหน้าไข่ปลาแซมอนกับปลาเมฮิคาริทอดค่ะ
อร่อยมากเลย

พอกินเสร็จก็กลับไปที่ Lagunatenbosch
พอดีเวลาเปิดไฟไลท์อัพเลยค่ะ






　 　  　 　
ถ่ายรูปสวยๆได้เยอะเลย
แต่หลังจากไฟเปิดระวังคนเยอะ แล้วจะถ่ายรูปได้ไม่สวยนะคะ

ถ้าไม่รีบให้รอซักสองทุ่มแล้วคนจะน้อยลงเยอะ
มาถ่ายรูปตอนช่วงเวลานี้จะดีที่สุดค่ะ

และแล้วก็ต้องขอจบบันทึกการเดินทางเมืองกามาโกริ เป็นทริปที่สนุกมากจริงๆค่ะ
ต่อไปเราจะมุ่งหน้าไปยังเมืองโอคาซากิกันค่ะ

เดี๋ยวจะมีบันทึกการเดินทางโอคาซากิเหมือนกัน รอติดตามกันนะคะ!