หลงรักเพื่อน....แต่ไม่อยากเสียเพื่อน

ตามชื่อกระทู้แหละครับ  แต่เอาจริงๆไม่แน่ใจว่ามันใช่ความรักรึเปล่า555 เพราะมันเป็นความรู้สึกครึ่งๆกลางๆ  ผมรู้จักเพื่อนคนนี้ผ่านแฟนเก่าครับ
เขาเป็นเพื่อนสนิทคนนึงของแฟนเก่าผม ซึ่งเราเลิกกันมาสักเกือบปีแล้ว แต่มาขาดจริงๆสักพักใหญ่ๆ
เข้าเรื่องต่อ.. ผมเจอเพื่อนคนนี้ตั้งแต่ปี1 ตอนนั้นมันก็มีแฟนอยุ่แล้วแหละ แต่ก้คบๆเลิกตัดไม่ขาด จบเรื่องแฟนมันตอนนั้น
ตั้งแต่เจอครั้งแรกก็รู้สึกสนใจ เพราะเป็นคนที่ไม่เหมือนใครดี มันสปาร์คแบบแปลกๆ
ตอนนั้นหน้าตาเขาก็ถือว่าน่ารักดีสำหรับผม เคยมีโอกาสได้อยู่กันสองต่อสองนานๆอยู่ครั้งนึง เพราะเราเริ่มสนิทกัน
แล้วผมมีเหล้าเหลือจากวันก่อนๆ คืนนั้นแฟนผมกลับบ้าน ผมก็เหงาๆเลยไปชวนมันดื่มที่ห้องของมัน
ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยตามประสาเพื่อน จนรู้สึกว่า ทำไมมันมีความสุขแบบนี้ ทำไมรู้สึกว่าเคมีเข้ากันได้แบบนี้
แต่วันนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรนะครับ ถึงในใจผมจะคิดกับมันเกินเพื่อน แต่ก็ยังมีจิตสำนึกอยู่ นั่นก็เป็นครั้งแรกและครั้งเดียว
ที่รู้สึกว่าใกล้ชิดกันที่สุด
จากวันนั้น  ความรู้สึกของผมมันก็มากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกอยากเจอ อยากพูดคุย แต่ ผมมีแฟนแล้ว ก็ได้แต่กดความรู้สึกตรงนั้นเอาไว้
และคิดว่าคงเป็นแค่ความรู้สึกชั่วคราว แปปๆก็คงหายไป
...เวลาผ่านไปหลายเดือน จนเขามีแฟนใหม่ ซึ่งในระหว่างนี้ เราก็พูดคุยกันบ้าง เจอกันบ้างในฐานะเพื่อน แต่พอรู้ว่าเขามีแฟนมันก็ปวดใจแปลกๆ
  สมองมันรู้แหละว่า ก็แค่เพื่อนมีแฟนใหม่ แต่... ทำไมมันทำใจลำบากแบบนี้ ผมก็เริ่มรุ้แล้วว่าผมชอบมันเข้าแล้วจริงๆ
ผมเลยลองคิดกลับกันว่า ถ้าแฟนเรารู้สึกแบบนี่กับใคร แล้วเรามารู้ความจริงทีหลัง เราก็คงเสียใจเอามากๆ ผมเลยพยามตีตัวออกห่าง
ที่จริงก็ทำตัวปกติแหละ แต่พยามหลบหน้า พยามคุยให้น้อยลง ก็เพื่อนกันมันคงไม่คิดอะไรมาก
หลังจากนั้นประมาณ2 เดือน ผมก็ได้รู้จักกับแฟนของมัน เพราะมันให้ไปช่วยขนของย้ายหอ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เพราะก็เริ่มทำใจได้มากแล้ว
อาจเพราะ ด้วยความคิดที่ว่า ผมมีแฟนอยู่แล้ว บวกกับคำว่า เพื่อนกันมันเป็นแฟนกันไม่ได้ มันช่วยพยุงความรู้สึกของผมให้ดีขึ้น และเริ่มคุยกันได้ปกติมากขึ้น
...แต่ หลังจากนั้นไม่นาน มันก็เลิกกับแฟน หลังจากเลิกกับแฟนมัน หลายเดือนผ่านไป เราก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน เพราะปัญหาทางบ้าน มันก้เลยไม่ได้เรียนต่อ
แต่นานๆทีเราก็คุยกันบ้าง จนผมเลิกกับแฟน แล้วก็ไม่ติดต่อกันอีกเลยเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเทอม และใน2 เดือนที่ว่านั้น เราก็เริ่มคุยกันบ่อยขึ้นนิดหน่อย จนวันนึง.... ผมเมามากๆ และเผลอบอกความรู้สึกกับมันไป แล้วคำตอบที่ได้ เป็นประโยคที่ผมจำได้แม่น “ เพื่อนก็คือเพื่อน กูไม่เอามาเป็นแฟน “ ถึงจะรู้อยู่แล้ววว่าเขาคิดกับผมแค่นั้น แต่มันก็ปวดใจอยุ่นะ ขนาดส่างเมาแล้วมาอ่าน ก็ยังซึมๆอยุ่ดี หลังจากวันนั้น เราก็ไม่ได้คุยกันพักใหญ่ๆ
ประมาน 2-3 เดือน แล้ววันนึงมันก็ทักผมมาปรึกษาเรื่อง ผช คนนึง และเหมือนว่ามันกำลังคุยอยู่ ตอนแรกก๋งง ว่าทำไมต้องมาปรึกษากูวะ และพอรู้ความจริง
ก้ยิ่งปวดตับเข้าไปอีก เพราะมันกำลังจะคบกับเพื่อนสนิทคนนึงของผม ช็อคดิครับ ! สตั้นไป 2 วิ ประเทศกูมี ๆ เห้อ ทำใจลำบากสุดๆตอนนั้น แต่ก็ให้คำปรึกษาไปในฐานะเพื่อนจริงๆ จนมันได้คบกัน
.... หลังจากมันคบกันก็ดูจะไปได้ดีนะ ผมก็รู้สึกว่าก็ดีแล้วแหละ แต่ก็เฟลนิดๆ...ไม่น่านิดว่ะ 555 ก็ซึมๆอยุ่คนเดียวไม่มีใครรู้ เพราะผมไม่เคยปรึกษาใครเรื่องนี้เวลารู้สึกแย่หรือทะเลาะ มันก็จะทักมาปรึกษาผมตลอดเรื่องเพื่อนชายของผม ถึงจะเจ้บใจ แต่ผมก็ให้คำปรึกษาไปตามที่ผมคิดและคิดว่าน่าจะดีที่สุดสำหรับทั้งสอง เพราะผมรู้จักนิสัยทั้งสองคนดี ผ่านไปประมาน 5-6 เดือน ทั้งคู่ก็เลิกกัน เหตุผลผมขอไม่พูดถึง
.... หลังจากเลิกกัน มันก็ทักมาถามไถ่ผมเรื่องเพื่อนชายผมบ้าง นานๆครั้ง และพอรู้ว่าเพื่อนชายผมมีแฟนใหม่แล้ว มันก็ดูจะทำใจได้ และค่อยๆดีขึ้น หลังจากนั้น เราก็ค่อยๆห่างเหินกันไป มีทักคุยบ้างเดือนละครั้งสองครั้ง คอลบ้างนานๆที

สรุป ผมได้มานั่งทบทวนความรู้สึกของตัวเองที่ผ่านมาทั้งหมด ผมรู้แหละว่ามันเป็นไปได้ยาก แต่ผมรู้สึกกับเขามากจริงๆ ปัญหาใหญ่ๆเลยคือ เขาเป็นแฟนเก่าเพื่อนผม แล้วผมเป็นแฟนเก่าเพื่อนเขา แค่นี้มันก็ยากพอแล้ว แต่ความจริงที่ต้องยอมรับอีกอย่างคือ เขาคิดกับผมแค่เพื่อน แต่ความรุ่สึกของผมที่มีต่อเขามันไม่ได้ลดน้อยลงเลย รุ้สึกว่านี่แหละคนที่ใช่ ทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกันบ้างและความรุ้สึกผมที่มีต่อเขามันเหมือนเดิมจริงๆ

ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านมาจนจบนะครับ อาจจะมีตกหล่น หรืองงๆ ก้ขอโทษด้วยครับ เพราะเพิ่งเคยพิมพ์เยอะๆแบบนี้ครั้งแรก

สุดท้ายจริงๆ ผมคิดว่าผมรักเขานะ แต่เขาคงไม่คิดเหมือนกันหรอก และก็ไม่อยากเสียเพื่อนดีๆไป แต่ในใจจริงๆก็อยากจะคบกับเขาถ้าเป้นไปได้ ใครพอจะมีคำแนะนำสำหรับ การจัดการความรู้สึกและเหตุการน์แบบนี้บ้างครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่