สลิ่มชน มักอ้างเรื่อง "ความเห็นต่าง" ว่าเป็นไปตามหลักประชาธิปไตย
แต่สลิ่มชน กลับคิดไม่หมด ไม่คิดแบบคนธรรมดา ใช้วิธีคิดแบบกลับหัว
เวลาสลิ่มชนเห็นต่างในเรื่องอะไร พอมีคนติติง ตำหนิ
สลิ่มชนจะอ้างทันทีว่า นี่เหรอประชาธิปไตย พอมีใครเห็นต่างก็ติติงต่อว่าทันที
เรียกว่า อ้างเรื่องสิทธิความเห็นต่างขึ้นมาทันที
แต่เป็นการอ้างแบบกลับหัว
เพราะการติติง ต่อว่า ตำหนิ ก็คือ "ความเห็นต่าง" นั่นเอง
เพียงแต่เป็นความเห็นต่างในรูปแบบก้าวร้าว ใช้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่าเหตุผล
ก็... ให้ตัยเหอะ แต่ละเรื่องที่สลิ่มชนเห็นต่างนี่
เหลือรับจริง ๆ ครับ
วิธีคิดแบบปกติที่คนทั่วไปเขาคิดกัน ก็คือ ใช้วิธีคิดพิจารณาไปที่ "เนื้อหา"
เพื่ออิงข้อมูลทางเนื้อหา ไปสู่ข้อเท็จจริง ไปถึงบทสรุปของเรื่องนั้น ๆ ว่าเป็นอย่างไร
แต่สลิ่มเขาไม่สนใจเรื่องเนื้อหา เขาคิดได้แค่เรื่อง "รูปแบบ" แล้วก็อ้างรูปแบบประชาธิปไตยหากินไปวัน ๆ
คือใช้รูปแบบในการเถียงเอาชนะเท่านั้นเอง
ยกตัวอย่าง เรื่องคดีความต่าง ๆ
เวลามีคำตัดสินออกมา ถ้าฝ่ายที่สลิ่มชนเชียร์โดนจำคุก สลิ่มชนจะอ้างว่า เคารพคำตัดสิน
เพื่อเหน็บแนมเสียดสีฝ่ายแดงที่มักเห็นต่างคำตัดสินในเรื่องต่าง ๆ
และมักถากถางว่า ฝ่ายแดง เวลาตัดสินถูกใจ ก็ว่าเป็นธรรม แต่ถ้าไม่ถูกใจก็ว่าคำตัดสินไม่เป็นธรรม
โดยที่สลิ่มชนไม่เคยเอ่ยถึง "เนื้อหา" ว่าเรื่องนั้น ๆ คดีนั้น ๆ เป็นอย่างไร
ทำได้อย่างมาก ก็เอา "คำตัดสิน" มาอ้าง ซึ่งก็คือ "รูปแบบ" เท่านั้น ไม่ใช่การเห็นต่างกันในทาง "เนื้อหา"
เช่น เรื่องนากา ฝ่าายแดงให้ข้อคิดเห็นทางเนื้อหาเยอะแยะ ว่าน่าเชื่อถือแค่ไหน ความน่าจะเป็นอย่างไร
แต่สลิ่มจะไม่ สลิ่มจะแค่อ้างว่า "เชื่อ" แล้วใช้รูปแบบเดิม ๆ คือยกคำตัดสินมาประกอบเพื่อใช้เป็นข้ออ้างทางกฎหมาย
หรือหากจะอ้างเรื่องเนื้อหา สลิ่มชนก็มักมีเนื้อหาที่แหว่งวิ่น ไม่สมเหตุสมผล เป็นเนื้อหาเชิงเถียงเอาชนะที่ไร้ข้อเท็จจริง
ความเห็นต่าง ถกแย้ง เป็นความสวยงามทางประชาธิปไตย
แต่ความเห็นต่าง ถกแย้ง นั้น ต้องอยู่บนพื้นฐานความมีข้อมูล มีเหตุผล มีความสมเหตุสมผล อิงข้อเท็จจริง
ไม่ใช่มั่วซั่ว ไร้ความสมเหตุสมผล ไม่มีเหตุผล ไม่อิงอะไรทั้งนั้น แล้วอ้างว่า ก็ฉันเห็นแบบนี้ ฉันเห็นต่าง ผิดด้วยเหรอ
โดนด่าสิครับ
แล้วก็โวยว่า กล่าวหาว่า คนอื่นไม่ยอมรับความเห็นต่าง เหน็บแนมว่าคนอื่นอ้างประชาธิปไตยแต่ไม่เคารพความเห็นคนอื่น
คิดแบบคนปกติเขาคิดเถอะครับ ให้ความเห็นต่างที่มีเหตุผล มีความสมเหตุสมผล อิงข้อมูลและข้อเท็จจริง
หากทำอย่างนั้นแล้ว ยังมีคนต่อว่า ค่อยโวย
แต่ตราบใดที่ยังมั่ว ยังตะบันตะแบงไปแบบหลิ่ม ๆ ก็อย่าโวยเลย
มีเหตุผลดี ข้อมูลแน่น ข้อเท็จจริงชัด ใครจะเถียงอะไรคุณได้
แต่เมื่อไม่มีอะไรเลย นอกจากมั่ว ล่อเป้า เกรียน ไร้ความสมเหตุสมผล ก็อย่าอ้างหลักประชาธิปไตยเลย
อวยกันตับแตกอยู่ทุกวันยังอวยไม่ได้เรื่อง
ก็ลอง ๆ ทบทวนวิธีคิดตัวเองดูสักนิดเถอะครับ
สลิ่มชน กับ ความคิดกลับหัว ................................................................. โดย ตระกองขวัญ
แต่สลิ่มชน กลับคิดไม่หมด ไม่คิดแบบคนธรรมดา ใช้วิธีคิดแบบกลับหัว
เวลาสลิ่มชนเห็นต่างในเรื่องอะไร พอมีคนติติง ตำหนิ
สลิ่มชนจะอ้างทันทีว่า นี่เหรอประชาธิปไตย พอมีใครเห็นต่างก็ติติงต่อว่าทันที
เรียกว่า อ้างเรื่องสิทธิความเห็นต่างขึ้นมาทันที
แต่เป็นการอ้างแบบกลับหัว
เพราะการติติง ต่อว่า ตำหนิ ก็คือ "ความเห็นต่าง" นั่นเอง
เพียงแต่เป็นความเห็นต่างในรูปแบบก้าวร้าว ใช้อารมณ์ความรู้สึกมากกว่าเหตุผล
ก็... ให้ตัยเหอะ แต่ละเรื่องที่สลิ่มชนเห็นต่างนี่
เหลือรับจริง ๆ ครับ
วิธีคิดแบบปกติที่คนทั่วไปเขาคิดกัน ก็คือ ใช้วิธีคิดพิจารณาไปที่ "เนื้อหา"
เพื่ออิงข้อมูลทางเนื้อหา ไปสู่ข้อเท็จจริง ไปถึงบทสรุปของเรื่องนั้น ๆ ว่าเป็นอย่างไร
แต่สลิ่มเขาไม่สนใจเรื่องเนื้อหา เขาคิดได้แค่เรื่อง "รูปแบบ" แล้วก็อ้างรูปแบบประชาธิปไตยหากินไปวัน ๆ
คือใช้รูปแบบในการเถียงเอาชนะเท่านั้นเอง
ยกตัวอย่าง เรื่องคดีความต่าง ๆ
เวลามีคำตัดสินออกมา ถ้าฝ่ายที่สลิ่มชนเชียร์โดนจำคุก สลิ่มชนจะอ้างว่า เคารพคำตัดสิน
เพื่อเหน็บแนมเสียดสีฝ่ายแดงที่มักเห็นต่างคำตัดสินในเรื่องต่าง ๆ
และมักถากถางว่า ฝ่ายแดง เวลาตัดสินถูกใจ ก็ว่าเป็นธรรม แต่ถ้าไม่ถูกใจก็ว่าคำตัดสินไม่เป็นธรรม
โดยที่สลิ่มชนไม่เคยเอ่ยถึง "เนื้อหา" ว่าเรื่องนั้น ๆ คดีนั้น ๆ เป็นอย่างไร
ทำได้อย่างมาก ก็เอา "คำตัดสิน" มาอ้าง ซึ่งก็คือ "รูปแบบ" เท่านั้น ไม่ใช่การเห็นต่างกันในทาง "เนื้อหา"
เช่น เรื่องนากา ฝ่าายแดงให้ข้อคิดเห็นทางเนื้อหาเยอะแยะ ว่าน่าเชื่อถือแค่ไหน ความน่าจะเป็นอย่างไร
แต่สลิ่มจะไม่ สลิ่มจะแค่อ้างว่า "เชื่อ" แล้วใช้รูปแบบเดิม ๆ คือยกคำตัดสินมาประกอบเพื่อใช้เป็นข้ออ้างทางกฎหมาย
หรือหากจะอ้างเรื่องเนื้อหา สลิ่มชนก็มักมีเนื้อหาที่แหว่งวิ่น ไม่สมเหตุสมผล เป็นเนื้อหาเชิงเถียงเอาชนะที่ไร้ข้อเท็จจริง
ความเห็นต่าง ถกแย้ง เป็นความสวยงามทางประชาธิปไตย
แต่ความเห็นต่าง ถกแย้ง นั้น ต้องอยู่บนพื้นฐานความมีข้อมูล มีเหตุผล มีความสมเหตุสมผล อิงข้อเท็จจริง
ไม่ใช่มั่วซั่ว ไร้ความสมเหตุสมผล ไม่มีเหตุผล ไม่อิงอะไรทั้งนั้น แล้วอ้างว่า ก็ฉันเห็นแบบนี้ ฉันเห็นต่าง ผิดด้วยเหรอ
โดนด่าสิครับ
แล้วก็โวยว่า กล่าวหาว่า คนอื่นไม่ยอมรับความเห็นต่าง เหน็บแนมว่าคนอื่นอ้างประชาธิปไตยแต่ไม่เคารพความเห็นคนอื่น
คิดแบบคนปกติเขาคิดเถอะครับ ให้ความเห็นต่างที่มีเหตุผล มีความสมเหตุสมผล อิงข้อมูลและข้อเท็จจริง
หากทำอย่างนั้นแล้ว ยังมีคนต่อว่า ค่อยโวย
แต่ตราบใดที่ยังมั่ว ยังตะบันตะแบงไปแบบหลิ่ม ๆ ก็อย่าโวยเลย
มีเหตุผลดี ข้อมูลแน่น ข้อเท็จจริงชัด ใครจะเถียงอะไรคุณได้
แต่เมื่อไม่มีอะไรเลย นอกจากมั่ว ล่อเป้า เกรียน ไร้ความสมเหตุสมผล ก็อย่าอ้างหลักประชาธิปไตยเลย
อวยกันตับแตกอยู่ทุกวันยังอวยไม่ได้เรื่อง
ก็ลอง ๆ ทบทวนวิธีคิดตัวเองดูสักนิดเถอะครับ