ผมเป็นคนหนึ่งที่ยังใช้รถกระบะเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งรถที่ผมใช้ก็มีอายุมากพอสมควร
และด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการตื่นตัวของหน่วยงานต่างๆ
ทำให้ผู้ใช้รถอย่างผมเกิดความกังวลใจ รวมไปถึงสับสนว่าจะใช้วิธีอะไรที่จะตั้งรับกับด่านตรวจมลพิษ
ใจจริงผมอยากจะเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมการขนส่งทางบก และกรมควบคุมมลพิษใช้วิธีการจัดการหลักที่ดีกว่าการตั้งด่านตรวจ จับ-ปรับแบบที่กำลังทำกันอยู่ ประมาณว่าให้เจ้าของรถสามารถเข้าตรวจค่าไอเสียตามหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก หรือกรมควบคุมมลพิษ ถ้าผ่านก็ออกเอกสาร หรือสติ๊กเกอร์รับรองให้กับรถคันนี้ โดยมีระยะเวลารับรองกี่เดือนก็ว่ากันไป ถ้าไม่ผ่านก็ให้ใบเตือนให้ไปปรับแต่งกัน แก้ไข ส่วนคันไหนที่ไม่ได้เข้ารับการตรวจภาคสมัครใจ เมื่อเจ้าหน้าที่พบก็ให้ตรวจเปรียบเทียบกันไปตามข้อกฏหมาย
ผมแค่อยากเสนอแนะครับ เพื่อให้เป็นช่องทางให้ผู้ใช้รถได้ตั้งรับกันบ้าง
ท่านใดมีข้อเสนอแนะอย่างไรก็เข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนแบบสร้างสรรค์กันได้เลยครับ
และหวังว่าล็อคอินของหน่วยงานภาครัฐจะสละเวลามารับฟังข้อเสนอแนะของผมบ้างนะครับ
ขอบคุณครับ
มีวิธีจัดการกับปัญหามลพิษที่เกิดจากรถยนต์ที่ดีกว่าการตั้งด่านตรวจจับแต่เพียงอย่างเดียวหรือไม่?
และด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการตื่นตัวของหน่วยงานต่างๆ
ทำให้ผู้ใช้รถอย่างผมเกิดความกังวลใจ รวมไปถึงสับสนว่าจะใช้วิธีอะไรที่จะตั้งรับกับด่านตรวจมลพิษ
ใจจริงผมอยากจะเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมการขนส่งทางบก และกรมควบคุมมลพิษใช้วิธีการจัดการหลักที่ดีกว่าการตั้งด่านตรวจ จับ-ปรับแบบที่กำลังทำกันอยู่ ประมาณว่าให้เจ้าของรถสามารถเข้าตรวจค่าไอเสียตามหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก หรือกรมควบคุมมลพิษ ถ้าผ่านก็ออกเอกสาร หรือสติ๊กเกอร์รับรองให้กับรถคันนี้ โดยมีระยะเวลารับรองกี่เดือนก็ว่ากันไป ถ้าไม่ผ่านก็ให้ใบเตือนให้ไปปรับแต่งกัน แก้ไข ส่วนคันไหนที่ไม่ได้เข้ารับการตรวจภาคสมัครใจ เมื่อเจ้าหน้าที่พบก็ให้ตรวจเปรียบเทียบกันไปตามข้อกฏหมาย
ผมแค่อยากเสนอแนะครับ เพื่อให้เป็นช่องทางให้ผู้ใช้รถได้ตั้งรับกันบ้าง
ท่านใดมีข้อเสนอแนะอย่างไรก็เข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยนแบบสร้างสรรค์กันได้เลยครับ
และหวังว่าล็อคอินของหน่วยงานภาครัฐจะสละเวลามารับฟังข้อเสนอแนะของผมบ้างนะครับ
ขอบคุณครับ