กราบสวัสดดี [:อมยิ้ม17:] เพื่อนๆพี่ๆน้องๆสายชิว ทุกท่าน
การแบ่งปันอีกหนึ่งเรื่องราวของคนสูงวัยกับมอเตอร์ไซค์เก่า 200 cc.
ยิ่งแก่ยิ่งเหงาอย่างที่เค้าว่ากัน พอวันศุกร์แหงนมองปฏิทิน อ้าว! พอดีเสาร์-อาทิตย์ 12-13 มกรานี้เป็นวันเด็กนี่หว่า ที่ไหนๆเค้าก้อจัดกิจกรรมวันเด็กกัน เด็กเล็กเราก้อไม่มีหากอยู่กับที่คงยิ่งเหงาแน่นอน ถัดไปอีก 2-3 วันข้างหน้าเป็นวันที่ 16 ที่คนไทยชอบลั้นล้า อย่างงี้จะช้าอยู่ใย 12 มกรา พาแม่เด็ก (แม่ของลูก) ไปแสวงสุขแสวงโชคชะโงกเขื่อนนครนายกแล้วย้อนกลับกางเต็นท์นอนน้ำตกสามหลั่นสักคืนสองคืนดีกว่า
หกนาฬิกาฟ้าสางเสาร์ที่ 12 มกรา 62 สัมภาระพร้อมคนพร้อมออกเดินทางจากบ้านสู่ ทล.4 เพชรเกษม + 338 บรมราชชนนี + 9 บางบัวทอง + 345 + 346 + 305 รังสิต-นครนายก + 2011 เลี่ยงเมือง + ซ้าย 3049 ถึงเป้าหมาย ระยะทาง 160 กิโลเศษ
วัดพราหมณี (หลวงพ่อปากแดง)
จากตัวเมืองนครนายกจะเห็นซุ้มประตุวัดอยู่ฝั่งขวาหรือจะมาจากเลี่ยงเมืองก้อแล้วแต่ วัดมีผู้คนเข้าออกตลอดเวลาเพื่อมากราบไหว้ขอพรเสี่ยงทายขอโชคลาภ อ้ายเราก้อได้มา อิอิ..ไม่บอกนา..เดี๋ยวเคลื่อน (เพราะจะขายวัวขายควาย..ทุ่มสุดตัว)
ออกจากวัดเลี้ยวขวาเดินหน้าต่อ ผ่านน้ำตกนั่นนี่ไม่แวะไม่เข้าบ้านเราเยอะ เพลิดเพลินกับการแสวงความสุขบนเส้นทางที่กว้างและดี ชมบรรยากาศสองฝากฝั่งที่มีความเจริญสวยงามมากกว่าหลายปีก่อน เลี้ยวขวาอีกทีก้อที่ ทล.ชบ.4016 ที่ตั้งใจไว้ ระยะทางแค่ 20 กิโลกว่า
เขื่อนขุนด่านปราการชล
โอ้โฮ! สวยงามอลังการ มีสถานที่จอดรถกว้างขวาง มีร้านค้าร้านขายไก่ย่าง ข้าวเหนียว ส้มตำ น้ำดื่ม ฯลฯ บริการเสื่อปูนั่งให้เช่าผืนละ 50 นั่งร้านเช่านั่งดื่มกินที่ละ 200 อ้ายเราสองคนนั่งบนอานมาหลายชั่วโมงร้อยกว่ากิโลจึงไม่เช่าอะไรเลย แค่เดินไปมาเก็บภาพโน้นนั่นนี่ซื้อส้มตำน้ำดื่มห้าหกสิบบาทกิน ดูเด็กผู้ใหญ่ลงเล่นน้ำกลางแสงดาวแสงเดือน (แดดร้อนจ้า) ทีแรกก้อว่าจะหาสถานที่กางเต็นท์นอนตามรีสอร์ทโฮมสเตย์ไร่โน้นนี่แถวๆนี้แหละ คิดไปคิดมาแดดร้อนอย่างงี้เป็นพื้นที่โล่งมีสวนนิดหน่อยกลางคืนอากาศจะหนาวเย็นหรือ (พูดในใจ) พออิ่มเอมเปรมปรีออกตัวขึ้นสันเขื่อน
ลานจอดรถบนสันเขื่อน
แดดร้อนจ้า เดินบ้างนั่งบ้าง ผู้คนทะยอยกันมาเรื่อยๆ 2คนบ้าง3คนบ้าง ครอบครัวบ้าง และหมู่คณะบ้าง
มีรถพาชมบรรยากาศบนสันเขื่อนคนละ 30 และรถกอล์ฟก้อมีให้เช่าขับชม
ระหว่างวิ่งมี จนท.บรรยายความเป็นมาของ "เขื่อนขุนด่านปราการชล" ให้นักท่องเที่ยวฟัง จับใจความได้ : ก่อนจะเป็นเขื่อนเคยเป็นฝาย เรียกว่า "ฝายพระลาน" เพื่อคอยรับน้ำกักเก็บน้ำจากน้ำตกเหวนรก อช.เขาใหญ่ เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ครั้งหนึ่งช่วงฤดูฝนฝายไม่สามารถรับปริมาณน้ำที่ไหลหลากจากเทือกเขาใหญ่ จนทำให้น้ำล้นฝายท่วมจังหวัดนครนายก และจังหวัดข้างเคียง
พ.ศ.2542 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ทรงพระราชดำริโครงการโดยให้กรมชลประทานดำเนินการ "เขื่อนขุนด่านปราการชล" เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัด มีความยาว 2594 เมตร (สองกิโลกว่ายาวที่สุดในโลก) มีความสามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 224 ล้าน ลบ.เมตร งบประมาณการก่อสร้าง 11,183 ล้านบาท
พ.ศ.2544 พระองค์ยังทรงมาดูงาน (หลักฐานลานจอด ฮ. และ ที่ประทับ) พ.ศ.2547 สร้างแล้วเสร็จรวมระยะเวลาการก่อสร้าง 5 ปี พ.ศ.2549 พระราชทานนาม "เขื่อนขุนด่านปราการชล" เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่นายด่านนครนายกสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่มีชื่อเรียกขานว่า ขุนด่าน / ขุนห่าน นี่แหละ หากพลาดพลั้งประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้
บันทึกได้ระหว่างรถแล่น
บ่ายแก่ๆ อากาศยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่..เราเกิดการเปลี่ยนใจ ลงจากสันเขื่อนเดินทางวกกลับใช้เส้นทางเดิมบรรจบ ทล.33 เลี้ยวขวาผ่านบ้านนามาหินกองแล้วเลี่ยงเมืองสระบุรี ทล.236 เข้าสู่อุทยานน้ำตกสามหลั่น ระยะทาง 70กว่ากิโล
เฮ้ย! มาเร็วแล้วนี่นาทำไมถึงเป็นอย่างงี้
เจอมิตรภาพดี๊ดียังพอมีพื้นที่ให้เราแทรก
ขอขอบคุณ
รักษ์การกางเต็นท์ตั้งแค้มป์ความชอบอาจแตกต่างกันไป บางรายไม่ชอบแออัด บางรายเต็นท์เดียวโดดๆก้อกลัว ฯลฯ สำหรับเรานะเลอะตั้งใจแล้วเดินหน้าอย่างเดียว เดียวดายก้อเคยแออัดก้อได้ขอให้มีที่ลงเท่านั้น จริงๆแล้วเต็นท์เยอะก้อดีไปอีกแบบได้เห็นโน้นนี่นั่นกิจกรรมต่างๆของชาวเต็นท์ กลิ่นควันไฟต้มปิ้งย่างที่คลุกรุ่นหอมดีไม่มีอะไรในกอไผ่ อ้ายเราเพียงแค่ต้มน้ำชงมาม่า + กาแฟ หน้าเต็นท์ก้อสุขโข
ร้านก๋วยเตี๋ยวตำลึงแห่งพระพุทธฉาย ลองลิ้มชิมรสมาแล้วหละ
ถูกปากเข้าท้องเกลี้ยงเลย...อร่อยหรือหิวไม่รู้นะ
พลบค่ำ (12 มกรา) ลมเย็นเริ่มโชยมา กลางคืนอากาศหนาว น้ำค้างแรง อย่างงี้ไม่ผิดหวังคงต้องค้างอีกสักคืน บ่ายวันอาทิตย์
ที่ 13 มกรา 62 นึกว่าจะแออัดเหมือนเดิม ที่ไหนได้! ชาวแค้มป์อพยพกลับสู่ถิ่นฐานเกือบหมด คงเหลือกันไม่กี่เต็นท์กับไก่แจ้ไม่กี่ตัว
คืนสองผ่านไป...อากาศดีเหมือนเดิม
จันทร์ที่ 14 มกรา 62 เวลา 12 นาฬิกา เก็บข้าวของเตรียมอพยพกลับถิ่นฐานเส้นทางเดิมร้อยกว่ากิโล คงทิ้งเพื่อนชาวแค้มป์บางรายที่ยังพักค้างต่อไป
ขอจบเรื่องราวการเที่ยวทริปนี้ก่อนครับ
ไม่มีเจตนาอื่นใดแอบแฝง แค่นำมาแบ่งปันเพื่อผ่อนคลายเท่านั้น
ขอขอบคุณพี่ๆน้องๆเพื่อนพ้องที่เข้ามาเยือน แสดงความคิดเห็นและติติง
โอกาสหน้า ที่ไหน? เราพร้อมจะนำมาแบ่งปัน
[CR] แสวงสุขแสวงโชคชะโงกเขื่อนนครนายกวกกลับกางเต็นท์นอนหละรี
ยิ่งแก่ยิ่งเหงาอย่างที่เค้าว่ากัน พอวันศุกร์แหงนมองปฏิทิน อ้าว! พอดีเสาร์-อาทิตย์ 12-13 มกรานี้เป็นวันเด็กนี่หว่า ที่ไหนๆเค้าก้อจัดกิจกรรมวันเด็กกัน เด็กเล็กเราก้อไม่มีหากอยู่กับที่คงยิ่งเหงาแน่นอน ถัดไปอีก 2-3 วันข้างหน้าเป็นวันที่ 16 ที่คนไทยชอบลั้นล้า อย่างงี้จะช้าอยู่ใย 12 มกรา พาแม่เด็ก (แม่ของลูก) ไปแสวงสุขแสวงโชคชะโงกเขื่อนนครนายกแล้วย้อนกลับกางเต็นท์นอนน้ำตกสามหลั่นสักคืนสองคืนดีกว่า
หกนาฬิกาฟ้าสางเสาร์ที่ 12 มกรา 62 สัมภาระพร้อมคนพร้อมออกเดินทางจากบ้านสู่ ทล.4 เพชรเกษม + 338 บรมราชชนนี + 9 บางบัวทอง + 345 + 346 + 305 รังสิต-นครนายก + 2011 เลี่ยงเมือง + ซ้าย 3049 ถึงเป้าหมาย ระยะทาง 160 กิโลเศษ
จากตัวเมืองนครนายกจะเห็นซุ้มประตุวัดอยู่ฝั่งขวาหรือจะมาจากเลี่ยงเมืองก้อแล้วแต่ วัดมีผู้คนเข้าออกตลอดเวลาเพื่อมากราบไหว้ขอพรเสี่ยงทายขอโชคลาภ อ้ายเราก้อได้มา อิอิ..ไม่บอกนา..เดี๋ยวเคลื่อน (เพราะจะขายวัวขายควาย..ทุ่มสุดตัว)
ออกจากวัดเลี้ยวขวาเดินหน้าต่อ ผ่านน้ำตกนั่นนี่ไม่แวะไม่เข้าบ้านเราเยอะ เพลิดเพลินกับการแสวงความสุขบนเส้นทางที่กว้างและดี ชมบรรยากาศสองฝากฝั่งที่มีความเจริญสวยงามมากกว่าหลายปีก่อน เลี้ยวขวาอีกทีก้อที่ ทล.ชบ.4016 ที่ตั้งใจไว้ ระยะทางแค่ 20 กิโลกว่า
โอ้โฮ! สวยงามอลังการ มีสถานที่จอดรถกว้างขวาง มีร้านค้าร้านขายไก่ย่าง ข้าวเหนียว ส้มตำ น้ำดื่ม ฯลฯ บริการเสื่อปูนั่งให้เช่าผืนละ 50 นั่งร้านเช่านั่งดื่มกินที่ละ 200 อ้ายเราสองคนนั่งบนอานมาหลายชั่วโมงร้อยกว่ากิโลจึงไม่เช่าอะไรเลย แค่เดินไปมาเก็บภาพโน้นนั่นนี่ซื้อส้มตำน้ำดื่มห้าหกสิบบาทกิน ดูเด็กผู้ใหญ่ลงเล่นน้ำกลางแสงดาวแสงเดือน (แดดร้อนจ้า) ทีแรกก้อว่าจะหาสถานที่กางเต็นท์นอนตามรีสอร์ทโฮมสเตย์ไร่โน้นนี่แถวๆนี้แหละ คิดไปคิดมาแดดร้อนอย่างงี้เป็นพื้นที่โล่งมีสวนนิดหน่อยกลางคืนอากาศจะหนาวเย็นหรือ (พูดในใจ) พออิ่มเอมเปรมปรีออกตัวขึ้นสันเขื่อน
ระหว่างวิ่งมี จนท.บรรยายความเป็นมาของ "เขื่อนขุนด่านปราการชล" ให้นักท่องเที่ยวฟัง จับใจความได้ : ก่อนจะเป็นเขื่อนเคยเป็นฝาย เรียกว่า "ฝายพระลาน" เพื่อคอยรับน้ำกักเก็บน้ำจากน้ำตกเหวนรก อช.เขาใหญ่ เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ครั้งหนึ่งช่วงฤดูฝนฝายไม่สามารถรับปริมาณน้ำที่ไหลหลากจากเทือกเขาใหญ่ จนทำให้น้ำล้นฝายท่วมจังหวัดนครนายก และจังหวัดข้างเคียง
พ.ศ.2542 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ทรงพระราชดำริโครงการโดยให้กรมชลประทานดำเนินการ "เขื่อนขุนด่านปราการชล" เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัด มีความยาว 2594 เมตร (สองกิโลกว่ายาวที่สุดในโลก) มีความสามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 224 ล้าน ลบ.เมตร งบประมาณการก่อสร้าง 11,183 ล้านบาท
พ.ศ.2544 พระองค์ยังทรงมาดูงาน (หลักฐานลานจอด ฮ. และ ที่ประทับ) พ.ศ.2547 สร้างแล้วเสร็จรวมระยะเวลาการก่อสร้าง 5 ปี พ.ศ.2549 พระราชทานนาม "เขื่อนขุนด่านปราการชล" เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่นายด่านนครนายกสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่มีชื่อเรียกขานว่า ขุนด่าน / ขุนห่าน นี่แหละ หากพลาดพลั้งประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้
บ่ายแก่ๆ อากาศยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่..เราเกิดการเปลี่ยนใจ ลงจากสันเขื่อนเดินทางวกกลับใช้เส้นทางเดิมบรรจบ ทล.33 เลี้ยวขวาผ่านบ้านนามาหินกองแล้วเลี่ยงเมืองสระบุรี ทล.236 เข้าสู่อุทยานน้ำตกสามหลั่น ระยะทาง 70กว่ากิโล
รักษ์การกางเต็นท์ตั้งแค้มป์ความชอบอาจแตกต่างกันไป บางรายไม่ชอบแออัด บางรายเต็นท์เดียวโดดๆก้อกลัว ฯลฯ สำหรับเรานะเลอะตั้งใจแล้วเดินหน้าอย่างเดียว เดียวดายก้อเคยแออัดก้อได้ขอให้มีที่ลงเท่านั้น จริงๆแล้วเต็นท์เยอะก้อดีไปอีกแบบได้เห็นโน้นนี่นั่นกิจกรรมต่างๆของชาวเต็นท์ กลิ่นควันไฟต้มปิ้งย่างที่คลุกรุ่นหอมดีไม่มีอะไรในกอไผ่ อ้ายเราเพียงแค่ต้มน้ำชงมาม่า + กาแฟ หน้าเต็นท์ก้อสุขโข
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้