-ร้านของผมเปิดเมื่อ พศ.2499 เป็นร้านเล็กๆ คูหาเดียว เป็นบ้านเช่ามาจนถึง ณ.ปัจจุบัน
-เป็นร้านที่ ป่าป๊า มาจากเมืองจีน + แม่ลูกครึ่งจีน เป็นคนริเริ่ม
-ป่าป๊าและแม่  มีลูกด้วยกัน 8 คน  เมื่อก่อนนี้กิจการเราค่อนข้างขายดี และมีรายได้พอที่จะส่งเสียลูกๆ เรียนหนังสือได้
-แต่ ป่าป๊า  ไม่ได้ซื้อที่ดินหรือบ้านไว้เลย  เพราะค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกๆ ก็ค่อนข้างหนัก
-ช่วงที่ป่าป๊า  ค้าขายอยู่นั้น (ประมาณ 15-30 ปีก่อนนั้น)  ทางร้านเราเคยเสียภาษีอันดับแนวหน้าของจังหวัด
-เพราะป่าป๊า ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการเสียภาษี  ต้องจ้างเขาทำบัญชี  คนทำบัญชีไม่ค่อยพอใจที่ ป่าป๊า ไม่ยอมเสียเงินเลี้ยงต้อนรับหัวหน้าสรร ในยุคนั้น
-ก็เลยโดนกลั่นแกล้งให้เสียภาษีเยอะๆ
-มาช่วงหลังที่ ป่าป๊า เสียชีวิตไปแล้ว ผมก็ได้รับช่วงต่อ  แต่ปัจจุบันกิจการย่ำแย่ลงมาก  ต้องควักทุนเก่ามากินตลอด 4-5 ปีแล้ว จนใกล้จะหมดตัวอยู่แล้ว
-แถวนี้จอดรถไม่ได้  เพราะถนนแคบ และจราจรคับคั่ง
-ผมไปสมัคร "สวัสดิการรัฐ" แต่เขาไม่รับ  บอกว่า "ผมเป็นเจ้าของกิจการร้านค้า ไม่สามารถสมัครได้ เพราะผิดเงื่อนไข"
-เมื่อ ปีที่แล้ว 2561 ผมไปเซ็นต์ชื่อเป็นที่ปรึกษาของบริษัทฯแห่งหนึ่ง  ในวงเงิน ห้าแสนบาท  ได้ค่าคอมมาประมาณ 25000 บาท
-พอไปยื่นเสียภาษีปลายปีที่แล้ว  โดนคุณสรรพ เรียกเก็บภาษีรายได้ โดยเอายอดเงินของบริษัทฯที่ผมไปเซ็นต์เป็นที่ปรึกษามาคำนวณเป็นรายได้
-โดนหักภาษี+ดอกเบี้ย+ค่าปรับ  ที่ผมมายื่นช้าไป เป็นเงินประมาณ 24000 บาท  (เงิน 25000 บาทของผมโดนคุณสรรพ แย่งไปเฉยๆเลย 24000 บาท)
-สรุปผมได้เงินมาแค่ 1000 บาท  นี่มันไม่ใช่นโยบายช่วยเหลือพ่อค้าจนๆ กันแล้ว  นี่มันนโยบายกดขี่ ปล้น ทำลายล้าง ให้เขาจนหนักเข้าไปอีก
-ทุกวันนี้  " บ้านซุกหัวนอนก็ยังไม่มี เงินที่เก็บไว้ ก็ร่อยหรอลงทุกที + กับอายุมากขึ้นทุกวันๆ 60 ปีพอดี กำลังไม่มีที่จะไป "
-ยามมี คุณสรรพ ขอแบ่งปัน  ยามผมตกอับ  คุณสรรพ ถีบหัวส่ง  นี่หรือประชาธิปไตย