[CR] ตอนที่ 1 > 11 วัน เที่ยวคันไซ (Kansai) ประเทศญี่ปุ่น : ก้าวแรกสู่ญี่ปุ่น มุ่งไปเที่ยวเกียวโตกันเถอะ

*** กระทู้นี้หมักดองเค็มไว้ จริงๆอัพลง bloggang ไว้นานแล้ว ขอมาเขียนลง pantip บ้างละกัน***

จองไประหว่างวันที่ 24 มิถุนายน - 4 กรกฏาคม 2558 รวม 11 วัน (ค่าตั๋วเครื่องบินที่จองได้ตอนนั้น ไป-กลับ คนละ 6,990 บาท ( 2 คน = 13,980 บาท ไม่รวมค่าอาหารบนเครื่อง + ประกันเดินทาง + ค่าโหลดกระเป๋า ซึ่งมาหาซื้อที่หลังค่ะ คือขอให้ได้ตั๋วบินมาก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน ) รู้สึกว่าเราซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มอีก 4,000 บาทนะ (ถือคติเกินดีกว่าขาด เผื่อซื้อของกลับมาเยอะ)  และค่าประกันอีกคนละ 369 บาท ของ Cigna ประกันภัย + ค่าอาหารบนเครื่องอีกคนละ 150 บาท (โอ้ว.ววว รวมๆแล้วก็ไม่ได้ถูกนะ 555) อ้อ ค่า Pocket Wifi ของ Samuri  Wifi อีก ประมาณ 1,500 บาท (ไปจองในงานท่องเที่ยวจะมีการลดราคาด้วย) พร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปกับเราได้เลยค่ะ อ๊ะ!! เกือบลืม เราเตรียมเงินไปเที่ยว 60,000 บาท คะ ( 2 คนนะ)  คือ คิดและแบ่งเรียบร้อยแล้วว่าในงบหกหมื่นนี้คือ รวมค่าที่พัก ตีไป 10,000  / ค่า Pass ต่างๆ ที่ต้องใช้เดินทาง 10,000 ค่า Shopping 10,000 / ค่ากินตลอดทริป 10,000 ประมาณนี้ (ที่แพงคงจะเป็นค่าเดินทาง Pass ต่างๆ นี้ละ เที่ยวไกลก็ยิ่งแพง)
เราตกลงนอนค้างคืนกันที่สนามบิน (เพราะเห็นใครๆ เขาก็นอนกัน และประหยัดค่าที่พักไปในตัว) เช้าวันที่ 25 มิถุนายน 2558 จะได้เดินทางมุ่งหน้าเข้าเกียวโตเลย ไปถึงสนามบินเวลา ห้าทุ่ม คืนนอนไม่หลับต้องเข้า Lawson ไปหาของกินตอนเที่ยงคืน ได้อุด้งมาคนละถ้วย ในราคาประมาณ 120 บาท พร้อมชาเขียวอีก 1 ขวด กินเสร็จหลับสบายยันเช้า (ตรงที่เรานอนเราเลือกนอนใกล้ ศูนย์ตำรวจท่องเที่ยว ติดกับร้าน Lawson และ MC Donald ค่ะ ถึงจะหนวกหูเพราะเสียงเพลงจากร้าน MC Donald และมีคนเดินไปเดินมา แต่เอาที่ปลอดภัยไว้ก่อน เดินไปยืมผ้าห่มจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมา เช้าก็เอาไปคืน
ตอนเข้าฝากท้องตอนเช้าไว้ที่  Lawson เช่นเดิม (มาซื้อตอนประมาณ 7.30 น.)
กว่าจะออกจากสนามบินได้นี่เสียไปหลายบาทแล้ว >< !
ที่ประทับตราน่ารักๆ ที่ชั้น 2 ของสนามบินค่ะ เจอก็ปั๊มเก็บไว้เลย
ตื่นตั้งแต่ตีห้า เพื่อไปรอต่อคิวซื้อ Pass การเดินทางที่ชั้น 1 ก่อน 7.00 น. (ช้ากว่านั้นคนต่อคิวเยอะ)
ICOCA นี่หลายคนน่าจะรู้นะค่ะ เพราะมันใช้เดินทางคล้าย BTS บ้านเรา
และที่ขาดไม่ได้คือ เราต้องซื้อเจ้าตั๋ว HARUKA แบบไป-กลับสนามบินไว้ก่อนเลย มุ่งหน้าสู่เกียวโตเราก็ใช้เจ้าบัตรนี่เลยค่ะ ไปถึงสถานีเกียวโตก็ประมาณ 9.00 -9.30 น. (รอบเข้าสุด เที่ยวแรก)
จากนั้นเราก็เดินเข้าที่พักที่จองไว้จากเนทเสียก่อน รีบไปเอากระเป๋าไปทิ้งไว้ก่อน เพราะมันหนักมาก จากถนนใหญ่เดินมาไม่ถึง 1 โลก็ถึงที่พักแล้วค่ะ แม้ว่ามันจะไม่ใกล้สถานีรถไฟเกียวโต แบบลงมาปุ๊ปเจอปั๊ปแต่เท่าที่หาข้อมูลมาที่นี้ใกล้สุดและราคาถูกสุดแล้ว ตอนที่เราไป คืนละ 1,500 บาท เราพัก 3 คืน ราคา 16,800 เยน ( 4,556 บาท) จ่ายเงินตอนเข้าพักค่า
ที่พักชื่อ " โทมาโตะ เกสต์เฮาส์" (Tomato Guest House)  พิกัด GPS:N 034° 59.212, E 135° 45.111
ห้องพักเราติดอยู้ใกล้ห้องสุขาค่ะ ไม่มีกลิ่นเหม็นนะ จากหน้าห้องพักหันหน้าออกไปจะเจอประตูทางเข้าค่ะ
ห้องที่เราจองมาดูจากเนทดีกว่าห้องอื่นๆ ละ ไม่ชอบนอนรวมกับคนอื่น ยอมจ่ายเพิ่มเพื่อความสบายใจ
ออกมาจากห้องก็เจออ่างแปรงฟัน กับตู้เย็นเลย
ห้องครัวก็อยู่ตรงข้ามห้องที่เราพัก สะดวกดี แต่... เราว่าเตาแก๊สที่นี้สกปรกไปนะ สกปรกมากด้วย จนไม่กล้าใช้
มีห้องอาบน้ำ 2 ห้อง
หาที่ตากผ้าไม่เจอ เลยไม่เคยซักผ้าเลยตลอด 3 วันที่อยู่เกียวโต เครื่องอบผ้าก็ไม่มี
ถัดจากห้องครัวจะเป็นห้องนั่งเล่นรวม
หลังจากฝากกระเป๋าเสร็จเราก็ตะลุยออกไปเที่ยวศาลเจ้าอินาริ (ศาลเจ้าหมาจิ้งจอก)  // การเดินทาง : จากสถานีเกียวโตให้นั่งรถไฟJR สายNara ลงที่ป้าย Inari  เดินออกจากสถานีก็จะเจอศาลเจ้าหมาจิ้งจอก เลย สะดวกมาก มาถึงสถานีอินาริ เกือบเที่ยงแล้ว เราไปหาอาหารกลางวันทานกัน จากข้อมูลที่หามา แถวนี้จะมีร้านข้าวหน้าปลาไหลร้านป้า ที่ในเนทเขาบอกว่าอร่อยมาก
เห็นราคาแล้วลมแทบจับ แพงอยู่นะ ชาวเนทเขาว่าข้าวห่อเต้าหู้ร้านนี้ถ้าจำไม่ผิดคือเจ้าเเรกค่ะ เเละดังมาก
แต่เราเลือกสั่งข้าวหน้าปลาไหล ที่เสิรฟ์พร้อมซุปที่ปรุงจากตับปลาไหลแทนค่ะ เขาว่าอร่อยไม่แพ้กัน
เกิดมาเพิ่งเคยเห็น "ตับปลาไหล" มาเจอที่ญี่ปุ่นนี่ละ ราคาชุดละ 2,000 เยน มื้อนี้ทาน 2 คนก็ 4,000 เยน = 1,000 บาท ( ราคา ณ เดือน มิถุนายน 2558)
เป็นครั้งแรกที่กินข้าวแพงที่สุดในชีวิต ตกจานละ 500 บาท หากถามว่าอร่อยไหม ก็อร่อยดีค่ะ เพราะปลาไหลเขาสด
แล่ ปิ้ง ย่างกันเห็นๆ หน้าร้าน กลิ่นหอมตลบอบอวล
อิ่มแล้วก็เดินย้อนมาเที่ยวศาลเจ้าอินาริ คนเยอะมาก ขอบอก มีทัวร์จีนลงยิ่งคนเยอะมาก อากาศครึ้มฟ้า ครึ้มฝน แดดไม่แรง
สถานที่เที่ยวต่อไปตามแผนที่วางไว้คือ ย่าน Central เกียวโต จากสถานีอินาริเราก็นั่งรถไฟกลับมาที่สถานีเกียวโต และเราเลือกมาปราสาทนิโจค่ะ เพราะดูเวลาแล้วไปเที่ยวพระราชวังอิมพิเรียลไม่ทันแน่  *** การเดินทางในเกียวโตเราใช้ทั้งสถานีรถไฟใต้ดิน + เดิน + ขึ้นรถเมล์ในบางครั้งนะค่ะ เพราะหากขึ้นแต่รถเมล์คงเที่ยวไม่ครบ เพราะที่เกียวโต สี่แยก และไฟแดงเยอะมาก ***  นั่งรถเมล์ก็ติดนานพอควร จะให้เดินก็ขาลากพอดี เราก็ใช้บัตร Kansai Thru Pass นี่ละขึ้นทั้งรถใต้ดินและรถเมล์ในเกียวโต
เดินไปพักถ่ายรูปไป จะได้รู้สึกว่าไม่เมื่อย (จริงๆ โคตรเมื่อยค่ะ เหนื่อยด้วย น้ำก็ยังไม่ได้อาบกัน ชุดนี้ก็ตั้งแต่เดินทางมาจากประเทศไทย 555 )
เสียค่าตั๋วคนละ 600 เยน
ถ่ายรูปมาได้แค่นี้ละค่ะ เพราะภายในปราสาทเขาห้ามถ่ายรูป คือชอบพื้นไม้กระดานที่เดินมากค่ะ เดินทั่วทั้งปราสาทก็มีแต่เสียงเอี๊ยดอ๊าดทั้งหลัง เพราะเขาทำให้พื้นกระดานมีเสียงเพราะกันขโมยเขามา
สถานที่เที่ยวต่อไป คือ ตลาดนิชิกิ *** ตลาดนิชิกิ เป็นตลาดที่ตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกับถนนShijo-Doriมีรถบัสสาย 5,26, 101 ผ่านและยังมีรถบัสสายอื่นที่วิ่งผ่านถนนนี้ด้วยเช่น สาย 8, 11, 12, 32, 46, 91,201, 203, 207 วันและเวลาเปิด-ปิด แล้วแต่ร้านแต่เวลาเปิด-ปิดส่วนใหญ่คือ 9.00 น. – 18.00 น.และส่วนใหญ่ร้านค้าจะปิดวันพุธหรือวันอาทิตย์ ***
ที่ตลาดนิชิกิ เขาว่าขนมโดนัทที่ทำจากเต้าหู้ กับไอศรีมเต้าหู้ร้านนี้อร่อย
อร่อยดี หวานๆ มันๆ
เดินออกมาจากตลาดนิชิกิ เราจะไปเที่ยวต่อกันที่ศาลเจ้าซายะกะ ตรงหัวมุมถนนกิออน เดินมานั่งรถเมล์ไปแทนละกัน เริ่มเมื่อยแล้ว ป้ายรถเมล์ที่เกียวโต ตรงแถวกิออนนี้ดีมาก มีเจ้าหน้าที่ค่อยบริการ ถามว่าเราจะไปไหน หรือเราบอกว่าเราจะไปรถเมล์สายอะไร แกก็จะคอยบอกเมื่อรถเมล์มา แถมไม่มีการวิ่งแย่งขึ้นรถเมล์ กรูกันแบบบ้านเรานะ เขาต่อแถวเรียงคิวกันขึ้นจ๊ะ
การเดินทางไป ศาลเจ้าซายะกะ จากตลาดนิชิกินั่งรถเมล์สาย 46, 12, 201, 203, 207 ไปลงป้าย Gion ได้
เข้ามาในบริเวณศาลเจ้าก็จะเป็นลานกว้างๆ แบบนี้
ติดใจเจ้าเครื่องดื่มกระป๋องนี้มากรสชาติอมเปรี้ยว อมหวาน อร่อยดี

ตอนที่ 2 > 11 วัน เที่ยวคันไซ (Kansai) https://ppantip.com/topic/38459841
ชื่อสินค้า:   kansai,kyoto,osaka,japan
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่