สวัสดีค่ะ เบสนะคะ อายุ45 ปี ต้องบอกก่อนปัญหาที่เจอของคนอายุ40++ อย่างเราคือ ใบหน้าหย่อยคล้อย ร่องแก้มร่องน้ำหมากก็มา ขมับที่เคยเต็มก็ตอบ หน้ายิ่งดูแก่ไปอีก เบสหาข้อมูลเยอะมากๆ วิธีที่นิยมหลักๆ คือ การผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งเบสมองว่าส่วนตัวกลัวการผ่าตัดมาก ซึ่งรู้ตัวเลย ว่าไม่อยากทำ จนไปสะดุด กับ วิธีเติมเต็มด้วย Filler แต่ใน กทม. ก็มีหลายคลินิก เหลือเกินหาต่อไปค่ะ.... จนมาได้คลินิกที่นึงเพือนแนะนำเพราะเป็นคนไข้ที่นี้เลยเข้าไปสืบคลินิกใน Face bookก่อนอันดับแรก เห็นรูปสวยๆกดเข้าไปดูอ่านข้อมูลเบื้องต้นดูน่าสนใจดีบวกกับเพื่อนบอกมาด้วยเลยคิดว่าน่าโอเครอยู่หลังจากนั้นก้อแอดไลน์ไปถามดู ก้อได้ข้อมูลมานิดหน่อยและก้อนัดวันว่างเข้าไปปรึกษาคุณหมอ คลินิกอยู่ แถวอารีย์สัมพันธ์ เบสนั่งBTS ไปลงที่อารีย์แล้วก้อนั่งวินต่อเข้าไปที่อารีย์สัมพันธ์4 มีความลึกมาก สุดซอยเลยในซอยเป็นหมู่บ้าน นึกว่าหลงทางแล้วตอนแรก เพราะมันลึกจริงๆ และวินก้อมาส่งถึงหน้าคลินิก ขอเล่าความรู้สึกแรก ที่เข้าไปคลินิกนะคะ ในใจแอบคิด....ลึกขนาดนี้มีจะมีลูกค้ามั้ยน้า พอมาถึงคลินิก อ้าวว ลูกค้า แน่นพอสมควร แอบเช็คข้อมูลเพื่อนร่วมสวย คือคลินิกนี้ดังเรื่อง เมโสแฟตกับฟิลเล่อปรับรูปหน้านี่เอง ปากต่อปาก คนเลยตามๆกันมา เข้าใจเลยทำไมลึกขนาดนี้ถึงอยู่ได้....
เมื่อเข้ามาถึงน้องๆก้อให้กรอกประวัติ วัดความดัน ถ่ายรูป เพื่อเป็นประวัติ พนักงานเป็นกันเองทุกคนค่า สโลไลพ์ไม่รีบเร่งนะคะ ไม่ใช่แบบ รีบคุย รีบฉีดรีบไป น้องๆตอบคำถามเบื้องต้นได้ พอประมาณ ระหว่าง รอคุยกะหมอ...
รูปก่อนฉีด
เบื้องต้นปัญหาที่คุณหมอ วินิจฉัย คือ คิ้วตก ขมับตอบ มีร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ใต้ตาลึก ใบหน้าข้างๆหย่อนคล้อย
ตามอายุนะคะ 5555 เบสจะอธิบายคร่าวๆตามที่เบสเข้าใจนะคะว่า
คุณหมออธิบายว่า เมื่ออายุเพิ่มขึ้น กระดูกจะเริ่มบางลง จึงทำให้ชั้นSmas เป็นชั้นที่หุ้มกระดูกไว้ เกิดการหย่อนคล้อย หดตัวลง Fat page บนใบหน้าเกิดการเคลื่อนที่ได้ จึงทำให้เห็นแก้มเริ่มหย่อนคล้อย ใต้ตาลึก ร่องแก้มมา ขมับตอบ มุมปากตก แถมด้วยร่องน้ำหมากอีก การใช้ Filler คือการฉีดเติมเต็ม ใต้ชั้น Smas ซึ่งเป็นการเติมต็มในส่วนที่ขาดหายไป และสามารถลิฟติ้งความหย่อนคล้อยให้กระชับ หน้าดูเด็กลงได้ สามารถแก้ไขปัญหาที่เบสกังวลใจได้
ด้วยวิธีการฉีดฟิลเล่อ แบบ volume& lifting tenpiont คะ คืออะไรเบสก้อแอบงงๆ คำตอบของคุณหมอก้อคือ การฉีดฟิลเล่อเข้าไปที่ใต้ชั้น smas ซึ่งลึกถึงกระดูก (ง่ายๆคือฉีดถึงกระดูกคะ) หมอบอกว่า smas คือชั้นที่ปกคลุมภายใต้ชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อใบหน้าในเรื่องของความหย่อนคล้อย ปัญหาร่องลึกต่างๆ คะ โดยเฉพะเมื่อเราอายุมากขึ้น ชั้น smas จะไม่ตึงเหมือนเดิม ทำให้เกิดการยุบตัวภายใต้ชั้นผิวของเรา ฟิลเล่อ ที่คุณหมอแนะนำจะเป็นการฉีดแบบ10จุดตามตำแหน่งทีเป็นแผ่นsmas บนใบหน้า ซึ่งคุณหมอก้อนำรูปให้ดูว่า smas อยู่ตรงไหน ปรากฎว่า อยู่ตรงตำแหน่งเดียวกับที่เบสเป็นปัญหาเลยคะ พอเห็นรูปตำแหน่งที่ต้องฉีดลงไปก้อเริ่มเข้าใจว่ามันจะยกได้ยังไง หมอก้อเริ่มอธิบายต่อว่าเมื่อเราฉีดที่ใต้ชั้น smas ก้อคือกระดูก( ฟังดูอาจจะน่ากลัวเบสก้อกลัวคะตอนแรกบอกตรงแต่อยากให้มันดีขึ้นจริงๆก้อฟังต่อไป) ฟิลเล่อจะเข้าเติมเต็มเต็มในส่วนที่ขาดหายยุบตัวลงในชั้น smas คะ ทำให้ smasเต็มขึ้น ตึงขึ้น เมื่อเต็มก้อต้องตึงคือหลักการที่คิดแบบเข้าใจง่ายๆคะ นอกจากนี่ฟิลเล่อยังมีส่วนผสมของ collgen&hyalulonic acid ด้วยเมื่อเราฉีดเข้าไปก้อเท่ากับช่วยเติมคอลลาเจนและความชุ่มชื้นให้กิบผิวด้วย ได้ทีเดียว3ต่อเลย เพราะฉนั้น หลังจากการฉีด ใต้ตาจะเต็มชึ้น ขมับเต็มขึ้น ร่องแก้มเต็มขึ้น ร่องน้ำหมากตื้นขึ้น และได้ในเรื่องของความยกกระชับ โครงหน้าจะดูเด็กลงได้ ละมุน แบบไม่รู้ว่าทำอะไรมา เพราะไม่บวม ไม่ต่องพักฟื้นหลังทำ สามารถใช้หน้าได้ตามปกติ คุณหมอบอกว่าจะฉีดให้ดูความเปลี่ยนแปลง ก่อน1ข้าง คุณเบสจะได้เห็นว่า การฉีดแบบ ten point มันเป็นยังไง แตกต่างจากการเติมแค่volume ยังไงคะ สรุปว่าคุณหมออธิบายเบสก้อเข้าใจก้อเลยตัดสินใจทำคะ เบสเลือกใช้ฟิลเล่อของ อเมริกาคะ ตัว Juvedrem เค้าบอกว่าดีที่สุด อยู่นานที่สุดเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด เบสก้อเลยเอาฟิลเล่อตัวนี้เลยคะที่สำคัญ หมอการันตรีให้ว่าฟิลเล่อนี้เป็นของแท้แน่นอนจากบริษัท ให้เบสเอากล่องกลับบ้านได้ด้วย ก้อเลยตกงลงกันตามนี้คะ จากนั้นก้อไป คลีนหน้าแปะยาชา รอคุณหมอคะ
มาถึงเวลาของความเป็นจริง คุณหมอก้อเข้ามาฉีดให้คะความรู้สึก โดยส่วนตัวเบสว่าไม่ค่อยเจ็บนะคะตอนฉีด อาจจะรู้สึกบ้างบางจุดคะที่เข็มโดนเนื้อ แต่น้อยคงเพราะยาชามั้งแปะนาน ตอนฉีดน้องๆ ก้อช่วยแปะน้ำแข็งให้ด้วยเลยไม่ค่อยเจ็บคะ จะได้ยินเสียงในหูแบบกึดๆ แต่ไหงเข็มเข้าไปไม่ค่อยเจ็บคะ ทนได้ ก้อโอเครค่าเป็นความเจ็บที่รับได้ทนได้
พอคุณหมอฉีดเสร็จ1ข้างเบสก้อไม่ช้าที่คว้าโทรศัพท์มาถ่ายรูปเก็บไว้คะ
รูปตอนที่จะฉีดค่ะ
รูปฉีดเสร็จ 1ข้างค่ะ
สังเกตุได้ว่าอย่างแรกเลยคะ ร่องแก้มตื้นขึ้น ตาดูโตขึ้น ปกติเบสเป็นคนมีหนังตาค่อนข้างเยอะคะอันนี้คือตาดูเบิกขึ้นกว่าเดิม คิ้วยกขึ้นทั้งหัวและหางคะไม่ตกเหมือนตอนแรก ขมับเบสดูเต็มขึ้นด้วย ใต้ตาที่ลึกก้อเต็มขึ้นแค่ยังคงความคล้ำอยู่บ้างจากเดิมคะ มุมปากก้อดูสูงขึ้นยิ้มไม่เท่ากันเลยตอนนี้ 555 มีความแบบด้านข้างดูยกกระชับขึ้นกว่าเดิมด้วย หน้าดูเล็กลงกวกว่าเดิม โดยรวม1ข้างที่คุณหมอให้ดูก่อน เบสโอเครนะคะ เพราะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที
ต่อมา ก้อมาต่อกันข้างที่2 คะจะเริ่มฉีดให้เท่ากับข้างแรกแล้ว แอบตื่นเต้นนิดหน่อยคะ แต่เพื่อความสวยก้อทนได้ค่า 555 มาๆต่อค่า ฉีดไปฉีดมาก้อได้น่าแบบนี้นะคะ
รูปหลังฉีดเสร็จทั้ง2ข้างและก่อนทำคะ เทียบกันแบบเห็นชัดๆกันไปเลยคะ
สรุปก้อคือผลลัพธ์ที่ออกมาเบสค่อนข้างจะพอใจมาก เพราะหน้าดูเด็กขึ้นจริงดูไม่หย่อนคล้อยเหมือนตอนแรกคะ ที่สำคัญคุณหมอมือเบาฉีดตั้งหลายที่แต่มีรอยเข็มเขียวแค่จุดเดียวเองของเบส ขนาดจิ้มไปหลายทีตอนแรกเตรียมใจและว่าเขียวเยอะแน่เลยเพราะปกติก้อช้ำง่ายอยู่แล้วแต่นี้มีแค่ จุดเดียวเลยไม่ซีเรียสคะ สุดท้ายก้อหวังว่าประสบการณ์การทำหน้าครั้งนี้ของเบส จะสามารถนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาเรื่องรูปหน้าของใครหลายๆคนได้นะคะ วิธีที่เบสเลือกทำก้อเป็นอีกวิธีที่ง่าย เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ หน้าดูเปลี่ยนแปลงขึ้นทันทีหลังทำ ขอบคุณมากคะที่เข้ามาอ่านกันคะ เดี่ยวถ้ารอบหน้าไปทำอะไร เพิ่มเติมมาอีก เบสจะมาลงรูปให้ดูกันนะคะ ขอบคุณค่า
วันที่ 1
วันที่ 3
วันที่ 7
รีวิวลดอายุด้วย Filler Lift ของคนอายุ40+++ ค่ะ
สวัสดีค่ะ เบสนะคะ อายุ45 ปี ต้องบอกก่อนปัญหาที่เจอของคนอายุ40++ อย่างเราคือ ใบหน้าหย่อยคล้อย ร่องแก้มร่องน้ำหมากก็มา ขมับที่เคยเต็มก็ตอบ หน้ายิ่งดูแก่ไปอีก เบสหาข้อมูลเยอะมากๆ วิธีที่นิยมหลักๆ คือ การผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งเบสมองว่าส่วนตัวกลัวการผ่าตัดมาก ซึ่งรู้ตัวเลย ว่าไม่อยากทำ จนไปสะดุด กับ วิธีเติมเต็มด้วย Filler แต่ใน กทม. ก็มีหลายคลินิก เหลือเกินหาต่อไปค่ะ.... จนมาได้คลินิกที่นึงเพือนแนะนำเพราะเป็นคนไข้ที่นี้เลยเข้าไปสืบคลินิกใน Face bookก่อนอันดับแรก เห็นรูปสวยๆกดเข้าไปดูอ่านข้อมูลเบื้องต้นดูน่าสนใจดีบวกกับเพื่อนบอกมาด้วยเลยคิดว่าน่าโอเครอยู่หลังจากนั้นก้อแอดไลน์ไปถามดู ก้อได้ข้อมูลมานิดหน่อยและก้อนัดวันว่างเข้าไปปรึกษาคุณหมอ คลินิกอยู่ แถวอารีย์สัมพันธ์ เบสนั่งBTS ไปลงที่อารีย์แล้วก้อนั่งวินต่อเข้าไปที่อารีย์สัมพันธ์4 มีความลึกมาก สุดซอยเลยในซอยเป็นหมู่บ้าน นึกว่าหลงทางแล้วตอนแรก เพราะมันลึกจริงๆ และวินก้อมาส่งถึงหน้าคลินิก ขอเล่าความรู้สึกแรก ที่เข้าไปคลินิกนะคะ ในใจแอบคิด....ลึกขนาดนี้มีจะมีลูกค้ามั้ยน้า พอมาถึงคลินิก อ้าวว ลูกค้า แน่นพอสมควร แอบเช็คข้อมูลเพื่อนร่วมสวย คือคลินิกนี้ดังเรื่อง เมโสแฟตกับฟิลเล่อปรับรูปหน้านี่เอง ปากต่อปาก คนเลยตามๆกันมา เข้าใจเลยทำไมลึกขนาดนี้ถึงอยู่ได้....
เมื่อเข้ามาถึงน้องๆก้อให้กรอกประวัติ วัดความดัน ถ่ายรูป เพื่อเป็นประวัติ พนักงานเป็นกันเองทุกคนค่า สโลไลพ์ไม่รีบเร่งนะคะ ไม่ใช่แบบ รีบคุย รีบฉีดรีบไป น้องๆตอบคำถามเบื้องต้นได้ พอประมาณ ระหว่าง รอคุยกะหมอ...
รูปก่อนฉีด
เบื้องต้นปัญหาที่คุณหมอ วินิจฉัย คือ คิ้วตก ขมับตอบ มีร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ใต้ตาลึก ใบหน้าข้างๆหย่อนคล้อย
ตามอายุนะคะ 5555 เบสจะอธิบายคร่าวๆตามที่เบสเข้าใจนะคะว่า
คุณหมออธิบายว่า เมื่ออายุเพิ่มขึ้น กระดูกจะเริ่มบางลง จึงทำให้ชั้นSmas เป็นชั้นที่หุ้มกระดูกไว้ เกิดการหย่อนคล้อย หดตัวลง Fat page บนใบหน้าเกิดการเคลื่อนที่ได้ จึงทำให้เห็นแก้มเริ่มหย่อนคล้อย ใต้ตาลึก ร่องแก้มมา ขมับตอบ มุมปากตก แถมด้วยร่องน้ำหมากอีก การใช้ Filler คือการฉีดเติมเต็ม ใต้ชั้น Smas ซึ่งเป็นการเติมต็มในส่วนที่ขาดหายไป และสามารถลิฟติ้งความหย่อนคล้อยให้กระชับ หน้าดูเด็กลงได้ สามารถแก้ไขปัญหาที่เบสกังวลใจได้
ด้วยวิธีการฉีดฟิลเล่อ แบบ volume& lifting tenpiont คะ คืออะไรเบสก้อแอบงงๆ คำตอบของคุณหมอก้อคือ การฉีดฟิลเล่อเข้าไปที่ใต้ชั้น smas ซึ่งลึกถึงกระดูก (ง่ายๆคือฉีดถึงกระดูกคะ) หมอบอกว่า smas คือชั้นที่ปกคลุมภายใต้ชั้นกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อใบหน้าในเรื่องของความหย่อนคล้อย ปัญหาร่องลึกต่างๆ คะ โดยเฉพะเมื่อเราอายุมากขึ้น ชั้น smas จะไม่ตึงเหมือนเดิม ทำให้เกิดการยุบตัวภายใต้ชั้นผิวของเรา ฟิลเล่อ ที่คุณหมอแนะนำจะเป็นการฉีดแบบ10จุดตามตำแหน่งทีเป็นแผ่นsmas บนใบหน้า ซึ่งคุณหมอก้อนำรูปให้ดูว่า smas อยู่ตรงไหน ปรากฎว่า อยู่ตรงตำแหน่งเดียวกับที่เบสเป็นปัญหาเลยคะ พอเห็นรูปตำแหน่งที่ต้องฉีดลงไปก้อเริ่มเข้าใจว่ามันจะยกได้ยังไง หมอก้อเริ่มอธิบายต่อว่าเมื่อเราฉีดที่ใต้ชั้น smas ก้อคือกระดูก( ฟังดูอาจจะน่ากลัวเบสก้อกลัวคะตอนแรกบอกตรงแต่อยากให้มันดีขึ้นจริงๆก้อฟังต่อไป) ฟิลเล่อจะเข้าเติมเต็มเต็มในส่วนที่ขาดหายยุบตัวลงในชั้น smas คะ ทำให้ smasเต็มขึ้น ตึงขึ้น เมื่อเต็มก้อต้องตึงคือหลักการที่คิดแบบเข้าใจง่ายๆคะ นอกจากนี่ฟิลเล่อยังมีส่วนผสมของ collgen&hyalulonic acid ด้วยเมื่อเราฉีดเข้าไปก้อเท่ากับช่วยเติมคอลลาเจนและความชุ่มชื้นให้กิบผิวด้วย ได้ทีเดียว3ต่อเลย เพราะฉนั้น หลังจากการฉีด ใต้ตาจะเต็มชึ้น ขมับเต็มขึ้น ร่องแก้มเต็มขึ้น ร่องน้ำหมากตื้นขึ้น และได้ในเรื่องของความยกกระชับ โครงหน้าจะดูเด็กลงได้ ละมุน แบบไม่รู้ว่าทำอะไรมา เพราะไม่บวม ไม่ต่องพักฟื้นหลังทำ สามารถใช้หน้าได้ตามปกติ คุณหมอบอกว่าจะฉีดให้ดูความเปลี่ยนแปลง ก่อน1ข้าง คุณเบสจะได้เห็นว่า การฉีดแบบ ten point มันเป็นยังไง แตกต่างจากการเติมแค่volume ยังไงคะ สรุปว่าคุณหมออธิบายเบสก้อเข้าใจก้อเลยตัดสินใจทำคะ เบสเลือกใช้ฟิลเล่อของ อเมริกาคะ ตัว Juvedrem เค้าบอกว่าดีที่สุด อยู่นานที่สุดเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด เบสก้อเลยเอาฟิลเล่อตัวนี้เลยคะที่สำคัญ หมอการันตรีให้ว่าฟิลเล่อนี้เป็นของแท้แน่นอนจากบริษัท ให้เบสเอากล่องกลับบ้านได้ด้วย ก้อเลยตกงลงกันตามนี้คะ จากนั้นก้อไป คลีนหน้าแปะยาชา รอคุณหมอคะ
มาถึงเวลาของความเป็นจริง คุณหมอก้อเข้ามาฉีดให้คะความรู้สึก โดยส่วนตัวเบสว่าไม่ค่อยเจ็บนะคะตอนฉีด อาจจะรู้สึกบ้างบางจุดคะที่เข็มโดนเนื้อ แต่น้อยคงเพราะยาชามั้งแปะนาน ตอนฉีดน้องๆ ก้อช่วยแปะน้ำแข็งให้ด้วยเลยไม่ค่อยเจ็บคะ จะได้ยินเสียงในหูแบบกึดๆ แต่ไหงเข็มเข้าไปไม่ค่อยเจ็บคะ ทนได้ ก้อโอเครค่าเป็นความเจ็บที่รับได้ทนได้
พอคุณหมอฉีดเสร็จ1ข้างเบสก้อไม่ช้าที่คว้าโทรศัพท์มาถ่ายรูปเก็บไว้คะ
รูปตอนที่จะฉีดค่ะ
รูปฉีดเสร็จ 1ข้างค่ะ
สังเกตุได้ว่าอย่างแรกเลยคะ ร่องแก้มตื้นขึ้น ตาดูโตขึ้น ปกติเบสเป็นคนมีหนังตาค่อนข้างเยอะคะอันนี้คือตาดูเบิกขึ้นกว่าเดิม คิ้วยกขึ้นทั้งหัวและหางคะไม่ตกเหมือนตอนแรก ขมับเบสดูเต็มขึ้นด้วย ใต้ตาที่ลึกก้อเต็มขึ้นแค่ยังคงความคล้ำอยู่บ้างจากเดิมคะ มุมปากก้อดูสูงขึ้นยิ้มไม่เท่ากันเลยตอนนี้ 555 มีความแบบด้านข้างดูยกกระชับขึ้นกว่าเดิมด้วย หน้าดูเล็กลงกวกว่าเดิม โดยรวม1ข้างที่คุณหมอให้ดูก่อน เบสโอเครนะคะ เพราะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที
ต่อมา ก้อมาต่อกันข้างที่2 คะจะเริ่มฉีดให้เท่ากับข้างแรกแล้ว แอบตื่นเต้นนิดหน่อยคะ แต่เพื่อความสวยก้อทนได้ค่า 555 มาๆต่อค่า ฉีดไปฉีดมาก้อได้น่าแบบนี้นะคะ
รูปหลังฉีดเสร็จทั้ง2ข้างและก่อนทำคะ เทียบกันแบบเห็นชัดๆกันไปเลยคะ
สรุปก้อคือผลลัพธ์ที่ออกมาเบสค่อนข้างจะพอใจมาก เพราะหน้าดูเด็กขึ้นจริงดูไม่หย่อนคล้อยเหมือนตอนแรกคะ ที่สำคัญคุณหมอมือเบาฉีดตั้งหลายที่แต่มีรอยเข็มเขียวแค่จุดเดียวเองของเบส ขนาดจิ้มไปหลายทีตอนแรกเตรียมใจและว่าเขียวเยอะแน่เลยเพราะปกติก้อช้ำง่ายอยู่แล้วแต่นี้มีแค่ จุดเดียวเลยไม่ซีเรียสคะ สุดท้ายก้อหวังว่าประสบการณ์การทำหน้าครั้งนี้ของเบส จะสามารถนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาเรื่องรูปหน้าของใครหลายๆคนได้นะคะ วิธีที่เบสเลือกทำก้อเป็นอีกวิธีที่ง่าย เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ หน้าดูเปลี่ยนแปลงขึ้นทันทีหลังทำ ขอบคุณมากคะที่เข้ามาอ่านกันคะ เดี่ยวถ้ารอบหน้าไปทำอะไร เพิ่มเติมมาอีก เบสจะมาลงรูปให้ดูกันนะคะ ขอบคุณค่า
วันที่ 1
วันที่ 3
วันที่ 7