ขออภัยไม่รู้ทำไมข้อความไม่ขึ้น ต้องพิมพ์ใหม่หมดเลยนี่😳😳

การเที่ยวครั้งนี้เป็นการพาลูกไปเที่ยวยุโรปครั้งแรก ไปกันสามคนพ่อแม่ลูกค่ะ เลยจะไปกันสามประเทศมีเยอรมัน-เนเธอร์แลนด์-สวิส

เที่ยวครั้งนี้จองแบบกระชั้นชิดมาก จองตั๋ว และที่พักเดือน พย. และเดินทางช่วงคริสมาส-ปีใหม่ ทำให้ได้ตั๋ว และที่พักค่อนข้างแพงค่ะ แผนของเราคือ

25/12/2018 -- ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเพื่อไปลงเบอร์ลิน

26/12/2018-- ถึงเบอร์ลินเช้า ไปฝากกระเป๋าที่สถานีรถบัส เพราะตอนสามทุ่มจะต่อรถบัสไปอัมสเตอร์ดัม

27-29/12/2018 -- เที่ยวอัมสเตอร์ดัมและหมู่บ้านกังหัน

29/12/2018 -- เช้าเดินทางโดยเครื่องบินไป Basel, Switzerland

29/12/2018-01/01/2019 --เที่ยวสวิส

01-02/01/2019 -- นั่งรถไฟจาก Basel เข้าโคโลญจ์ และนอนที่ dusseldorf และบินกลับไทยเที่ยงวันที่ 2 จาก dusseldorf

วันแรกที่ถึงเบอร์ลินเราซื้อตั๋วแบบ one day pass ราคา 7 ยูโร นั่งรถบัส X9 จากป้ายรถเมล์ที่สนามบินไปต่อS bahn เพื่อนั่งรถไฟไปลงสถานีรถบัสที่จะต้องนั่งไปอัมสเตอร์ดัมคืนนี้ ฝากกระเป๋าในล๊อคเกอร์ก่อน
ที่สถานีรถบัสค่อนข้างน่ากลัวนะ และไม่ค่อยมีอะไรให้ซื้อทานด้วย

เนื่องจากวันที่ไปถึงเป็นวันที่ 26 ธค. ห้างปิดหมด เลยซึมไปนิดนึง แต่เสี่ยงนั่งรถไฟไปลง alexanderplatz โชคดีมาก ยังมีตลาดคริสต์มาสเปิดอยู่ ถึงร้านจะไม่มาก และฝนตกก็พรำๆ แต่ก็มีของกิน และของขายก็สนุกดี ขาหมูเยอรมันอร่อยมาก บริเวณนี้จะมีห้าง ร้านขายของใหญ่ๆเยอะค่ะ คนที่ชอบของถูกๆจะมี primak คล้ายๆ HM ค่ะ และใกล้สถานีรถไฟเลย ซื้อเสร็จก็ขนกลับ รร ได้เลย แต่วันที่ไปปิดเลยอด



เยอรมันนี้ดีนะ มีwifi freeให้ใช้ในสถานีรถไฟ ร้านอาหาร และตามห้างก็มีตลอด สัญญาณก็แรงดี อ่อ เรามาซื้อ sim ที่เบอร์ลินในสนามบินมีร้านเดียว(ถามจาก tourist information) เป็นร้านชื่อ electric อะไรซักอย่าง มันจะอยู่ตรงใกล้ๆประตูทางออกไปป้ายรถเมล์ ซื้อแล้วใส่ซิมรอประมาณ 15นาทีก็ใช้ได้ จำราคาไม่ได้าจะประมาณ 20euro ได้ 3GB

ช่วงบ่าย-- เราพยายามจะไปกำแพงเบอร์ลิน east side gallery แต่ดูจาก google map มันไกลมาก เราเลยแค่ขึ้นรถไฟไปตรง check point ชาลี วันนี้นี่ฝนตกทั้งวันจริงๆ
จากที่นั่งเครื่องมาทั้งคืนล้ามาก เลยเดินเข้าไปนั่งพักใน Berlin mall ซึ่งทุกร้านในห้างก็ปิดเหมือนกันมแต่เค้าเปิดให้คนเข้าไปเดินเล่นในห้างได้ มี wifi free และเปิด Heater ให้ ก็จะมีคนนั่งเล่นใน mall เยอะเหมือนกัน

ตอนเย็น- รีบไปที่สถานีรถบัส เพราะอย่างที่บอกมันค่อนข้างน่ากลัว ทางที่เดินจากสถานีรถไฟไปก็ค่อนข้างเปลี่ยวค่ะ พอไปถึงสถานีรถบัสยิ่งน่ากลัวไปอีก คือต้องบอกก่อนว่าการเดินทางโดยรถบัสนี่จะค่อนข้างราคาถูก ดังนั้นก็จะมีเด็กๆวัยรุ่นใช้บริการเยอะ และตามสถานีก็มีพวก homeless เยอะเลยค่ะ คงครั้งนี้ครั้งเดียวที่เลือกรถบัส เพราะมันไม่หลับเอาซะเลย
จริงๆเดินทางไปประเทศในยุโรปด้วยกันนี้ เครื่องบินไม่แพงเลย ถ้าจองล่วงหน้าบางทีถูกกว่ารถไฟอีก แต่คราวนี้มันกระชั้นชิดมาก ตั๋วมันแพงไปแล้ว เลยอดค่ะ

27/12/2018 -- night bus ถึง Amsterdam ตีห้า นั่งรถบัสจะมีห้องน้ำอยู่ชั้นล่างค่ะ และเค้าจะจอดระหว่างทางครั้งนึง แนะนำให้เข้าให้เสร็จเลยค่ะ เพราะถ้าเราไปถึงสถานีเช้า จะมีห้องน้ำบริการค่ะ แต่เปิด 6.00น (ไม่แน่ใจแต่ตอนไป สัญลักษณ์หน้าห้องน้ำมันบอกเปิด 6โมงนะไม่รู้ว่ามันจะเปลี่ยนตอนช่วงที่ไม่ติดวันหยุดรึเปล่า) แล้วต้องใช้ credit card ในการจ่ายเงิน ซึ่ง credit card ที่เรามีมันเป็นแบบไม่ต้องใช้ pin เลยใช้ห้องน้ำไม่ได้ และเช้าๆเจ้าหน้าทีก็ยังไม่มาทำงานด้วย ทั้งหนาวทั้งปวดฉี่ทรมานมาก
อ่อ ที่ Amsterdam Centraal station ค่าเข้าห้องน้ำ 0.70euro หยอดแล้วจะได้ตั๋วมา ซึ่งตั๋วนี้สามารถเอาไปลดราคาสินค้าได้ 0.50euro

ที่พักจองไม่ไกลจาก station เดินไปได้ เวลาเดินต้องระวัง tram และจักรยานมันยั้วเยี้ยมาก ในการเดินทางในเมือง เราสามารถซื้อ one day pass ของ tram ได้ ราคาน่าจะไม่เกิน 10euro สามารถนั่งไปแวนโก๊ะ และนั่งเล่นๆรอบๆเมืองได้เลย 

หรือถ้าชอบเดินเล่น เราสามารถเดินจากสถานีรถไฟ เดินเล่นตรง red light  มีร้านอาหาร ร้านขนม แพนเค้กเยอะมาก มีห้างที่ขายของ brandname และ primark มีร้านให้ช้อปปิ้งตลอดทาง

*การจองตั๋วแวนโก๊ะสามารถจองจากหน้าเวปได้ แต่ของเราไปจองที่นั่นเลย มันจะมีตู้ให้หยอดซื้อตั๋ว ซึ่งคนต่อคิวยาวมากจริงๆ 
ครั้งที่ไปนี้เราไปซื้อตั๋วตอนบ่ายโมง แต่ได้รอบเข้าชมตอนสี่โมงครึ่ง