# รวมเรื่องควรรู้ # ก่อนดู Glass (by Filmaneo)

ค.ศ. 1999 ภาพยนตร์เกี่ยวกับเด็กชายผู้ครอบครองสัมผัสที่หกซึ่งส่งผลให้เขามองเห็นวิญญาณได้ อันมีชื่อเสียงเรียงนามว่า The Sixth Sense ประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะตอนจบแบบหักมุมหัวทิ่มชนิดเกินความคาดหมาย
และกลายเป็นผลงานสร้างชื่อให้ผู้กำกับเชื้อสายอินเดีย 'เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน'

มิหนำซ้ำหนังเรื่อง 'Unbreakable' ซึ่งออกฉายปี 2000 ที่เขาทั้งเขียนบท, อำนวยการสร้าง, กำกับ, เล่นบทรับเชิญในหนัง และยังคงหักมุมตอนจบ ก็ได้เสียงตอบรับที่ดี
เส้นทางอาชีพของเขาจึงดูรุ่งโรจน์สว่างไสวทันควัน  ชยามาลานส่งผลงานใหม่ตามมาเรื่อยๆ อาทิเช่น Signs, The Village, Lady in the Water, The Happening ที่ตอนจบหักมุมมากบ้างน้อยบ้างคละเคล้ากัน

แม้ไม่ใช่เสียงตอบรับดีงามทุกเรื่อง แต่ภาพยนตร์ของชยามาลานได้รับคำวิจารณ์ด้านลบหนักเอาตอน The Last Airbender กับ After Earth จนชื่อเสียงในฐานะเจ้าพ่อหนังหักมุม ต้องเสื่อมเสียมนตร์ขลัง

แต่เขาก็เริ่มกู้ศรัทธาแฟนผลงานคืนได้ด้วยภาพยนตร์เรื่อง The Visit
ก่อนสร้างความฮือฮาจากหนังเกี่ยวกับคนหลายบุคลิก ที่ฉายครั้งแรกปี 2016 อย่าง 'Split' ซึ่งใส่ฉากทิ้งท้ายอันบอกให้ทราบว่ามันคือหนังในจักรวาลเดียวกับ Unbreakable ไว้

ผ่านมาเกือบ 20 ปีจากภาคแรก  ในที่สุด "Glass" หนังภาค 3 ของจักรวาลซุปเปอร์ฮีโร่แนวกระตุกขวัญสั่นประสาทจึงได้ฉาย
เลยขอถือโอกาสรวมเรื่องควรรู้ มาแนะนำจักรวาลฮีโร่สุดแนวของชยามาลาน บริการผู้ที่สนใจครับ



*** สปอยล์ Unbreakable และ Split ***




Unbreakable (2000)


ณ เมืองฟิลาเดลเฟีย ค.ศ. 1961  มารดาคนนึงคลอดทารกเพศชายกลางห้างสรรพสินค้า
ทารกคนนี้ไม่ธรรมดา เพราะแพทย์พบว่าเขากระดูกหักตั้งแต่เกิด

เด็กชาย 'อีไลจาห์ ไพรซ์' ร่างกายอ่อนแอ
ป่วยไข้ด้วยโรคที่ทำให้ร่างกายผลิตโปรตีนบางชนิดได้ไม่ดี
กระดูกของเขาเลยเปราะบางดั่งแก้ว จนใช้ชีวิตพลาดพลั้งเพียงเล็กน้อยกระดูกก็หักทันที
เด็กๆ รอบข้างตั้งฉายา ต่างพากันล้อเลียนว่า "ไอ้เปราะ" (Mister Glass)

อีไลจาห์หวาดกลัวการใช้ชีวิตหมกตัวอยู่แต่ในห้อง
แม่ของเขารับมือด้วยการให้รางวัลเป็นหนังสือการ์ตูน(คอมิค) ทุกครั้งที่เด็กชายยอมออกนอกบ้าน
อีไลจาห์ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลบ่อยๆ เปิดการ์ตูนอ่านเสมอๆ และแปรสภาพสู่แฟนคอมิคตัวยง
เมื่อเติบใหญ่เขากลายเป็นนักสะสม ที่เปิดแกลเลอรี่ขายชิ้นงานเกี่ยวกับคอมิคด้วยความเชื่อว่ามันคือศิลปะทรงคุณค่าแขนงหนึ่ง

ทว่า เขาได้แต่ตั้งคำถามเสมอว่าตนเองกำเนิดมาบนโลกเพื่อสิ่งใด
เพื่อใช้เวลาหวาดกลัวกระดูกจะหัก กับนอนติดเตียงโรงพยาบาลตลอดเท่านั้นหรือ ?
แล้วก็ฉุกคิดว่าถ้าตัวเองเปราะบางกว่าคนธรรมดาขนาดหนักดังนี้
มนุษย์ที่ตรงข้าม แข็งแกร่งผิดธรรมดาเหนือชั้น ย่อมมีสิทธิ์เกิดขึ้นเฉกเช่นเดียวกัน
อีไลจาห์เลยหวังจะค้นหาบุคคลผู้มีความพิเศษดังกล่าวให้พบ


มิสเตอร์กลาส



ค.ศ. 2000  ขณะพนักงานรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา 'เดวิด ดันน์' ผู้รู้สึกชีวิตขาดบางสิ่ง จนทำตัวห่างเหินกับภรรยาและลูกชาย กำลังเดินทางด้วยรถไฟสายตะวันออก 177
ขบวนรถประสบอุบัติเหตุร้ายแรงระดับที่ผู้โดยสารควรตายหมด
แต่เดวิดรอดชีวิตราวปาฏิหาริย์เพียงผู้เดียว


เดวิด ดันน์



อีไลจาห์คิดว่านี่แหละผู้ไม่รู้จักแตกหัก (Unbreakable) ซึ่งเขาเฝ้าตามหามานาน
อีไลจาห์เริ่มการติดต่อกับเดวิด ดันน์ รวมถึงภรรยาและลูกชาย พยายามตรวจสอบยืนยันให้แน่ใจ

เดวิดยืนกรานปฏิเสธ เพราะเชื่อมั่นว่าตนคือคนปกติธรรมดาสามัญเฉยๆ
ข้อขัดแย้งเรื่องฮีโร่คือเดวิดเคยเกือบจมน้ำตายสมัยเด็ก
และประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำสมัยเรียนมหาวิทยาลัยพร้อมภรรยาที่สมัยนั้นเพิ่งพบรักกัน ส่งผลให้ต้องล้มเลิกการเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลดาวเด่น

แต่อีไลจาห์สังเกตเห็นว่าเดวิดทำงานรักษาความปลอดภัยสนามกีฬาได้ดีเพราะมีสัญชาตญาณพิเศษสำหรับรับรู้เหตุร้าย,
คิดว่าเดวิดโกหกเรื่องบาดเจ็บตอนรถคว่ำ เพราะเอาใจภรรยาผู้เกลียดกีฬาใช้ความรุนแรงแบบอเมริกันฟุตบอล,
มองว่าเดวิดเลือกงานปกป้องผู้คน เนื่องจากอยากเติมเต็มบางสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิต
และน้ำคือ 'จุดอ่อน' ของซุปเปอร์ฮีโร่ผู้นี้


เดวิด ดันน์ เปิดใจยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น และสวมชุดกันฝนออกปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรม ดุจดั่งการกระทำของซุปเปอร์ฮีโร่ในหน้าหนังสือการ์ตูน


ข่าวฮีโร่ช่วยคน



เค้ารู้สึกชีวิตถูกเติมเต็ม และแอบบอกลูกชายให้รับรู้ตัวตนพิเศษนี้ โดยปิดบังภรรยาที่เกลียดชังการใช้ความรุนแรงไว้ แล้วไปขอบคุณอีไลจาห์

ทว่า เมื่อจับมือกระชับมิตรกับสหายกระดูกบาง สัญชาตญาณเค้ากลับทำงาน
เดวิดมองเห็นภาพอีไลจาห์ใช้มันสมองปราดเปรื่อง ชักใยอยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุสะเทือนขวัญคร่าชีวิตผู้คนมากมาย และหลากหลายเหตุการณ์
อีไลจาห์สารภาพว่ากระทำเพื่อค้นหาซุปเปอร์ฮีโร่ และพบความหมายของชีวิตแล้ว
เขาเกิดมาเพื่อเป็น 'วายร้าย' ขั้วตรงข้ามของฝ่ายฮีโร่นั่นเอง

สุดท้ายเดวิด ดันน์ นำตำรวจเข้าตรวจค้นแกลเลอรี่ศิลปะ พบหลักฐานการกระทำผิด
อีไลจาห์ ไพรซ์ ถูกนำส่งโรงพยาบาลจิตเวชโทษฐานทำผิดเพราะวิกลจริต



Split (2016)


ตอนอายุ 3 ขวบ แม่อารมณ์ร้ายของเด็กชาย 'เควิน เวนเดล ครัมบ์' มักลงโทษเขาแบบทารุณ
วิธีเลี่ยงอย่างหนึ่ง คือทำทุกสิ่งให้สะอาดเรียบร้อยไร้ที่ติ
เควินจึงทำการแยกบุคลิก (Split) สร้างตัวตนใหม่ชื่อ 'เดนนิส' ผู้เข้มแข็งและใส่ใจในรายละเอียดเนี้ยบเป๊ะ พร้อมกับตัวตนแบบผู้หญิงที่ชื่อ 'แพทริเชีย'


แพทริเชีย



ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่  เควินแตกบุคลิกแยกออกมาเพิ่มเรื่อยๆ จนมีมากถึง 23 คนในร่างเดียว, สูญเสียบิดาเพราะอุบัติเหตุรถไฟ
และบุคลิกอื่นๆ พยายามปกป้องจิตใจ โดยการผลักไสให้ตกอยู่ในสภาวะหลับใหลไปเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2014

สารพัดบุคลิกผลัดกันใช้ร่างเควินภายใต้การดูแลของคาเรน เฟลทเชอร์/จิตแพทย์หญิงผู้อารี ซึ่งศึกษาคนไข้โรคหลายบุคลิก
เธอพบว่าเมื่อเชื่อมั่นแรงกล้า จิตใจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายจริงๆ
ในร่างชายคนนึงสามารถมีได้ทั้งคนป่วยเป็นเบาหวานและต้องฉีดอินซูลินรักษา (โดยที่บุคลิกอื่นไม่ป่วย), ชายร่างกำยำเรี่ยวแรงดี ไปจนถึงเด็กชายขี้เล่น
เฟลทเชอร์พยายามเผยแพร่ข้อมูลให้ผู้คนเชื่อว่ามนุษย์หลายตัวตนในร่างเดียวมีจริง
หาใช่แกล้งทำหรือคนไข้หลงผิดคิดเพ้อเจ้อเอาเอง แต่ก็ไม่ค่อยมีใครใส่ใจนัก

ปี 2016 ขณะเควินผู้รับตำแหน่งหัวหน้าช่างซ่อมบำรุงกำลังทำงาน ณ สวนสัตว์ฟิลาเดลเฟีย  มีนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมมาทัศนศึกษา
เด็กสาววัยรุ่น 2 คนเล่นพิเรนทร์ จับมือเควินสอดใต้เสื้อสัมผัสหน้าอกพวกเธอ ก่อนวิ่งหนีไปหัวเราะกับเพื่อนๆ

เมื่อโดนล้อเลียนดังนั้น มันทำให้เขาย้อนนึกถึงการถูกข่มเหงจากมารดาในวัยเยาว์
เขาเริ่มสะกดรอยตามสาวๆ และสบโอกาสลักพาตัวตอนทั้งสองอยู่กับเด็กสาวอีกคนที่ชื่อ 'เคซีย์ คุก'
ทั้งสามถูกกักขังในอาณาเขตส่วนตัวของเควินที่อยู่ใต้ดินของสวนสัตว์


ซ้ายเคซีย์ คุก, ขวาเฮดวิก



ก่อนหน้านี้ 'แบร์รี่' ซึ่งมีความเป็นผู้นำคือบุคลิกหลัก และกำหนดว่าบุคลิกไหนได้ออกหน้า
แต่ 'เฮดวิก' บุคลิกแบบเด็กผู้ชายเล็กๆ คือคนที่สามารถแย่งร่างจากแบร์รี่ได้
เดนนิสกับแพทริเชีย กล่อมให้เฮดวิกยอมช่วยเหลือ เพื่อจะเรียกบุคลิกที่ 24 'สัตว์ร้าย' (The Beast) อันเกิดเพราะรับเอาอิทธิพลจากสัตว์นานาชนิดในสวนสัตว์มาออกหน้า

สัตว์ร้ายถูกปลุกขึ้นมา  มันมีผิวหนังหนาระดับกระสุนปืนเจาะไม่ทะลุ, แข็งแรงว่องไวดุจสัตว์ป่า และสามารถยึดเกาะรอยเล็กๆ บนผนังโล่งๆ เพื่อปีนป่ายได้อย่างคล่องแคล่วราวกับปีนหน้าผาแสนขรุขระ


สัตว์ร้ายสังหารเฟลทเชอร์ผู้พยายามหยุดอาชญากรรม
ฆ่าและกัดกินเนื้อเด็กสาว 2 คนผู้ล้อเลียนเควิน
มันเกือบฆ่าเคซีย์ คุกด้วยแล้ว แต่เมื่อพบร่องรอยแผลเป็นหลายแห่งบนร่างหล่อนก็เปลี่ยนใจ
เพราะเชื่อว่าผู้เคยผ่านความทุกข์ทรมานจัดเป็นพวกเดียวกัน ถือเป็นมนุษย์ซึ่งมีวิวัฒนาการสูงกว่า

เคซีย์ รอดชีวิตเนื่องจากโดนคุณอาผู้รับเลี้ยงเธอหลังพ่อเสียชีวิตกระทำชำเรา+ทำร้ายร่างกายตั้งแต่ยังเล็ก และคงต้องกลับไปทรมานที่บ้านต่อ
ส่วนเดนนิส, แพทริเชีย, เฮดวิก ปรึกษากับสัตว์ร้ายว่าควรทำให้สาธารณชนยอมรับเรื่องพวกเขามีตัวตนอยู่จริง
ด้านเดวิด ดันน์ รับรู้เรื่องของสัตว์ร้ายผ่านข่าวทางโทรทัศน์



Glass (2019)


เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน ผู้บอกเล่าเรื่องราวของภาพยนตร์ Unbreakable แห่งปี 2000 และหนังเรื่อง Split ตอนค.ศ. 2016
นำเส้นเรื่องของสองภาคมาบรรจบ ในหนังซุปเปอร์ฮีโร่แนวกระตุกขวัญ: Glass

บรูซ วิลลิส หวนคืนสู่บทเดวิด ดันน์ เช่นเดียวกับซามูเอล แอล. แจ๊คสัน ในบทอีไลจาห์ ไพรซ์ ผู้มีสมยาว่า มิสเตอร์กลาส

เจมส์ แมคเอวอย ก็กลับมารับบท เควิน เวนเดล ครัมบ์ และอีกสารพัดบุคลิกที่อาศัยในร่างเดียว
พร้อมอันยา เทย์เลอร์-จอย ที่กลับมาเล่นเป็น เคซีย์ คุก ผู้รอดชีวิตจากการผจญสัตว์ร้าย

หลังบทสรุปของ Split  มิสเตอร์กลาสตระหนักว่าดันน์กำลังไล่ตามสัตว์ร้าย/บุคลิกพลังเหนือมนุษย์ของเควิน
เงามืดจากจิตชั่วร้ายของกลาสแผ่ปกคลุมบุรุษทั้งสอง
เขาเริ่มต้นชักใยทั้งคู่โดยเก็บงำความลับบางอย่างอันสำคัญมากไว้




[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่