สวัสดีครับ ผมรบกวนขอคำปรึกษาครับ คุณแม่ของผมเลี้ยงหมาปั๊ก 1 ตัว (ในบ้านมีตัวเดียว) ตอนนี้อายุ 13 ปีกว่าแล้วครับ
คุณแม่ของผมอายุ 65 ทั้งคุณแม่และปั๊กผูกพันกันมากครับ
ตลอดระยะเวลา 13 ปี เราก็ดูแลเอาใจใส่อย่างดีมาก เราเป็นครอบครัวฐานะปานกลาง แต่พยายามให้สิ่งที่ดีที่สุด ทั้งอาหารและการรักษาพยาบาล แทบไม่เคยไปรพ.ของรัฐ ใช้บริการการดูแลสุภาพที่โรงพยาบาลเอกชนเสนอให้ตลอด ซึ่งค่อนข้างเกินฐานะของเรา แต่ สมาชิกทุกคนในบ้านก็สนับสนุนทางการเงิน เพราะเห็นว่า "เป็นความสุขของแม่"
ปัญหาเริ่มเกิดขึ้น เมื่อเจ้าปั๊กอายุเยอะขึ้น มันมีโรคประจำตัว คือ หัวใจโต หลอดลมตีบ และกระดุกผุ ซึ่งเราก็พยายามดูแลอย่างดีมากๆ ทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายสูงมากมากๆ โดยเฉพาะหลอดลมตีบ เราซื้อเครื่องช่วยหายใจมาไว้บ้าน เพราะหลังๆเขาชอบมีอาการหายใจไม่ออก อย่างไรก็ตาม ระยะหลัง อาการเป็นหนัก ต้องนำส่งโรงพยาบาลเอกชนยามดึกๆ แทบจะอาทิตย์หละ 3 วัน สลับกันหรือ ต้องนอนโรงพยายาลติดต่อกัน ซึ่งค่าใช้จ่ายตกแล้ว เดือนละ 30,000 กว่าบาท
หมอประจำตัวของเจ้าปั๊กก็อธิบายว่า เป็นอาการของ "อวัยวะเสื่อม" เหมือนคนแก่ แต่ที่เป็นปัญหามากๆ คือ ชอบมีอาการหายใจไม่ออกทรมาน ซึ่งเเราสันนิษฐานว่า เหมือนคนที่เวลาตื่นเต้น หรือดีใจ หรือ ตกใจ หลอดลมจะตีบ แล้วเจ้าปั๊กเวลาอยู่กับแม่ก็ชอบมีอาการเหล่านี้ ส่งผลให้ หลอดลมตีบหนักกว่าเดิม จึงเกิดอาการหายใจไม่ออก แล้วต้องส่งโรงพยาบาลบ่อยๆ (เวลาแม่ไม่อยู่ หรือไป โรงพยาบาลอาการก็ปกติ)
อาการเหล่านี้ 1.ทำให้คุณแม่ผม กลางวันกลางคืนแทบไม่ได้พักผ่อน คอยเฝ้าอาการ (ไม่ยอมพัก) และถ้าอาการหนักดึกๆ คนในครอบครัวที่ต้องการการพักผ่อนจากการทำงาน หรือตัวคุณแม่เองที่พักผ่อนน้อย ต้องพากันขับรถส่งโรงพยาบาล ซึ่งการรักษาพยายาลก็ทำได้แค่ การให้ยา และให้ออกซิเจน เหมือนรักษาไปวันๆ (ไม่ได้โทษโรงพยายาล เพราะมันอาจจะทำได้แค่นี้) เรากังวลถึง สุขภาพจิต และสุขภาพกายของคุณแม่มาก
2. เงินค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า ครอบครัวเริ่มรับภาระไม่ไหว เพราะเรามองว่า เราควรสงวนเงินเหล่านี้ไว้ดูแล พ่อแม่ ยามแก่เฒ่าเจ็บป่วยจะดีกว่า
คนในบ้านตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่เราทุกคน รักเจ้าปั๊กตัวนี้มาก เราไม่มีวันเอาไปปล่อยไปทิ้งแน่นอน เราเคยพยายามหาทาง ลด Cost การดูแล แต่ค่ายาของเขาแพงมากครับ ซื้อข้างนอกไม่มีหรือราคาไม่ต่างจากโรงพยาบาล การย้ายไปรักษาโรงพยาบาลของรัฐ ก็ประสบปัญหาคล้ายๆของคน ที่ไปรักษาโรงพยาบาลรัฐครับ แถมไกลจากบ้านมาก ไม่สะดวกสำหรับครอบครัวเลยที่จะไปรักษา เราทุกคนรวมถึงคุณแม่ ก็ตังใจว่าหลังจาก เจ้าปั๊กตัวนี้ ไม่อยู่แล้ว จะไม่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีก เพราะแทนที่จะนำเงินมาเลี้ยงหมาตัวใหม่ เราเอาเงินไปบริจาคช่วยเหลือ สงเคราะห์สัตว์ที่ตกทุขได้ยาก เพื่อเป็นบุญกุศล ให้กับเจ้าปั๊กตัวนี้ แต่ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงกับปัญหานี้จริงๆ
กราบขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านจนจบและผมของความกรุณาในการให้คำแนะนำด้วยครับ
เลี้ยงหมา "ปั๊ก" มา 13 ปีแต่ตอนนี้ถึงทางตัน
คุณแม่ของผมอายุ 65 ทั้งคุณแม่และปั๊กผูกพันกันมากครับ
ตลอดระยะเวลา 13 ปี เราก็ดูแลเอาใจใส่อย่างดีมาก เราเป็นครอบครัวฐานะปานกลาง แต่พยายามให้สิ่งที่ดีที่สุด ทั้งอาหารและการรักษาพยาบาล แทบไม่เคยไปรพ.ของรัฐ ใช้บริการการดูแลสุภาพที่โรงพยาบาลเอกชนเสนอให้ตลอด ซึ่งค่อนข้างเกินฐานะของเรา แต่ สมาชิกทุกคนในบ้านก็สนับสนุนทางการเงิน เพราะเห็นว่า "เป็นความสุขของแม่"
ปัญหาเริ่มเกิดขึ้น เมื่อเจ้าปั๊กอายุเยอะขึ้น มันมีโรคประจำตัว คือ หัวใจโต หลอดลมตีบ และกระดุกผุ ซึ่งเราก็พยายามดูแลอย่างดีมากๆ ทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายสูงมากมากๆ โดยเฉพาะหลอดลมตีบ เราซื้อเครื่องช่วยหายใจมาไว้บ้าน เพราะหลังๆเขาชอบมีอาการหายใจไม่ออก อย่างไรก็ตาม ระยะหลัง อาการเป็นหนัก ต้องนำส่งโรงพยาบาลเอกชนยามดึกๆ แทบจะอาทิตย์หละ 3 วัน สลับกันหรือ ต้องนอนโรงพยายาลติดต่อกัน ซึ่งค่าใช้จ่ายตกแล้ว เดือนละ 30,000 กว่าบาท
หมอประจำตัวของเจ้าปั๊กก็อธิบายว่า เป็นอาการของ "อวัยวะเสื่อม" เหมือนคนแก่ แต่ที่เป็นปัญหามากๆ คือ ชอบมีอาการหายใจไม่ออกทรมาน ซึ่งเเราสันนิษฐานว่า เหมือนคนที่เวลาตื่นเต้น หรือดีใจ หรือ ตกใจ หลอดลมจะตีบ แล้วเจ้าปั๊กเวลาอยู่กับแม่ก็ชอบมีอาการเหล่านี้ ส่งผลให้ หลอดลมตีบหนักกว่าเดิม จึงเกิดอาการหายใจไม่ออก แล้วต้องส่งโรงพยาบาลบ่อยๆ (เวลาแม่ไม่อยู่ หรือไป โรงพยาบาลอาการก็ปกติ)
อาการเหล่านี้ 1.ทำให้คุณแม่ผม กลางวันกลางคืนแทบไม่ได้พักผ่อน คอยเฝ้าอาการ (ไม่ยอมพัก) และถ้าอาการหนักดึกๆ คนในครอบครัวที่ต้องการการพักผ่อนจากการทำงาน หรือตัวคุณแม่เองที่พักผ่อนน้อย ต้องพากันขับรถส่งโรงพยาบาล ซึ่งการรักษาพยายาลก็ทำได้แค่ การให้ยา และให้ออกซิเจน เหมือนรักษาไปวันๆ (ไม่ได้โทษโรงพยายาล เพราะมันอาจจะทำได้แค่นี้) เรากังวลถึง สุขภาพจิต และสุขภาพกายของคุณแม่มาก
2. เงินค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า ครอบครัวเริ่มรับภาระไม่ไหว เพราะเรามองว่า เราควรสงวนเงินเหล่านี้ไว้ดูแล พ่อแม่ ยามแก่เฒ่าเจ็บป่วยจะดีกว่า
คนในบ้านตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่เราทุกคน รักเจ้าปั๊กตัวนี้มาก เราไม่มีวันเอาไปปล่อยไปทิ้งแน่นอน เราเคยพยายามหาทาง ลด Cost การดูแล แต่ค่ายาของเขาแพงมากครับ ซื้อข้างนอกไม่มีหรือราคาไม่ต่างจากโรงพยาบาล การย้ายไปรักษาโรงพยาบาลของรัฐ ก็ประสบปัญหาคล้ายๆของคน ที่ไปรักษาโรงพยาบาลรัฐครับ แถมไกลจากบ้านมาก ไม่สะดวกสำหรับครอบครัวเลยที่จะไปรักษา เราทุกคนรวมถึงคุณแม่ ก็ตังใจว่าหลังจาก เจ้าปั๊กตัวนี้ ไม่อยู่แล้ว จะไม่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอีก เพราะแทนที่จะนำเงินมาเลี้ยงหมาตัวใหม่ เราเอาเงินไปบริจาคช่วยเหลือ สงเคราะห์สัตว์ที่ตกทุขได้ยาก เพื่อเป็นบุญกุศล ให้กับเจ้าปั๊กตัวนี้ แต่ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงกับปัญหานี้จริงๆ
กราบขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านจนจบและผมของความกรุณาในการให้คำแนะนำด้วยครับ