##### อูไน เอมิรี่ยืนยันแล้ว : เราไม่มีงบซื้อใครในตลาดรอบนี้เลย ทำได้แค่ยืมตัว #####

ทำไมซื้อไม่ได้ ????

หัวร้อนไปตามๆ กันสำหรับแฟนอาร์เซนอล กับตลาดการซื้อขายรอบเดือนมกราคมนี้ หลังจาก อูไน อเมรี่ เฮดโค้ชของทีมยืนยันแล้วว่า พวกเขาในเวลานี้สามารถทำได้แค่ “ยืมตัว” นักเตะมาใช้งานเท่านั้น ไม่สามารถซื้อขาดนักเตะคนไหนได้ในตลาดรอบนี้ เนื่องจาก

“ไม่มีงบ”

เป้าหมายของอาร์เซนอลในฤดูกาลนี้คือการกลับไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้งหลังจากชวดมา 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 5 ของตาราง ตามหลังอันดับ 4 อยู่สามคะแนน ในตารางคะแนนเหมือนแต้มจะไม่ห่าง แต่ฟอร์มของทีมมันก็ไม่ได้ทำให้สบายใจว่าจะแซงหน้าเชลซี อันดับสี่ได้ง่ายๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะงานในเกมรับ

ใน Top 6 อาร์เซนอลเสียประตูมากที่สุดอันดับสองรองจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทีมเดียวเท่านั้น และเสียน้อยกว่าแค่ประตูเดียวด้วย ตอนนี้เสียไป 31 ประตูจาก 21 เกม ส่วนหงส์แดงจ่าฝูงเสียแค่ 10 ประตูเท่านั้น ความต่าง 21 ประตู หมายถึงคะแนนที่หล่นหายไปมากมายจากการเสียประตูเหล่านั้น ส่วนเกมบุก 46 ประตูที่ได้มาเหมือนจะได้เยอะ แต่ก็มีบางเกมที่พร้อมใจกันทื่อ และหลุดเสมอไปบางเกม ดังนั้นแฟนบอลปืนใหญ่จึงหวังอย่างมากว่า ในตลาดมกราคมนี้ พวกเขาอย่างน้อยต้องได้คนมาช่วยเกมรับให้ดีขึ้น ส่วนเกมรุกถ้าได้มาก็ถือว่าเสริมแกร่งกันไป

สุดท้ายสัมภาษณ์ของอูไน แทบจะทำลายกำลังใจ และขยี้ความหวังของแฟนๆ ไปพร้อมกัน มีแต่คำถามว่า ทำไมไม่มีเงิน (วะ)

ครั้งสุดท้ายที่อาร์เซนอลไม่ขยับการซื้อขายในเดือนมกราคมเลยคือในปี 2007-08 หลังจากนั้นพวกเขาขยับตัวเสมอ แม้จะเล็กน้อย ยืมตัว เซ็นฟรี หรือจะซื้อดาวรุ่งอะไรก็ตามแต่  แต่พวกเขาก็ “ขยับ” ทุกรอบ มาจนถึงรอบล่าสุดที่กระหึ่มด้วยการเซ็นสัญญาเป็นสถิติสโมสรกับการคว้า ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง มาค้ำแดนหน้าให้ทีม พ่วงด้วยการแลก เฮนริค มคิทาร์ยาน กับอเล็กซิส ซานเชส

ยิ่งอ่านยิ่งหาข้อมูล ยิ่งชอกช้ำใจ

เว็บไซต์ข่าวในอังกฤษระบุว่าสาเหตุที่แท้จริงแล้ว อาร์เซนอล นั้นดำเนินนโยบายอยู่ได้ตัวเอง หมายถึงสโมสรเลี้ยงดูตนเองแบบที่เรียกว่า “Self suitable Model” เป็นระบบหมุนเงินจากสิ่งที่ที่หามาได้ ส่วนการมีเจ้าของทีม โคตรรวยอย่าง สแตน โครเอนเก้ นั้นไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเขาไม่ได้เอาเงินส่วนตัวของเขามาลงช่วยทีม แม้จะระบุว่าเขามีเงินหลัก 7,000 ล้านปอนด์ก็ตามที

ตามข้อมูลจาก Swiss Ramble ซึ่งเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการเอาเงินของเจ้าของทีมมาช่วยสโมสรนั้น อาร์เซนอล เป็นหนึ่งในสองทีมที่ไม่มีการลงทุนจากเจ้าของสโมสรเลย ตั้งแต่ช่วงปี 2008-2017 อีกทีมคือมิดเดิ้ลสโบรซ์

10 ปีที่โครเอนเก้เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในสโมสร จนมาปีที่แล้วถือแบบเบ็ดเสร็จ เท่ากับไม่ได้ช่วยอะไรให้สโมสรดีขึ้นเลย ตรงกันข้ามกับตัวเองได้โปรไฟล์เพิ่มจากการลงทุน เอาโปรไฟล์ไปค้ำกู้เงิน เอาเงินไปลงกับทีมอเมริกันฟุตบอล แอลเอ แรมส์ ที่ลงทุนย้ายทีมจากเซนต์หลุยส์ กลับมาแอลเอ เพราะเมืองใหญ่กว่า แฟนทีมแรมส์ด่ากันยิ้มวายป่วงกับการย้ายทีมแบบย้ายเมือง…แต่เก้ “แล้วไง ใครแคร์”

การไม่ได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้อาร์เซนอลเสียเงินอย่างน้อย 35 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล ซึ่งเป็นหนึ่งในรายได้หลักของสโมสรส่วนหนึ่งเลยก็ว่าได้ แต่ในทางกลับกันในช่วงสองปีหลังสุดที่หลุด UCL ไป อาร์เซนอลรายจ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 35 ล้านปอนด์ จากการเสริมทัพ และการเพิ่มค่าแรงในสัญญาใหม่ให้กับนักเตะในทีม ซึ่งแม้จะหักลบกับการขายนักเตะออกไปหลายราย (เชสนี่-วัลคอตต์-ชิรูด์-แชมเบอร์เลน ฯลฯ) แต่สุดท้ายแล้ว คนที่เข้ามาใหม่อย่าง ลากาแซตต์ – โอบาเมยอง และการต่อสัญญาใหม่เมซุต เออซิล ก็ยังทำให้ปืนใหญ่ ตัวเลขติดลบอยู่ดี

นี่ยังไม่รวมค่าตัว กับค่าเหนื่อยนักเตะใหม่ 5 คนที่ย้ายมาในฤดูกาลนี้ และปีนี้ในตลาดสิงหาคมพวกเขาไม่ได้ขายนักเตะหลักออกไปแบบได้เงินเลยสักคนเดียว แต่ต้องปล่อย ซานติ การ์ซอล่า และแจ็ค วิลเชียร์ ออกไปแบบไม่มีค่าตัว ซึ่งมันกำลังจะเกิดขึ้นกับ อารอน แรมซีย์ เป็นรายต่อไป

ทั้งนี้ในปีหน้า พรีเมียร์ ลีก มีการออกกฎเกี่ยวกับการเงินเช่นกัน พวกเขากำหนดว่า ทุกทีมสามารถเพิ่มค่าเหนื่อยนักเตะรวมกันได้ไม่เกิน 7 ล้านปอนด์ [อันนี้ไม่ว่าจะซื้อนักเตะใหม่ หรือต่อสัญญานักเตะเก่า ค่าเหนื่อยต้องเพิ่มจากของฤดูกาลเดิมไม่เกิน 7 ล้านปอนด์] ซึ่งนั่นพรีเมียร์ ลีก มองว่าจะช่วยให้เงินไม่เฟ้อมากจนเกินไป และให้เกิดภาวะการแข่งขันได้กับหลายทีมโดยเฉพาะทีมที่ไม่ได้มีเงินหนาทั้งหลาย

ดังนั้นการที่แฟนบอลออกมาประท้วงทีมด้วยการจะไม่ซื้อสินค้าสโมสร หรือไม่เข้าชมเกมก็ไม่ได้ช่วยให้ โครเอนเก้ เจ็บปวดรวดร้าว หรือสะเทือนการเงินแต่อย่างใด เพราะเจ้าตัวลอยตัวไปนานแล้ว กับการถือหุ้นใหญ่สุดของสโมสร ที่ตนเองไม่ได้ลงทุนอะไรเพิ่มเติม นอกจากการลงเงินซื้อหุ้นมาไว้ในมือเท่านั้น

ส่วนอาร์เซนอลจะเป็นอย่างไร ไม่รู้จะสนใจแค่ไหน เพราะอย่างที่เคยบอกเขาไม่ได้รักฟุตบอล รักอาร์เซนอล เท่ากับที่เขารักอเมริกันฟุตบอล และเขารัก “เงินตรา และความมั่งคั่งมากที่สุด”



รวยขนาดนี้ จะเอาเงินไปใช้ในยมโลกรึยังไงกันลู้ง😂😂😂🤣🤣🤣
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่