เรารู้สึกว่าเราแปลกไปจากคนอื่นและชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว เรามีอาการไฟฟ้าสถิตบ่อยมากๆ หยิบจับอะไรที่เป็นเหล็กหรือวัตถุที่นำไฟได้ก็จะโดนไฟฟ้าสถิตยุบ่อยๆ เวลาทำงานนี่ลำบากมากบางทีหยิบจับอะไรก็สถิตไปหมดจนต้องใส่ถุงมือทำงาน(ถ้าเกิดไฟฟ้าสถิตคือจะสถิตทั้งวันเลย) แต่ที่น่าแปลกคือเราซ๊อตคนอื่นได้โดยที่เราไม่รู้ตัว วันนั้นเรารู้สึกหงุดหงิดหน่อยแล้วมีป้าคนหนึ่งเดินมาจับแขนเรา แล้วสะดุ้งตกใจแล้วบอกว่าไฟซ๊อตทำหน้าตางงๆ แล้วแกก็จับแขนเราลองดูอีกครั้งแกก็สะดุ้งตกใจอีกพร้อมพูดช้ำๆว่าไฟซ๊อตๆ ไฟมาจากไหน หนูซ๊อตป้าจนเจ็บไปทั้งแขนเลย ป้าจะไม่เดินใกล้หนูอีกแล้ว เราก็งงไฟอะไรซ๊อตไฟมาจากไหนเราไม่รู้สึกอะไรเลย จนหลายวันต่อมาเราไปชื้อของใช้กับแฟน เราเห็นหลอดไฟที่เป็นแสงหลายๆสีเหมือนในผับมันดูสวยดี เราเลยแกะกล่องเอาหลอดไปออกมาดูมือข้างหนึ่งจับตรงขั้วไฟอีกข้างหมุนหลอดไฟเล่น(หลอดไฟหมุนได้เพื่อสลับสีของไฟ) เรารู้สึกตื่นเต้นมากไฟมันสีสวยดี หมุนอยู่สักพักไฟมันก็ดับ เราตกใจนึกว่าทำของเราพังเลยรีบเอาใส่กล่องไว้เหมือนเดิม แต่พนักงานที่กำลังวางของขึ้นชั้นอยู่ตรงนั้นมองเราแบบตกใจมาก ยืนจ้องมองเราแทบไม่กะพริบตาเราเลยรีบเดินหนี แล้วหันกลับมาดูเห็นพนักงานคนนั้นหยิบหลอดไฟขึ้นมาดูแบบงงๆ แต่ไม่มีแสงไฟออกมานะ เรารีบบอกแฟนเราว่าทำไฟเขาพังอันหนึ่งชื้อให้หน่อยกลัวเขาด่าเอา เเล้วพาแฟนไปหยิบเอาหลอดไฟกล่องที่เราทำพัง บอกแฟนว่าเราทำหลอดขาดไฟมันเลยไม่ติด แฟนแกะออกมาดูแล้วด่าเราเลย ไฟมันจะติดได้ไง ก็มันไม่มีไฟไม่ได้เสียบปลั้กเนี่ย เราเริ่มงงเลยเถียงไปว่าไม่ติดได้ไงเมื่อกี้ยังหมุนเล่นยุเลยมันเป็นไฟหลายๆสีอ่ะ แต่หมุนไปหมุนมาไฟมันดับก็แปลว่ามันพัง!!!
แฟนเราก็ด่าเราอีกว่า บ้าหรอไฟที่ไหนจะติด เป็นบ้าไปแล้วตาลายหรือไงแล้วเดินหนี เรายังได้แต่งงไฟมาจากไหน จนเราเรียนจบมาทำงานวันนั้นเราโมโหเพื่อนร่วมงานชาวอินโดมาก โมโหจนรู้สึกร้อนวูบๆเหงืออกเต็มตัว เพื่อนชาวจีนเลยจับแขนเราไว้แล้วเขาก็สะดุงตกใจ เราก็ตกใจเหมือนกันเพราะเรารู้สึกโดนไฟซ๊อต เพื่อนงงไฟมาจากไหนเลยจับเเขนเราดูก็สะดุ้งอีก บอกไฟซ๊อตๆปวดวิ่งมาตามแขนเลย แต่เราแค่รู้สึกเจ็บๆคันๆเหมือนไฟฟ้าสถิตทั่วไป เราเริ่มแน่ใจแล้วว่าไฟมาจากตัวเรา หน้าฝนถ้าฝนตกใบไม้ยังเปลียกๆอยู่ เเขนไปโดนมีซ๊อตตลอดบางทีเจ็บมากจนเเขนแดงปูดขึ้นเป็นเส้นๆยาวๆตามที่ไฟวิ่งไปเลย หนาวนี่ถ้าผิวแห้งสถิตบ่อยมากจนต้องพอกครีมบำรุงผิวทั้งตัว แต่วันหนึ่งเรากลับบ้านอาบน้ำเสร็จไม่ทาครีม ใส่กางเกงขายาวสีขาวเสื้อยืดสีขาวเดินไปนอนเป็นเพื่อนยาย ห่มผ้านอนปิดไฟ แล้วเห็นแสงวาบๆ วาบๆ วิ่งเป็นเส้นไปเต็มตัวเราเลยขยับตัวปุ๊ปแสงไฟสีขาวออกฟ้าอ่อนๆสว่างวาบไปตามตัว แล้วมีเสียงเปาะเป๊ะๆเบาแค่พอได้ยิน แต่วันนั้นไม่รู้สึกว่าโดนไฟซ๊อตนะ ยายเราเห็นว่ามีไฟตามตัวเราก็ตกใจ ด่าเราใหญ่ บอกให้เราหยุดทำ หยุดทำ ไฟจะไหม้บ้านหยุดทำเลย(เชาเฮ็ดแหม้ไฟสิไหม้นั่นนั่นน่ะเชาเฮ็ด) เราเลยแกล้งขยับตัวไปมาให้ไฟมันสถิตอยู่ตลอดเวลา น้องชายเราได้ยินเสียงโวยวายก็วิ่งมาดูที่ห้องนอนยาย เราเลยบอกน้องเราว่าอย่าเปิดไฟแล้วดูนี่ ขยับตัวให้ไฟสถิตวิ่งสว่างเป็นเส้นแผล๊บๆไปทั้งตัว น้องเราตะลึงไปเรียกพ่อกับแม่มาดู พ่อแม่ก็งงๆหน่อย พ่อเลยบอกว่า แม่ชีเรืองแสงได้ที่มาจำศีลยุวัดนั่นพ่อไม่ประหลาดใจแล้ว ที่เเท้ไฟฟ้าสถิตนี่เอง555 น้องชายเราตื่นเต้นสุดๆจะไปเรียกลุงป้าบ้านข้างๆมาดู แต่แม่ไม่ให้ไปเรียกเพรามันดึกมากแล้ว มีอีกหลายเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้น เราได้แต่สงสัยว่าไฟมาจากไหน แต่ตอนเด็กเราเป็นไข้หน้าฝน ฝนตกปอยๆฟ้าร้องครึมๆ เรานอนอยู่เตียงหน้าบ้านแล้วเกิดสายฟ้าแลบมาเฉียดตัวเรา ตอนสายฟ้าเฉียดลงมาเรารู้สึกเสียววาบที่หัวใจหลังสันหลังมาก เเล้วเสียงฟ้าผ่าดังตึ้มตามมาอย่างเเรง จนเราตกใจมาก แม่เราเห็นฟ้าแลบมาโดนเราเขาตกใจมามาก แม่ร้องเรียกเราพร้อมจะวิ่งมาหาเราจนแม่ตกเก้าอี้ แม่กอดเราไว้แน่น เราตกใจและงงๆ ไม่รู้สึกอะไรเลย เราเดินเข้าบ้านไปนอนที่โซฟากับแต่เฉย แต่เเม่กอดเราเเน่นมาก พอฝนหยุดตกถึงได้รู้ว่าฟ้าผ่าจานดาวเทียมที่ติดอยู่ระเบียงหน้าบ้านเรา ทุกวันนี้เรากลายเป็นคนกลัวฝน กลัวฟ้าผ่า ถ้ามีฝนตกคือจะไม่ออกนอกห้องหรือออกจากในตัวบ้านเลย กลัวมากๆ ตอนนี้เราอายุ25ปี ไฟฟ้าที่เคยสถิตเริ่มลดลง ไม่ค่อยสถิตแล้ว มันหายไปเองเราก็ยังงงๆอยู่มันหายไปไหน
พลังจิตคืออะไร
แฟนเราก็ด่าเราอีกว่า บ้าหรอไฟที่ไหนจะติด เป็นบ้าไปแล้วตาลายหรือไงแล้วเดินหนี เรายังได้แต่งงไฟมาจากไหน จนเราเรียนจบมาทำงานวันนั้นเราโมโหเพื่อนร่วมงานชาวอินโดมาก โมโหจนรู้สึกร้อนวูบๆเหงืออกเต็มตัว เพื่อนชาวจีนเลยจับแขนเราไว้แล้วเขาก็สะดุงตกใจ เราก็ตกใจเหมือนกันเพราะเรารู้สึกโดนไฟซ๊อต เพื่อนงงไฟมาจากไหนเลยจับเเขนเราดูก็สะดุ้งอีก บอกไฟซ๊อตๆปวดวิ่งมาตามแขนเลย แต่เราแค่รู้สึกเจ็บๆคันๆเหมือนไฟฟ้าสถิตทั่วไป เราเริ่มแน่ใจแล้วว่าไฟมาจากตัวเรา หน้าฝนถ้าฝนตกใบไม้ยังเปลียกๆอยู่ เเขนไปโดนมีซ๊อตตลอดบางทีเจ็บมากจนเเขนแดงปูดขึ้นเป็นเส้นๆยาวๆตามที่ไฟวิ่งไปเลย หนาวนี่ถ้าผิวแห้งสถิตบ่อยมากจนต้องพอกครีมบำรุงผิวทั้งตัว แต่วันหนึ่งเรากลับบ้านอาบน้ำเสร็จไม่ทาครีม ใส่กางเกงขายาวสีขาวเสื้อยืดสีขาวเดินไปนอนเป็นเพื่อนยาย ห่มผ้านอนปิดไฟ แล้วเห็นแสงวาบๆ วาบๆ วิ่งเป็นเส้นไปเต็มตัวเราเลยขยับตัวปุ๊ปแสงไฟสีขาวออกฟ้าอ่อนๆสว่างวาบไปตามตัว แล้วมีเสียงเปาะเป๊ะๆเบาแค่พอได้ยิน แต่วันนั้นไม่รู้สึกว่าโดนไฟซ๊อตนะ ยายเราเห็นว่ามีไฟตามตัวเราก็ตกใจ ด่าเราใหญ่ บอกให้เราหยุดทำ หยุดทำ ไฟจะไหม้บ้านหยุดทำเลย(เชาเฮ็ดแหม้ไฟสิไหม้นั่นนั่นน่ะเชาเฮ็ด) เราเลยแกล้งขยับตัวไปมาให้ไฟมันสถิตอยู่ตลอดเวลา น้องชายเราได้ยินเสียงโวยวายก็วิ่งมาดูที่ห้องนอนยาย เราเลยบอกน้องเราว่าอย่าเปิดไฟแล้วดูนี่ ขยับตัวให้ไฟสถิตวิ่งสว่างเป็นเส้นแผล๊บๆไปทั้งตัว น้องเราตะลึงไปเรียกพ่อกับแม่มาดู พ่อแม่ก็งงๆหน่อย พ่อเลยบอกว่า แม่ชีเรืองแสงได้ที่มาจำศีลยุวัดนั่นพ่อไม่ประหลาดใจแล้ว ที่เเท้ไฟฟ้าสถิตนี่เอง555 น้องชายเราตื่นเต้นสุดๆจะไปเรียกลุงป้าบ้านข้างๆมาดู แต่แม่ไม่ให้ไปเรียกเพรามันดึกมากแล้ว มีอีกหลายเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้น เราได้แต่สงสัยว่าไฟมาจากไหน แต่ตอนเด็กเราเป็นไข้หน้าฝน ฝนตกปอยๆฟ้าร้องครึมๆ เรานอนอยู่เตียงหน้าบ้านแล้วเกิดสายฟ้าแลบมาเฉียดตัวเรา ตอนสายฟ้าเฉียดลงมาเรารู้สึกเสียววาบที่หัวใจหลังสันหลังมาก เเล้วเสียงฟ้าผ่าดังตึ้มตามมาอย่างเเรง จนเราตกใจมาก แม่เราเห็นฟ้าแลบมาโดนเราเขาตกใจมามาก แม่ร้องเรียกเราพร้อมจะวิ่งมาหาเราจนแม่ตกเก้าอี้ แม่กอดเราไว้แน่น เราตกใจและงงๆ ไม่รู้สึกอะไรเลย เราเดินเข้าบ้านไปนอนที่โซฟากับแต่เฉย แต่เเม่กอดเราเเน่นมาก พอฝนหยุดตกถึงได้รู้ว่าฟ้าผ่าจานดาวเทียมที่ติดอยู่ระเบียงหน้าบ้านเรา ทุกวันนี้เรากลายเป็นคนกลัวฝน กลัวฟ้าผ่า ถ้ามีฝนตกคือจะไม่ออกนอกห้องหรือออกจากในตัวบ้านเลย กลัวมากๆ ตอนนี้เราอายุ25ปี ไฟฟ้าที่เคยสถิตเริ่มลดลง ไม่ค่อยสถิตแล้ว มันหายไปเองเราก็ยังงงๆอยู่มันหายไปไหน