รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง
ด่านที่ 2 ของทัพ “ช้างศึก” ใน “เอเชียน คัพ 2019” ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ นั่นก็คือ “บาห์เรน” ที่จะดวลกันในวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคมนี้ ณ สนาม อัล มัคตูม สเตเดียม นครดูไบ
“กองทัพแดง” บาห์เรน ปัจจุบันรั้งอันดับ 113 ของโลก และอันดับ 20 ของเอเชีย เคยเข้ารอบสุดท้าย “เอเชียน คัพ” มาแล้ว 5 ครั้ง ผลงานดีสุดคืออันดับ 4 เมื่อปี 2004 ส่วนอีก 4 ครั้ง ตกรอบแบ่งกลุ่มทั้งหมดในปี 1988, 2007, 2011, 2015
สถิติเล่นรอบสุดท้ายทั้งหมด 19 แมตช์ ชนะ 4 เสมอ 5 แพ้ 10 ส่วนเอเชียนคัพครั้งนี้ เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันของ บาห์เรน
แต่กว่าจะเข้าถึงรอบสุดท้ายครั้งนี้ได้ บาห์เรน ภายใต้การคุมทัพของ มิโรสลาฟ ซูคุป กุนซือชาวเช็ก ต้องเริ่มฝ่าฟันตั้งแต่รอบ 2 หรือรอบแบ่งกลุ่ม โดยอยู่ในกลุ่มเอช ร่วมกับ อุซเบกิสถาน, เกาหลีเหนือ, ฟิลิปปินส์ และ เยเมน
ปรากฏว่า บาห์เรน จบอันดับ 4 ของกลุ่ม ด้วยผลงานชนะ 3 แพ้ 5 มี 9 แต้ม แต่ยังได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบคัดเลือก รอบที่ 3 พร้อมกับ เกาหลีเหนือ และ ฟิลิปปินส์ ทีมอันดับ 2 และ 3 ในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของการคัดเลือก 12 ทีมเข้าสู่ เอเชียนคัพ รอบสุดท้าย ไปรวมกับ 12 ทีมที่รออยู่แล้ว คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เจ้าภาพ), ซาอุดีอาระเบีย, ออสเตรเลีย, กาตาร์, จีน, อิหร่าน, ญี่ปุ่น, ซีเรีย, ไทย, อิรัก, เกาหลีใต้ และอุซเบกิสถาน
โดยในรอบนี้ บาห์เรน อยู่กลุ่มอี ร่วมกับ เติร์กเมนิสถาน, ไต้หวัน และ สิงคโปร์ ปรากฏว่า บาห์เรน ทำผลงานชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 15 เสียแค่ 3 ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มเหนือ เติร์กเมนิสถาน ที่เข้ารอบเป็นอันดับ 2
คีย์แมนสำคัญของ บาห์เรน ชุดนี้คือ ซาเยด โมฮาเมดเจฟเฟอร์ นายทวารกัปตันทีมจอมเก๋าวัย 32 ที่เข้าร่วมเอเชียนคัพครั้งแรกเมื่อปี 2004 ด้วยอายุเพียง 18 ปี และติดทีมชาติไปแล้ว 113 นัดอีกหนึ่งนักเตะสำคัญคือ อัลดุลลา ยูซิฟ ดาวยิงวัย 25 ปี ที่ค้าแข้งอยู่กับ โบฮีเมียนส์ 1905 ในลีกดิวิชั่น 1 สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรในฤดูกาลนี้ หลังยิงไป 5 ประตู จากการลงเล่นไป 15 นัดจาก 19 เกม
สำหรับสถิติเจอกับ ทีมชาติไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งหมด 9 ครั้ง บาห์เรน ทำได้ดีกว่า ชนะ 3 เสมอ 5 ส่วน ไทย ชนะแค่ครั้งเดียว ตั้งแต่การเจอกันหนแรกเมื่อปี 1980 หลังจากนั้น “ช้างศึก” ยังไม่เคยชนะได้อีกเลย
ศึกเอเชียนคัพ 2019 ครั้งนี้ “กองทัพแดง” ประเดิมสนามได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเสมอกับเจ้าภาพ ยูเออี ที่ถูกยกให้เป็นเต็งจ๋าของกลุ่ม ในแบบน่าชนะ 1-1
บาห์เรน จึงเป็นด่านสุดหินของทัพ “ช้างศึก” อย่างแท้จริง
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1721790
อ่านแล้วอย่าท้อนะครับ บอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ “กองทัพแดง” บาห์เรน ด่านสองของ “ช้างศึก”
ด่านที่ 2 ของทัพ “ช้างศึก” ใน “เอเชียน คัพ 2019” ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ นั่นก็คือ “บาห์เรน” ที่จะดวลกันในวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคมนี้ ณ สนาม อัล มัคตูม สเตเดียม นครดูไบ
“กองทัพแดง” บาห์เรน ปัจจุบันรั้งอันดับ 113 ของโลก และอันดับ 20 ของเอเชีย เคยเข้ารอบสุดท้าย “เอเชียน คัพ” มาแล้ว 5 ครั้ง ผลงานดีสุดคืออันดับ 4 เมื่อปี 2004 ส่วนอีก 4 ครั้ง ตกรอบแบ่งกลุ่มทั้งหมดในปี 1988, 2007, 2011, 2015
สถิติเล่นรอบสุดท้ายทั้งหมด 19 แมตช์ ชนะ 4 เสมอ 5 แพ้ 10 ส่วนเอเชียนคัพครั้งนี้ เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกันของ บาห์เรน
แต่กว่าจะเข้าถึงรอบสุดท้ายครั้งนี้ได้ บาห์เรน ภายใต้การคุมทัพของ มิโรสลาฟ ซูคุป กุนซือชาวเช็ก ต้องเริ่มฝ่าฟันตั้งแต่รอบ 2 หรือรอบแบ่งกลุ่ม โดยอยู่ในกลุ่มเอช ร่วมกับ อุซเบกิสถาน, เกาหลีเหนือ, ฟิลิปปินส์ และ เยเมน
ปรากฏว่า บาห์เรน จบอันดับ 4 ของกลุ่ม ด้วยผลงานชนะ 3 แพ้ 5 มี 9 แต้ม แต่ยังได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบคัดเลือก รอบที่ 3 พร้อมกับ เกาหลีเหนือ และ ฟิลิปปินส์ ทีมอันดับ 2 และ 3 ในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของการคัดเลือก 12 ทีมเข้าสู่ เอเชียนคัพ รอบสุดท้าย ไปรวมกับ 12 ทีมที่รออยู่แล้ว คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (เจ้าภาพ), ซาอุดีอาระเบีย, ออสเตรเลีย, กาตาร์, จีน, อิหร่าน, ญี่ปุ่น, ซีเรีย, ไทย, อิรัก, เกาหลีใต้ และอุซเบกิสถาน
โดยในรอบนี้ บาห์เรน อยู่กลุ่มอี ร่วมกับ เติร์กเมนิสถาน, ไต้หวัน และ สิงคโปร์ ปรากฏว่า บาห์เรน ทำผลงานชนะ 4 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 15 เสียแค่ 3 ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มเหนือ เติร์กเมนิสถาน ที่เข้ารอบเป็นอันดับ 2
คีย์แมนสำคัญของ บาห์เรน ชุดนี้คือ ซาเยด โมฮาเมดเจฟเฟอร์ นายทวารกัปตันทีมจอมเก๋าวัย 32 ที่เข้าร่วมเอเชียนคัพครั้งแรกเมื่อปี 2004 ด้วยอายุเพียง 18 ปี และติดทีมชาติไปแล้ว 113 นัดอีกหนึ่งนักเตะสำคัญคือ อัลดุลลา ยูซิฟ ดาวยิงวัย 25 ปี ที่ค้าแข้งอยู่กับ โบฮีเมียนส์ 1905 ในลีกดิวิชั่น 1 สาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรในฤดูกาลนี้ หลังยิงไป 5 ประตู จากการลงเล่นไป 15 นัดจาก 19 เกม
สำหรับสถิติเจอกับ ทีมชาติไทย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งหมด 9 ครั้ง บาห์เรน ทำได้ดีกว่า ชนะ 3 เสมอ 5 ส่วน ไทย ชนะแค่ครั้งเดียว ตั้งแต่การเจอกันหนแรกเมื่อปี 1980 หลังจากนั้น “ช้างศึก” ยังไม่เคยชนะได้อีกเลย
ศึกเอเชียนคัพ 2019 ครั้งนี้ “กองทัพแดง” ประเดิมสนามได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเสมอกับเจ้าภาพ ยูเออี ที่ถูกยกให้เป็นเต็งจ๋าของกลุ่ม ในแบบน่าชนะ 1-1
บาห์เรน จึงเป็นด่านสุดหินของทัพ “ช้างศึก” อย่างแท้จริง
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1721790