เริ่มจากเลือกคนก่อน อย่ามั่นใจในความสามารถมากเกินไป ส่วนใหญ่เชื่อแล้วนะว่าที่นาตาลี เกลโบวาและเชรี่ ไอศวรรฎาไม่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการและทีมเทรนด์นางงาม เพราะว่าพวกคุณมั่นใจในความสามารถของตนเอง โดยไม่คำนึงเลยว่าคนที่มีความสามารถมากกว่าตนเองก็มีอยู่ แถมเป็นคนที่แสดงความสามารถนั้นออกมาอย่างเปิดเผย ไม่ได้หลบๆ ซ่อนๆ คัดเลือกคนก็ช่วยคัดเลือกคนที่ครบเครื่องที่สุดด้วยค่ะ ความพร้อมเรื่องครอบครัวไม่เกี่ยว เพราะได้ยินว่าปีที่แล้วที่วีณาไม่มงเพราะมีปัญหาทางครอบครัวไม่พร้อม ต้องครบเครื่องทุกอย่างค่ะ ความสวยนำ ทัศนคติรอง โปรไฟล์ตาม ภาษาพอสื่อสาร หุ่นต้องดีทุกคนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องชุด ได้ข่าวว่า Asava เลิกทำแล้ว ก็ได้โปรดไปเชิญตัวพี่โจ้กลับมาเถอะค่ะ แล้วก็ฝากเชิญ Vatanika Poem แล้วก็ Sirivanvanari มาด้วยนะคะ อ้อ แล้วก็แบรนด์ที่เคยทำชุดหลักก่อน Asava อ่ะค่ะ เห็นชุดสวยมากเลย ชุดไม่เคยซ้ำแบบเลยซักชุด ส่วนชุดประจำชาติเนี่ย ช่วยเลือกแบบคำนึงถึงอนาคตและตัวผู้ใส่ด้วย ว่าผู้ใส่เหมาะกับชุดแบบไหน ส่วนเรื่องของอนาคตก็คือเรื่องการตัดเย็บ ให้มันพอดีๆ ชุดไม่หนักเกินไป และคิดวิธีไว้ล่วงหน้าทั้งหมด การตอบคำถามและภาษา การฝึกไม่ช่วยอะไรมาก สิ่งสำคัญคือภาษาและไหวพริบของตัวนางงาม ที่จะสามารถตอบคำถามได้ดีในเวลาเพียงแค่ 1 นาทีได้หรือไม่ (ถ้าเข้า Top 5) และก็รอบ speech 20 วินาทีด้วย นางงามต้องฝึกวางถ้อยคำให้สละสลวยและกระชับได้ใจความหมายดี ส่วนการวางตัวภายในกองประกวด อันนี้ไม่ได้หมายความว่ามารยาทไทยไม่ดีนะ แต่นางงามไทยทุกปีกลับโชว์มารยาทไทยไม่ถูกที่ ถูกเวลา ในกองประกวด จะสุภาพ จะเรียบร้อย ก็เรื่องของคุณ แต่บนเวทีไม่ก็คนละเรื่องไง จริตมันต้องมาก่อน ไม่ต้องกังวลว่าทำแบบนั้นแล้วคนไทยจะด่ามั้ย ทำแบบนั้นแล้วคนไทยจะดราม่ามั้ย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวคุณแล้ว เป็นตัวของตัวเองและเชื่อมั่นในตนเอง จุดๆ นั้นเป็นของคุณ พอพิธีกรประกาศชื่อเรา "Thailand!" ปุ๊ป เวทีนั้นก็จะเป็นของคุณ คุณจะเดินแบบไหน จะด้วยจริตแบบไหน โพสต์ท่าปังๆ หมุนแบบฟูลเทิร์นก็ไม่มีใครว่าคุณ ขอให้ทีมงานปีนี้ทำงานให้ดีด้วยนะคะ แล้วมงที่สามก็จะลอยมาเองค่ะ ^^