สวัสดีค่ะ
ตอนนี้กำลังจะออกจากงานค่ะ เขียนใบลาออกแล้ว ลังเลที่จะหางานใหม่ เพราะมีที่มาค่ะ เดี๋ยวจะค่อยๆเรียบเรียง
พื้นฐานเดิม
--เรียนอยู่ กทม.คนเดียว 10 ปีจนจบปี 60
--เคยซิ่วจากพยาบาลเพราะทนเครียดไม่ไหว
--รักษาตัวด้วยโรคซึมเศร้า จริงจังตอน ปี 1-3
--ระหว่างเรียนมีแฟน 2 คน กินยานอนหลับเกินขนาดเพราะแฟนคนที่ 2 หลังจากนั้นหมอวินิจฉัยว่าเป็นไบโพล่าร์
--กินยาลิเทียม(ไบโพล่าร์) มาตั้งแต่ปี 3 จนปัจจุบัน รวมประมาณ 4 ปี
--ระหว่างนี้ทุกครั้งที่มีอาการเครียดและซึมเศร้า จะได้รับยาชนิดต่างๆ ดังนี้
Serlift 5mg
Ploizep Clorazepate 5 mg
Tranxene Clorazepate 5 mg
Tranavan Lorazepam1 mg
Prenapril 2 mg
Haloperidol 0.5 mg
ปัญหา
--หลังจากเรียนจบ ทำงานทันที ช่วงแรกสบายดี เงินเดือนสูงมาก
--ปีที่สองที่ทำงาน มีปัญหากับเพื่อนสนิทและหัวหน้าคนใหม่
--ร้องไห้อยู่หลายสัปดาห์ เครียดมาก ขับรถหลับใน ลาออกจากงานแรก กลางปี 2561
--ขนของกลับบ้านทั้งหมด (800km จาก กทม)
ตั้งใจอยู่บ้านอย่างต่ำ ครึ่งปี ซึ่งแผนทุกอย่างได้เขียนลงสมุดบันทึกแล้วปรึกษาจิตแพทย์ตลอดนะคะ
--ก.ย.-ต.ค. แม่ให้สอบงานใหม่ ได้อยู่จังหวัดใกล้ๆ กทม. มีบ้านพักเดิน 10 ก้าวถึงที่ทำงาน
--ทะเลาะกับพ่อแม่ใหญ่โตว่าทำไมไม่ห่วงลูก เป็นซึมเศร้าจะกลับมาอยู่บ้านด้วยทำไม่ให้ไปอยู่คนเดียวอีก
--ปรึกษาจิตแพทย์แถวบ้าน ท่านบอกว่ายังไงคนเราก็ต้องหาเงิน กังวลมากไป
--ยอมกลับมาทำงานเพราะติดแฟนมากด้วย แฟนอยู่ กทม. และอยากหาเงินเองอีกครั้ง
--สภาพงานใหม่ งานไม่ยาก ไม่ต้องขนกลับบ้าน ไม่ต้องคิดตลอดเวลา
--แต่วันหนึ่งเกิดกระทบกระทั่งกับเพื่อนร่วมงาน + รับไม่ได้ที่โดนพูดถึงในเรื่องไม่จริง
--สภาพการอยู่บ้านพักคือ เมื่อทุกคนเกิดแบนเรา การถูกโดดเดี่ยว จะยิ่งเฟลหนักมาก
--เฟลสามอาทิตย์ จนกินยานอนหลับอีกครั้งเพราะไม่อยากตื่นไปเจอหน้าคนที่ทำงาน ปรึกษาเจ้านายว่าจะลาออก
--เขียนใบลาออก 4 ม.ค. 61
--รออนุมัติ 1 ก.พ. 62
ในระหว่างนี้กำลังหางานใหม่ไปด้วย
แต่มีงานอื่นๆทำไปด้วยเช่น
--สอนพิเศษประจำ เสาร์อาทิตย์
--สัญญาใจกับรุ่นพี่ว่าจะช่วยทำแคมป์ซัมเมอร์
แต่ตอนนี้คิดมากจนไม่รู้จะไปทางไหนต่อกับชีวิต ถ้ารอทำแค่สอนพิเศษ จะขาดรายได้เดือน ก.พ. แน่นอน อาจจะยาวไปจนถึงหลังสงกรานต์
หรือควรยอมรับความจริงว่าตัวเองเป็นคนเซ้นซิทิฟมากเกินไป ยอมรับการถูกเกลียดหรือคำติไม่ได้ ต้องพัก หยุดทำงานไปบ้างเพื่อรักษาตัวจริงจังเสียที
ตอนนี้รู้ตัวว่าซึมเศร้าหนักเพราะอยู่แต่ในห้อง กินข้าวมื้อหรือสองมื้อ ไม่ออกไปไหน นอนถึง 20 ชั่วโมงในแต่ละวัน
ลางานมาสามวันเพราะจะสอบโทอิค แค่คิดว่าต้องกลับไปทำงาน ไปเจอคนเหล่านั้น ก็จะอ้วกแล้วค่ะ มันเครียดไปหมด
ทวนคำถาม :
ควรพักจากการทำงาน รักษาตัวจริงจังแล้วอยู่บ้านกับครอบครัว ?
หรือ
หางานเบาๆทำเช่นสอนพิเศษอย่างที่ทำอยู่ (แต่รายไ้ด้ไม่พอกับค่าที่อยู่และค่ากินต้องรบกวนพ่อแม่)
หรือ
ยอมรับว่าตัวเองห่วยจากงานเก่า และหางานทำใหม่ทันทีเพื่อหาเงิน ?
คนอื่นๆ หรือ เพื่อนๆที่เคยเป็นโรคซึมเศร้าและหายจากโรคหรือดีขึ้นแล้ว มีความเห็นว่าอย่างไรคะ?
ชีวิตหลังจากลาออกจากงานเพราะโรคซึมเศร้า ควรไปทางไหนดีคะ?
ตอนนี้กำลังจะออกจากงานค่ะ เขียนใบลาออกแล้ว ลังเลที่จะหางานใหม่ เพราะมีที่มาค่ะ เดี๋ยวจะค่อยๆเรียบเรียง
พื้นฐานเดิม
--เรียนอยู่ กทม.คนเดียว 10 ปีจนจบปี 60
--เคยซิ่วจากพยาบาลเพราะทนเครียดไม่ไหว
--รักษาตัวด้วยโรคซึมเศร้า จริงจังตอน ปี 1-3
--ระหว่างเรียนมีแฟน 2 คน กินยานอนหลับเกินขนาดเพราะแฟนคนที่ 2 หลังจากนั้นหมอวินิจฉัยว่าเป็นไบโพล่าร์
--กินยาลิเทียม(ไบโพล่าร์) มาตั้งแต่ปี 3 จนปัจจุบัน รวมประมาณ 4 ปี
--ระหว่างนี้ทุกครั้งที่มีอาการเครียดและซึมเศร้า จะได้รับยาชนิดต่างๆ ดังนี้
Serlift 5mg
Ploizep Clorazepate 5 mg
Tranxene Clorazepate 5 mg
Tranavan Lorazepam1 mg
Prenapril 2 mg
Haloperidol 0.5 mg
ปัญหา
--หลังจากเรียนจบ ทำงานทันที ช่วงแรกสบายดี เงินเดือนสูงมาก
--ปีที่สองที่ทำงาน มีปัญหากับเพื่อนสนิทและหัวหน้าคนใหม่
--ร้องไห้อยู่หลายสัปดาห์ เครียดมาก ขับรถหลับใน ลาออกจากงานแรก กลางปี 2561
--ขนของกลับบ้านทั้งหมด (800km จาก กทม)
ตั้งใจอยู่บ้านอย่างต่ำ ครึ่งปี ซึ่งแผนทุกอย่างได้เขียนลงสมุดบันทึกแล้วปรึกษาจิตแพทย์ตลอดนะคะ
--ก.ย.-ต.ค. แม่ให้สอบงานใหม่ ได้อยู่จังหวัดใกล้ๆ กทม. มีบ้านพักเดิน 10 ก้าวถึงที่ทำงาน
--ทะเลาะกับพ่อแม่ใหญ่โตว่าทำไมไม่ห่วงลูก เป็นซึมเศร้าจะกลับมาอยู่บ้านด้วยทำไม่ให้ไปอยู่คนเดียวอีก
--ปรึกษาจิตแพทย์แถวบ้าน ท่านบอกว่ายังไงคนเราก็ต้องหาเงิน กังวลมากไป
--ยอมกลับมาทำงานเพราะติดแฟนมากด้วย แฟนอยู่ กทม. และอยากหาเงินเองอีกครั้ง
--สภาพงานใหม่ งานไม่ยาก ไม่ต้องขนกลับบ้าน ไม่ต้องคิดตลอดเวลา
--แต่วันหนึ่งเกิดกระทบกระทั่งกับเพื่อนร่วมงาน + รับไม่ได้ที่โดนพูดถึงในเรื่องไม่จริง
--สภาพการอยู่บ้านพักคือ เมื่อทุกคนเกิดแบนเรา การถูกโดดเดี่ยว จะยิ่งเฟลหนักมาก
--เฟลสามอาทิตย์ จนกินยานอนหลับอีกครั้งเพราะไม่อยากตื่นไปเจอหน้าคนที่ทำงาน ปรึกษาเจ้านายว่าจะลาออก
--เขียนใบลาออก 4 ม.ค. 61
--รออนุมัติ 1 ก.พ. 62
ในระหว่างนี้กำลังหางานใหม่ไปด้วย
แต่มีงานอื่นๆทำไปด้วยเช่น
--สอนพิเศษประจำ เสาร์อาทิตย์
--สัญญาใจกับรุ่นพี่ว่าจะช่วยทำแคมป์ซัมเมอร์
แต่ตอนนี้คิดมากจนไม่รู้จะไปทางไหนต่อกับชีวิต ถ้ารอทำแค่สอนพิเศษ จะขาดรายได้เดือน ก.พ. แน่นอน อาจจะยาวไปจนถึงหลังสงกรานต์
หรือควรยอมรับความจริงว่าตัวเองเป็นคนเซ้นซิทิฟมากเกินไป ยอมรับการถูกเกลียดหรือคำติไม่ได้ ต้องพัก หยุดทำงานไปบ้างเพื่อรักษาตัวจริงจังเสียที
ตอนนี้รู้ตัวว่าซึมเศร้าหนักเพราะอยู่แต่ในห้อง กินข้าวมื้อหรือสองมื้อ ไม่ออกไปไหน นอนถึง 20 ชั่วโมงในแต่ละวัน
ลางานมาสามวันเพราะจะสอบโทอิค แค่คิดว่าต้องกลับไปทำงาน ไปเจอคนเหล่านั้น ก็จะอ้วกแล้วค่ะ มันเครียดไปหมด
ทวนคำถาม :
ควรพักจากการทำงาน รักษาตัวจริงจังแล้วอยู่บ้านกับครอบครัว ?
หรือ
หางานเบาๆทำเช่นสอนพิเศษอย่างที่ทำอยู่ (แต่รายไ้ด้ไม่พอกับค่าที่อยู่และค่ากินต้องรบกวนพ่อแม่)
หรือ
ยอมรับว่าตัวเองห่วยจากงานเก่า และหางานทำใหม่ทันทีเพื่อหาเงิน ?
คนอื่นๆ หรือ เพื่อนๆที่เคยเป็นโรคซึมเศร้าและหายจากโรคหรือดีขึ้นแล้ว มีความเห็นว่าอย่างไรคะ?