กระทู้นี้แชร์เพื่อเป็นกรณีศึกษา เพื่อเป็นตัวอย่าง เป็นข้อมูล หรือแนวทาง ความรู้ และเพื่อการแบ่งปันความรู้ให้นักลงทุนที่สนใจลงทุนในแนว DCA และสำหรับนักลงทุนท่านอื่นที่สนใจอ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในการลงทุนอีกแนวทางหนึ่งนะครับ ... เจ้าของกระทู้มิได้มีความมุ่งหวังเพื่อการอวดภูมิ อวดพอร์ต หรืออวดความเก่ง-ไม่เก่งแต่อย่างใดนะครับ หากท่านใดที่ไม่ชอบการลงทุนในแนว DCA หรือไม่อยากเสียเวลาในการอ่านกระทู้นี้ ...กรุณาข้ามกระทู้นี้ไปนะครับ...ขอบคุณครับ





สำหรับผมการออมหุ้นในไตรมาสที่สี่ของปี 2561 ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาหุ้นในเดือนธันวาคม 2560 พอสมควร ทำให้กำไรรวมในพอร์ตปรับตัวลดลงมากกว่ากำไรเมื่อสิ้นปี 2560 เนื่องจากราคาหุ้นส่วนใหญ่ยังต่ำกว่าราคาเมื่อปลายปี 2560 หลายๆหุ้น
ปัจจุบันผมก็ยังออมหุ้นต่อเนื่องทุกเดือน และได้ปรับเปลี่ยนหุ้นที่ออมบางตัว ... โดยจะเน้น DCA หุ้นที่มองว่าพื้นฐานยังมั่นคง การเติบโตยังสามารถเติบโตได้ดีต่อไปในอนาคต แม้ราคาหุ้นอาจจะไม่ถูกมาก หรือเริ่มแพง (ในช่วงหุ้นขึ้นๆ) แต่ผมก็ยัคง DCA ทุกเดือนจะไม่หยุด DCA ตามแนวทางของการออมหุ้น DCA (ไม่ว่าราคาหุ้นจะขี้นหรือลงก็ยังคงออมหุ้นอย่างสม่ำเสมอทุกๆเดือนครับ) โดยผมจะเน้นออมหุ้นที่ผมคิดว่าพื้นฐานดีมากๆ ธุรกิจมีโอกาสเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องทุกๆปี ให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าหุ้นที่พื้นฐานดีแต่อาจจะไม่เด่น หรือการเติบโตอาจจะน้อยกว่า.....
โดยหุ้นหลักๆที่ลงทุนมากก็จะเน้นหุ้นพื้นฐานดีเป็นหลัก ปัจจุบันที่ DCA อยู่ก็มี AOT BJC CPALL CPN EA และ GPSC โดยให้น้ำหนักการออมในแต่ละตัวไม่เท่ากัน หุ้นที่ชอบมากที่สุดช่วงนี้ก็เป็น AOT และ CPN ออมมากหน่อย ส่วนอีก 4 หุ้นก็ออมไปเรื่อยๆสักระยะหนึ่ง เม่ือได้จำนวนหุ้นมากพอแล้วก็คงหยุดออม ก็อาจจะออมหุ้นตัวอื่นแทน พักหลังๆการเลือกหุ้นที่จะ DCA ยากขึ้น หุ้นเติบโตต่อเนื่องเด่นๆไม่ค่อยมี ( ความเห็นส่วนตัว) ก็ยังเป็นหุ้นตัวเดิมๆแต่ Cpall เลยออมน้อยลงครับ
จากการ DCA มาหลายปี นับว่าปีนี้แย่ที่สุดเพราะพอร์ตรวมยังขาดทุน (-17.01%) ซึ่งที่ผ่านๆมา พอร์ตรวมจะมีกำไรทุกปี กำไรน้อยบ้าง มากบ้างสลับกันไป แต่ปีนี้ติดลบ ... และพอร์ต DCA ไม่ขาดทุน แต่กำไรก็ลดลงกว่าปลายปี 2560 .....แต่ก็นั่นแหละ DCA ก็มิได้หวังผลกำไรในระยะสั้น ก็คงต้องถือต่อไปเรื่อยๆ คงต้องมองปีหน้าอีกทีว่าจะดีกว่าปี 2561 หรือไม่?
สำหรับคนที่เพิ่งจะ DCA อาจจะหงุดหงิด และเปลี่ยนแนวทางไปก็ได้ ในปีนี้นักลงทุนประเภทเทคนิคัลที่เก่งๆคงจะมีกำไร ส่วนใหญ่น่าจะกำไรน้อย หรืออาจจะขาดทุนก็ได้ สำหรับวีไอหลายๆท่าน ปีนี้พอร์ตก็ลดลงกว่าปีก่อนพอสมควร สรุปรวมๆว่าปีนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ขาดทุน หรือไม่ก็มูลค่าพอร์ตลดลงกว่าปี 2560 นะครับ
และปีนี้พอร์ตติดลบถึง17.01% ซึ่งติดลบเป็นปีที่ 2 จาก 12 ปี นับว่าหุ้นปีที่ผ่านมาแย่เอามากกว่า เที
ยบเท่ากับปีที่เกิดซับไพร์มเลยที่เดียว
ก็มาดูพอร์ตสิ้นสุดไตรมาส 4 ก็แล้วกันครับ
1 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 5 ของเดือน

2 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 15 ของเดือน

3 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 25 ของเดือน

สำหรับหุ้นในพอร์ตรวม ผมจะให้สัดส่วนการลงทุนไม่เท่ากัน โดยลงทุนเน้นหนักในหุ้นที่มั่นใจว่าระยะยาวเติบโตดี และมั่นคง เป้นสัดส่วนที่มาก

ผลการลงทุนที่ผ่านมา 12 ปี และการเฉลี่ยรายปี
ผมคำนวณง่ายๆโดยรวมเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนของแต่ละปี หารด้วยจำนวนปีที่ลงทุน เพื่อต้องการให่เห็นภาพผลตอบแทนคร่าวๆนะครับ ไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกต้อง100% ครับ
แชร์ประสบการณ์การลงทุนออมหุ้นรายเดือนสิ้นสุด 28 ธันวาคม 2561 ( DCA ไตรมาส 4 ธันวาคม 2561 )
สำหรับผมการออมหุ้นในไตรมาสที่สี่ของปี 2561 ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาหุ้นในเดือนธันวาคม 2560 พอสมควร ทำให้กำไรรวมในพอร์ตปรับตัวลดลงมากกว่ากำไรเมื่อสิ้นปี 2560 เนื่องจากราคาหุ้นส่วนใหญ่ยังต่ำกว่าราคาเมื่อปลายปี 2560 หลายๆหุ้น
ปัจจุบันผมก็ยังออมหุ้นต่อเนื่องทุกเดือน และได้ปรับเปลี่ยนหุ้นที่ออมบางตัว ... โดยจะเน้น DCA หุ้นที่มองว่าพื้นฐานยังมั่นคง การเติบโตยังสามารถเติบโตได้ดีต่อไปในอนาคต แม้ราคาหุ้นอาจจะไม่ถูกมาก หรือเริ่มแพง (ในช่วงหุ้นขึ้นๆ) แต่ผมก็ยัคง DCA ทุกเดือนจะไม่หยุด DCA ตามแนวทางของการออมหุ้น DCA (ไม่ว่าราคาหุ้นจะขี้นหรือลงก็ยังคงออมหุ้นอย่างสม่ำเสมอทุกๆเดือนครับ) โดยผมจะเน้นออมหุ้นที่ผมคิดว่าพื้นฐานดีมากๆ ธุรกิจมีโอกาสเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องทุกๆปี ให้น้ำหนักการลงทุนมากกว่าหุ้นที่พื้นฐานดีแต่อาจจะไม่เด่น หรือการเติบโตอาจจะน้อยกว่า.....
โดยหุ้นหลักๆที่ลงทุนมากก็จะเน้นหุ้นพื้นฐานดีเป็นหลัก ปัจจุบันที่ DCA อยู่ก็มี AOT BJC CPALL CPN EA และ GPSC โดยให้น้ำหนักการออมในแต่ละตัวไม่เท่ากัน หุ้นที่ชอบมากที่สุดช่วงนี้ก็เป็น AOT และ CPN ออมมากหน่อย ส่วนอีก 4 หุ้นก็ออมไปเรื่อยๆสักระยะหนึ่ง เม่ือได้จำนวนหุ้นมากพอแล้วก็คงหยุดออม ก็อาจจะออมหุ้นตัวอื่นแทน พักหลังๆการเลือกหุ้นที่จะ DCA ยากขึ้น หุ้นเติบโตต่อเนื่องเด่นๆไม่ค่อยมี ( ความเห็นส่วนตัว) ก็ยังเป็นหุ้นตัวเดิมๆแต่ Cpall เลยออมน้อยลงครับ
จากการ DCA มาหลายปี นับว่าปีนี้แย่ที่สุดเพราะพอร์ตรวมยังขาดทุน (-17.01%) ซึ่งที่ผ่านๆมา พอร์ตรวมจะมีกำไรทุกปี กำไรน้อยบ้าง มากบ้างสลับกันไป แต่ปีนี้ติดลบ ... และพอร์ต DCA ไม่ขาดทุน แต่กำไรก็ลดลงกว่าปลายปี 2560 .....แต่ก็นั่นแหละ DCA ก็มิได้หวังผลกำไรในระยะสั้น ก็คงต้องถือต่อไปเรื่อยๆ คงต้องมองปีหน้าอีกทีว่าจะดีกว่าปี 2561 หรือไม่?
สำหรับคนที่เพิ่งจะ DCA อาจจะหงุดหงิด และเปลี่ยนแนวทางไปก็ได้ ในปีนี้นักลงทุนประเภทเทคนิคัลที่เก่งๆคงจะมีกำไร ส่วนใหญ่น่าจะกำไรน้อย หรืออาจจะขาดทุนก็ได้ สำหรับวีไอหลายๆท่าน ปีนี้พอร์ตก็ลดลงกว่าปีก่อนพอสมควร สรุปรวมๆว่าปีนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ขาดทุน หรือไม่ก็มูลค่าพอร์ตลดลงกว่าปี 2560 นะครับ
และปีนี้พอร์ตติดลบถึง17.01% ซึ่งติดลบเป็นปีที่ 2 จาก 12 ปี นับว่าหุ้นปีที่ผ่านมาแย่เอามากกว่า เที
ยบเท่ากับปีที่เกิดซับไพร์มเลยที่เดียว
ก็มาดูพอร์ตสิ้นสุดไตรมาส 4 ก็แล้วกันครับ
1 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 5 ของเดือน
2 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 15 ของเดือน
3 พอร์ตที่ซื้อทุกวันที่ 25 ของเดือน
สำหรับหุ้นในพอร์ตรวม ผมจะให้สัดส่วนการลงทุนไม่เท่ากัน โดยลงทุนเน้นหนักในหุ้นที่มั่นใจว่าระยะยาวเติบโตดี และมั่นคง เป้นสัดส่วนที่มาก
ผลการลงทุนที่ผ่านมา 12 ปี และการเฉลี่ยรายปี
ผมคำนวณง่ายๆโดยรวมเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนของแต่ละปี หารด้วยจำนวนปีที่ลงทุน เพื่อต้องการให่เห็นภาพผลตอบแทนคร่าวๆนะครับ ไม่ใช่ตัวเลขที่ถูกต้อง100% ครับ