ที่มา
https://www.facebook.com/183675461657982/posts/2952465461445621/
EU ประกาศยกเลิกธงเหลือง "ประมงผิดกฎหมาย" รองนายกรัฐมนตรี ย้ำปฎิรูปเพื่อกวาดล้างประมงที่ผิดกฎหมายเต็มที่
.
👦🏻👦🏻 นายคาร์เมนู เวลลา ประธานคณะกรรมาธิการด้านการประมงของ EU ได้พบปะกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีของไทย ในวันนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยนายเวลลาได้แสดงความยินดีต่อความพยายามของไทยในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อดำเนินการต่อผู้กระทำผิด
.
นายเวลลากล่าวว่า "ผมรู้สึกยินดีที่ในวันนี้เรามีพันธมิตรใหม่ในการต่อสู้กับการประมงที่ผิดกฎหมาย และเรื่องดังกล่าวจะยังคงเป็นประเด็นที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกของ EU"
.
ก่อนหน้านี้ EU ได้ขู่ที่จะยกเลิกการนำเข้าสินค้าประมงของไทยมานานกว่า 3 ปี เนื่องจากมองว่าไทยประสบความล้มเหลวในการกวาดล้างการประมงที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ดี หลังจากที่ไทยได้มีการหารือกับ EU และมีการปฏิบัติตามเงื่อนไข ทาง EU ก็ได้ประกาศปลดธงเหลืองต่อการนำเข้าผลิตภัณฑ์ด้านการประมงของไทยในวันนี้
.
👦🏻👦🏻 ด้าน พล.อ.ฉัตรชัย ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ EU ในเดือน พ.ค.ปีที่แล้วว่า รัฐบาลไทยมีความตั้งใจในการปฎิรูปการประมงให้เกิดความยั่งยืน และมีการปรับปรุงการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติในภาคประมง เน้นบังคับใช้กฎหมาย ดำเนินการกับผู้กระทำผิด ซึ่งจนถึงปัจจุบันได้ดำเนินคดีไปแล้วทั้งหมด 4,427 คดี มีคำตัดสินไปแล้ว 3,883 คดี หรือคิดเป็น 88% ในฐานความผิดต่างๆ เช่น ไม่ติดตั้งระบบ VMS, ไม่แจ้งจุดจอดเรือ รวมถึงความผิดเกี่ยวกับการทำประมง เช่น เรือนอกน่านน้ำ ซึ่งในคดีทั้งหมดมีความผิดด้านค้ามนุษย์ภาคประมง 88 คดี
.
นอกจากนี้ ไทยได้ออกคำสั่งให้เจ้าของเรือปฎิบัติในเรื่องการดูแลลูกจ้างอย่างถูกต้อง เช่น กรณีสัญญาจ้างที่ไม่สมบูรณ์ การค้างค่าจ้าง และดำเนินการลงโทษปรับกับเรือที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งมีคดีที่ศาลลงโทษปรับสูงสุดถึง 223 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงการปรับปรุงกระบวนการดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิดให้เกิดความรวดเร็ว ถือเป็นมิติใหม่
.
รวมถึงมีมาตรการทางการปกครองลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดภายใน 24 วัน ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ EU มีความพอใจในภาพรวม
.
พล.อ.ฉัตรชัย ได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ EU ว่า การดำเนินการทั้งหมดของไทยไม่ได้เพียงให้ EU ปลดธงเหลืองให้กับไทยเท่านั้น แต่ไทยมุ่งปรับการบริหารจัดการทั้งหมดเพื่อทำให้ภาคประมงของไทยมีความยั่งยืน ซึ่ง EU ถือเป็นพันธมิตรสำคัญในการทำงานกับไทย และยืนยันว่าไทยจะผลักดันกลไกต่างๆ เพื่อต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายอย่างเต็มที่ ในโอกาสที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปี 2562
EU ประกาศยกเลิกธงเหลือง "ประมงผิดกฎหมาย" รองนายกรัฐมนตรี ย้ำปฎิรูปเพื่อกวาดล้างประมงที่ผิดกฎหมายเต็มที่
https://www.facebook.com/183675461657982/posts/2952465461445621/
EU ประกาศยกเลิกธงเหลือง "ประมงผิดกฎหมาย" รองนายกรัฐมนตรี ย้ำปฎิรูปเพื่อกวาดล้างประมงที่ผิดกฎหมายเต็มที่
.
👦🏻👦🏻 นายคาร์เมนู เวลลา ประธานคณะกรรมาธิการด้านการประมงของ EU ได้พบปะกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีของไทย ในวันนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยนายเวลลาได้แสดงความยินดีต่อความพยายามของไทยในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อดำเนินการต่อผู้กระทำผิด
.
นายเวลลากล่าวว่า "ผมรู้สึกยินดีที่ในวันนี้เรามีพันธมิตรใหม่ในการต่อสู้กับการประมงที่ผิดกฎหมาย และเรื่องดังกล่าวจะยังคงเป็นประเด็นที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรกของ EU"
.
ก่อนหน้านี้ EU ได้ขู่ที่จะยกเลิกการนำเข้าสินค้าประมงของไทยมานานกว่า 3 ปี เนื่องจากมองว่าไทยประสบความล้มเหลวในการกวาดล้างการประมงที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ดี หลังจากที่ไทยได้มีการหารือกับ EU และมีการปฏิบัติตามเงื่อนไข ทาง EU ก็ได้ประกาศปลดธงเหลืองต่อการนำเข้าผลิตภัณฑ์ด้านการประมงของไทยในวันนี้
.
👦🏻👦🏻 ด้าน พล.อ.ฉัตรชัย ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ EU ในเดือน พ.ค.ปีที่แล้วว่า รัฐบาลไทยมีความตั้งใจในการปฎิรูปการประมงให้เกิดความยั่งยืน และมีการปรับปรุงการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติในภาคประมง เน้นบังคับใช้กฎหมาย ดำเนินการกับผู้กระทำผิด ซึ่งจนถึงปัจจุบันได้ดำเนินคดีไปแล้วทั้งหมด 4,427 คดี มีคำตัดสินไปแล้ว 3,883 คดี หรือคิดเป็น 88% ในฐานความผิดต่างๆ เช่น ไม่ติดตั้งระบบ VMS, ไม่แจ้งจุดจอดเรือ รวมถึงความผิดเกี่ยวกับการทำประมง เช่น เรือนอกน่านน้ำ ซึ่งในคดีทั้งหมดมีความผิดด้านค้ามนุษย์ภาคประมง 88 คดี
.
นอกจากนี้ ไทยได้ออกคำสั่งให้เจ้าของเรือปฎิบัติในเรื่องการดูแลลูกจ้างอย่างถูกต้อง เช่น กรณีสัญญาจ้างที่ไม่สมบูรณ์ การค้างค่าจ้าง และดำเนินการลงโทษปรับกับเรือที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งมีคดีที่ศาลลงโทษปรับสูงสุดถึง 223 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงการปรับปรุงกระบวนการดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิดให้เกิดความรวดเร็ว ถือเป็นมิติใหม่
.
รวมถึงมีมาตรการทางการปกครองลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดภายใน 24 วัน ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ EU มีความพอใจในภาพรวม
.
พล.อ.ฉัตรชัย ได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ EU ว่า การดำเนินการทั้งหมดของไทยไม่ได้เพียงให้ EU ปลดธงเหลืองให้กับไทยเท่านั้น แต่ไทยมุ่งปรับการบริหารจัดการทั้งหมดเพื่อทำให้ภาคประมงของไทยมีความยั่งยืน ซึ่ง EU ถือเป็นพันธมิตรสำคัญในการทำงานกับไทย และยืนยันว่าไทยจะผลักดันกลไกต่างๆ เพื่อต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายอย่างเต็มที่ ในโอกาสที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปี 2562