แบกเป้ใบเดียวแล้วไปเดินเที่ยวที่วอชิงตันดีซีและย่านเมืองเก่า Alexandria -Georgetown

สวัสดีค่ะกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ต่อจากการตอนที่เคยเล่าว่าไปซัมเมอร์ที่พอร์ตแลนด์มาใครยังไม่เคยอ่านลองเข้าไปอ่านกันเล่นๆก็ได้นะคะ
https://ppantip.com/topic/37964051
โดยกระทู้วันนี้จะเล่าถึงตอนไปวอชิงตันดีซีคนเดียวในวัย19ปี ในวันชาติอเมริกาค่ะ


หลังจากผ่านการวางแผนที่จะไปเที่ยวดีซีก่อนนอนกับ Nicole เกือบทุกคืน ก็ค่อนข้างมั่นใจว่า

เราจะรอด

เพราะจากการหาข้อมูลเกี่ยวกับดีซี มันก็ดูไม่มีอันตรายอะไร

ดีซีเป็นเมืองหลวงของอเมริกา มีตึกสูงสง่างามมากมาย

ถนนหนทางดูดี สะอาด

มีแหล่งสถานที่สำคัญทางการเมืองและประวัติศาสตร์ของอเมริกาอย่างทำเนียบขาวและตึกรัฐสภา

เมืองที่มีระบบขนส่งมวลชนดี

เมืองที่มีมหาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่งตั้งอยู่

เมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ในเครือ Smithsonian น่าสนใจหลายที่และที่สำคัญคือ มันฟรี

เมืองที่เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์บอกเล่าความทรงจำและความเป็นมาของชาติสหรัฐ

ทุกอย่างก็ดูดีไปหมด ไม่น่าจะติดขัดอะไร

แต่มันมาติดขัดที่เราไปวันที่ 4th of July เนี่ยสิ

มันทำให้แม่เราเป็นห่วงกลัวว่าจะมีการก่อการร้ายบ้าง ประท้วงบ้าง คนเยอะบ้าง

แต่เรากลับไม่ได้คิดถึงจุดนั้นเลย คิดแต่ว่า

' โชคดีซะอีก ที่ได้มีโอกาสไปวันชาติอเมริกา '

เราก็พยายามพูดโน้มน้าวแม่ซึ่งเป็นงานถนัดเรา ว่า

" แม่ มันไม่มีไรหรอก มันปลอดภัยจะตายไป เนี่ยปลอดภัยกว่าไทยอีก วันงานเค้ามีตำรวจเยอะแยะ อีกอย่างบ้านพ่อแม่โฮส กับเพื่อนพ่อก็อยู่ที่นั่น มีไรเค้าคงช่วยเราได้ "

จนแม่เรายอมใจอ่อนให้ไป

Washington D.C. เมืองหลวงอเมริกาอยู่ระหว่างรัฐเวอร์จิเนียและรัฐแมริแลนด์ เป็นเขตปกครองพิเศษ ไม่ได้มีสภาพเป็นรัฐเหมือนรัฐอื่นๆ

โดย Washington คือชื่อประธานาธิบดีคนแรก

ส่วน D.C. ย่อมาจาก District of Columbiaมาจาก Christopher Columbus ผู้ที่ได้เดินเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและทำให้ชาวยุโรปรู้จักทวีปอเมริกา

คนส่วนใหญ่ก็เรียกแค่ดีซี

เพราะถ้าเรียกแค่ Washington จะหมายถึงรัฐ Washington รัฐเพื่อนบ้าน Oregon ทันที

เศษกระดาษกับการวางแผนเที่ยว


โดยจากการศึกษาพบว่า วอชิงตันดีซีสามารถเดินเที่ยวได้ทั้งวัน เที่ยวง่าย เพราะสถานที่สำคัญต่างๆส่วนใหญ่อยู่ใกล้กันอย่าง Washington Monument, Capitol hill และ Lincoln Memorial

ดูได้จากรูปนี้


ถึงวันเดินทาง

เราขึ้นเครื่องประมาณทุ่มนึงแต่เรามาถึงสนามบินเร็วมาก ตั้งแต่ 4 โมง คือเรามาคนเดียวไง เลยรีบมาเร็วก่อนดีกว่า เผื่อพลาด

เราเช็คอินผ่านเครื่อง self check in โดยใช้บัครเดบิตที่เราใช้จ่าย ที่มีชื่อเรารูดเข้าไปในเครื่อง check in

เป็นหลักฐานยืนยันว่าเป็นเรา


อย่างที่บอก เรามาถึงสนามบินเร็วมาก มารอที่เกทตั้งแต่ผู้โดยสารไฟล์ทที่จะบินก่อนหน้าเรายังอยู่อะ



เดินทางไปเที่ยวคนเดียวครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นดี ดูมี energy แปลกๆ ไม่รู้จะคุยกับใคร ก็นั่งวางแผนเรื่องเที่ยวในหัวไป จะได้ไม่เหงา
เราเดินทางประมาณ 7 ชม. รวมเปลี่ยนเครื่องที่ seattle โดยเวลาที่ดีซี เร็วกว่า Portland อยู่ 3 ชั่วโมง ก็คือเราจะไปถึงที่ดีซีประมาณ 6 โมงเช้า
เวลา 6.00 am เครื่องลงมาถึงสนามบิน Dulles เรารีบเดินไปทางออก

ขณะที่เดินได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แม่ของ Nicole โทรมาบอกว่า

" รออยู่ตรง baggage claim หมายเลข 7 นะ "

เราก็ถามทางคนแถวนั้น ในใจก็ตื่นเต้นที่จะได้เจอหน้าพ่อแม่ Nicole

พอไปถึงเราก็พยายามมองหาผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าตามที่ Nicole ส่งรูปมาให้ดูก่อนหน้านี้เพื่อจะได้หาเจอง่ายขึ้น

เจอแล้ว แม่ของ Nicole ชื่อ Marita วินาทีแรกที่เราเจอ

Marita เดินเข้ามากอดเรา ทำให้เรารู้สึกอบอุ่น ไม่ awkward

พอหันไปมองคนข้างๆ ก็เห็นพ่อของ Nicole ชื่อ Ken

Ken เดินมาจับมือทักทาย พร้อมพูดประโยคแรกกับเราว่า

" You are so brave doing this "

เราก็เขินๆ ตอบกลับไปว่า

" I can't believe myself too this is my first time travelling alone "

เดินออกไปนอกสนามบิน อากาศข้างนอกยังไม่ถึงกับร้อนมาก Marita หันมาแล้วบอกว่า

" พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเท่าไหร่ รอขึ้นก่อนสิ ร้อนจนเธอต้องถอดเสื้อ jacket ออกแน่ๆ haha "

เข้าไปในรถ Marita ก็ยื่นน้ำมาให้ 1 ขวด " this is your water I bring it for you "

ระหว่างทางนั่งรถ Kenกับ Marita ก็คอยอธิบายสถานที่เที่ยวต่างๆให้ฟัง



พร้อมกับยื่น map ที่เตรียมไว้มาให้เรา เป็น map เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและการใช้

metro


Ken และ Marita จะไปส่งเราที่ Smithsonian station
ก่อนลง Ken ก็บอกว่า

" วันนี้เป็นวัน 4th of July วันชาติอเมริกา ทำให้ถนนบางเส้นมีการปิดและตอนกลางคืนคนจะเยอะมาก "

Ken เลยแนะนำเรื่องตอนขากลับว่า

" ถ้าเราอยากดูดอกไม้ไฟมันเลิกประมาณสามทุ่มครึ่ง ก็สามารถดูได้นะ ตอนกลับแค่ให้เรานั่ง Metro มาลงที่สถานี Springfield ซึ่งเป็นสถานีปลายทาง แล้วเดี๋ยวเค้าจะมารับที่นี่เพื่อความสะดวก "

( พอพูดถึง Springfield ก็ทำให้เรานึกถึงที่ Nicole เคยเล่าว่า เป็นสถานที่แรกที่เค้ากับ Michael เจอกัน )

ตกลงเสร็จเรียบร้อย เรากำลังจะลงจากรถ Marita ก็ย้ำเรื่อง jacket อีกทีว่า

" เอา Jacket ฝากไว้ในรถไหม มันร้อนนะ "

ด้วยความที่เราอยากใส่เป็นพร็อพถ่ายรูปไงเลยบอกไม่เป็นไรแล้วเราก็ลงจากรถไป

เอาล่ะเราเริ่มฉายเดี่ยวเที่ยวเองแล้ว ตอนนี้เวลา 7 โมง บรรยากาศยังเงียบๆ ผู้คนไม่มากนัก

เราไปซื้อบัตร Metro ก่อนเลย


นี่เป็นบัตร smart trip บัตรโดยสาร metro ที่เป็นลายเกี่ยวกับวันชาติอเมริกา ซึ่งมีจำกัด เฉพาะคนที่ซื้อบัตรวันนี้เท่านั้น ดีเหมือนกัน เหมือนได้ของที่ระลึกกลับไป


สภาพเมืองตอนเช้า ประมาณ 7 โมง ยังเงียบๆอยู่ แทบจะไม่มีคนเลย







เรายังไม่ได้กินอะไร แถวนี้หาร้านของกินยาก มีแต่ food truck ที่แต่ละร้านก็ขายของเหมือนกัน ราคาเดียวกัน

เราเหลือบไปเห็น food truck ใกล้ๆ เลยซื้อ Beef sausage ราคาประมาณ 3 เหรียญ


เราเริ่มจากการเดินไปแถว Washington Monument



เป็นอนุเสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของเมกา เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในวอชิงตันดีซี (169เมตร) โดยหินแต่ละก้อนจะถูกนำมาจากทุกรัฐของอเมริกาและต่างประเทศ สื่อถึงการรวมชาติอเมริกา ถึงแม้จะไม่ได้มีลวดลายหรือรูปทรงแปลกตาแบบหอไอเฟล แต่ก็ให้ความรู้สึกอีกแบบคือเรียบง่าย สูงใหญ่ อลังการมาก

ตรงนั้นจะมีพวกทหารและวงดุริยางค์ มาเตรียมความพร้อมเพื่อเดินพาเหรดในช่วงสายๆ


ในขณะที่เรากำลังพยายามเซลฟี่ถ่ายรูปตัวเอง ก็ได้ยินเสียงคนถามว่า
" ถ่ายรูปให้ไหม "

เราก็ยิ้มและรีบตอบตกลงทันที ถ่ายเสร็จ พอเค้ารู้ว่าเรามาจากไทยแลนด์ เค้าก็ถามเกี่ยวกับเรื่องข่าวถ้ำหลวงทันที

เราก็ตอบไปว่าตอนนี้รอดแล้ว ตอนนั้นข่าวเรื่องนี้ดังมาก ดังไปทั่วโลกเลย ใครรู้ว่าเรามาจากไทย ก็จะถามเรื่องนี้ตลอด

อันนี้เป็นรถไกด์สามล้อนำเที่ยว เป็นเหมือนทัวร์เล็กๆ








Capital hill

หรือ US Capitol เป็นอาคารรัฐสภาที่ถือว่าสวยเป็นอันดับ 1 ของโลก เป็นสัญลักษณ์ของกรุงวอชิงตัน ดีซี เวลามีประชุมของฝ่ายสภานิติบัญญัติก็จะมาประชุมกันที่นี่
น่าเสียดายที่วันนั้นที่ Capital hill มีก่อสร้างปรับปรุงอยู่

เดินดูได้สักพัก ก็รู้สึกว่าอากาศมันร้อนมาก เหงื่อเต็มตัวเลย เก็บ jacket ที่เอามาใส่กระเป๋าดีกว่า รู้งี้ฝาก Marita ไว้ที่รถตั้งแต่แรกก็ดี
นึกถึงคำที่ Marita บอกเลยว่า
' ร้อนจนเธอต้องถอด jacket ออกแน่ๆ '
เรานั่งพักเปิด map ว่าจะไปไหนดี
[img]https://f.ptcdn.info/843/061/000/pl
พยายามจะหาทางนั่งบัสไปที่จุดอื่นๆ เพราะไม่อยากเดินมันเหนื่อย
ก็พบว่า
วันนี้ เวลานี้ถนนบางเส้นปิด และไม่มีบัสวิ่ง
เราเลยเข้าไปนั่งพักตากแอร์ที่
Smithsonian castle

ข้างในเป็น visitor center
เราซื้อน้ำอัดลม กับเค้กมากิน เค้กก็ตกแต่งเป็นสีธงชาติอเมริกา
พอกินเสร็จก็หยิบบัตร atm จะไปกดเงิน
เราเก็บขยะแล้วเอาไปทิ้ง ก่อนจะพบว่า
อ่าว บัตร atm อยู่ไหนวะ
เห้ย ในเป๋ากางเกงก็ไม่ใช่
นี่มันบัตร metro
พยายามหาก็ไม่เจอ
นึกขึ้นได้
หรือว่าเผลอทิ้งลงไปในถังขยะวะ
เลยไปคุ้ยถังขยะดู เออเจอบัตรจริงด้วย เกือบไปแล้วไหมละ
ตอนนี้กลับมาแล้วยังนึกขำอยู่เลยว่า ครั้งนึงเราเคยไปคุ้ยถังขยะที่ Smithsonian visitor center
เดินออกมาข้างหลังเป็นสวนเล็กๆ



อย่างที่บอกวันนี้วันชาติอเมริกา
วันชาติอเมริกา 4th of July หรือที่คนที่นี่เรียกกันว่า Independence day
เป็นวันที่ ทอมัส เจฟเฟอร์สัน ซึ่งต่อมาได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ร่าง "คำประกาศอิสระภาพ" หรือ "คำประกาศเอกราชจากสหราชอาณาจักร" ส่งให้แก่อังกฤษ ก่อให้เกิดประเทศใหม่ชื่อว่า "สหรัฐอเมริกา"

ดังนั้นในวันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปี ชาวอเมริกันจะประดับประดาธงชาติของตนด้วยความภาคภูมิใจในการเฉลิมฉลอง เสรีภาพและประชาธิปไตย
โดยในปีนี้ (พ.ศ. 2561) จะถือว่าประเทศสหรัฐอเมริกามีอายุครบ 242 ปีแล้ว
และที่เมืองหลวงอย่างวอชิงตันดีซีที่เรามาในวันนี้ก็มีงาน 2 งานหลักๆที่เราตั้งใจมาดูก็คือ
พาเหรด กับดอกไม้ไฟ โดยพาเหรดจะเริ่มในเวลาใกล้ๆนี้คือ 11.45 am
ส่วน ดอกไม้ไฟเริ่ม 9.00 pm
พาเหรดจะเริ่มตั้งแต่ constitution Ave 7-17 เรารีบไปจองที่นั่งก่อนพาเหรดเริ่มสักชั่วโมงนึง
เราเดินผ่านตรงจุดแรกที่ขบวนพาเหรดจะเริ่ม บรรยากาศมีแต่ชาวเมกัน เราแทบจะไม่เห็นคนเอเชียเลย
คนเยอะมาก ตำรวจรักษาความปลอดภัยก็แน่น มีนักข่าวจากหลายสำนักมาทำข่าว หรือไม่ก็มาสัมภาษณ์คนที่มาชมพาเหรดบ้าง
[img]https://f.ptcdn.info/844/061/000/pl00ox1pl71uYG6ry
ตอนนั้นมีการพูดปราศรัยด้วย ข้างๆตึกนั้นมี Protest ไรสักอย่างเราไม่ได้ถ่ายมา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่